เลือกตั้ง 66 : เชียงใหม่ “พรรคเพื่อไทย” ได้ ส.ส. ยกจังหวัด ?

"เชียงใหม่" ถือเป็นเมืองหลวงของ “พรรคเพื่อไทย” ในภาคเหนือ ที่จะต้องกวาดที่นั่งทั้ง 10 เขตให้ได้ เพราะนอกจากเป็นฐานคะแนนใหญ่แล้ว ยังถือเป็นศึกแห่งศักดิ์ศรีที่แพ้ไม่ได้ แม้แต่เขตเดียว

เชียงใหม่ เขต 1

เขตเลือกตั้งที่ 1 “นายจักรพล ตั้งสุทธิธรรม” หรือ “ส.ส.ท็อป” ทาง "พรรคเพื่อไทย" มองว่ามีภาพความเป็นคนรุ่นใหม่ จึงหวังเอาคะแนนกลุ่มคนนี้มาเติมเต็มในฐานเสียงเดิมที่แน่นอยู่แล้ว โดยมีคู่แข่งสำคัญอย่าง “พรรคก้าวไกล” ที่ส่ง “พลอย - เพชรรัตน์ ใหม่ชมภู” ลูกสาว “ไพรัช ใหม่ชมภู” อดีตรองนายก อบจ.เชียงใหม่ กลุ่มเชียงใหม่คุณธรรม ของ “บุญเลิศ บูรณุปกรณ์” มาลงสู้ศึกในครั้งนี้

การเลือกตั้งครั้งนี้แม้กระแส “พรรคเพื่อไทย” จะมาแรง แต่เขต 1 ซึ่งเป็นพื้นที่อำเภอเมืองเชียงใหม่ และเป็นเมืองมหาวิทยาลัย ทำให้กระแสพรรคเพื่อไทยอาจมีผลไม่มากนักในเขตนี้

และมีผลให้ “พลอย-เพชรรัตน์” จาก “ก้าวไกล” ที่ลงสมัครระบบเขตเป็นครั้งแรก มีคะแนนนำ “นายจักรวาล” จาก “เพื่อไทย” ดีกรีอดีต ส.ส.เชียงใหม่ เขต 3 ที่การเลือกตั้งครั้งนี้ย้ายมาลงเขต 1 แทนที่ “นางสาวทัศนีย์ บูรณุปกรณ์” เพราะ “เจ๊แดง – นางเยาวภา ชินวัตร” ไม่ไว้ใจตระกูลบูรณุปกรณ์ ยกแรก “พลอย” จาก “ก้าวไกล” นำ “จักรวาล” จาก “พรรคเพื่อไทย” แบบสูสี

เชียงใหม่ เขต 2

เขตเลือกตั้งที่ 2 “โกวิทย์ พิริยะอานันต์” หรือ “ส.จ.เก่ง” อดีตสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) “พรรคเพื่อไทย” ลงสมัคร ส.ส. ครั้งแรก จะเจอคู่แข่งคนสำคัญอย่าง “การณิก จันทดา” จาก “พรรคก้าวไกล” เภสัชกรสาว และอดีตแอร์โฮสเตส ซึ่งพื้นที่นี้ไม่ง่ายที่ “พรรคเพื่อไทย” จะครองพื้นที่ได้

เขตนี้จะเป็นการต่อกรที่ค่อนข้างสูสีและสนุกระหว่างพรรคการเมืองขั้วเดียวกัน คือ “ก้าวไกล” กับ “เพื่อไทย” 

“สจ.เก่ง” จาก “เพื่อไทย” มีจุดอ่อนคือลงสมัคร ส.ส. ครั้งแรก แม้กระแสพรรคดี แต่กระแสตัวบุคคลยังสู้ “การณิก” จาก “ก้าวไกล” ไม่ได้

เขตนี้ “การณิก” จาก “ก้าวไกล” นำในช่วงต้น ทั้งกระแสคนและกระแสพรรค ส่วน “สจ.เก่ง” จาก "เพื่อไทย" หากกระแสพรรคยังแรงช่วงโค้งสุดท้าย จึงจะมีโอกาสกลับมาพลิกเอาชนะ “การณิก” ได้ 

เชียงใหม่ เขต 3

เขตเลือกตั้งที่ 3 เป็นอีกหนึ่งพื้นที่ที่ต้องจับตามอง มี “นางสาวทัศนีย์ บูรณุปกรณ์” ส.ส.เขต 1 “พรรคเพื่อไทย” ที่ ถูกโยกมาลงเขต 3 แทน “นายจักรพล” หรือ “ส.ส.ท็อป”

แม้จะไม่ต้องออกแรงมากนัก เพราะเป็นบ้านเกิดตระกูลชินวัตร โอกาสเข้าป้ายมีสูง แต่ยังมีอีกหนึ่งผู้สมัครที่มีความน่าสนใจ คือ “กอล์ฟ - นายณัฐพล โตวิจักษณ์ชัยกุล” ที่ลงสมัครในนาม “พรรคก้าวไกล” ด้วยเป็นคนรุ่นใหม่ และยังเป็นลูกชายของ “สุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล” นักการเมืองชื่อดัง ถือว่าเป็นอีกหนึ่งเขตที่ "เพื่อไทย" จะประมาทไม่ได้

แต่โดยภาพรวมแล้ว เขต 3 ในการวิเคราะห์ช่วงโค้งแรก “ทัศนีย์” จาก “พรรคเพื่อไทย” ออกตัวนำไปก่อน

เชียงใหม่ เขต 4

เขตเลือกตั้งที่ 4 คาดว่า ส.ส. 5 สมัยอย่าง “วิทยา ทรงคำ” จาก “พรรคเพื่อไทย” ยังคงจะรั้งเก้าอี้ไว้ได้ จากกระแส “พรรคเพื่อไทย” ที่ยังมาแรง

แม้ว่าจะเป็นอีกหนึ่งพื้นที่ที่มีการแข่งขันสูงกับ “พรรคก้าวไกล” และ “พรรคไทยสร้างไทย” แต่ฐานเสียงของคนรักเพื่อไทยยังถือว่าเหนียวแน่น ในเขตนี้ “วิทยา” จาก “เพื่อไทย” ยังคงมีโอกาสมากที่สุด

เชียงใหม่ เขต 5  

เขตเลือกตั้งที่ 5 คาดว่า เก้าอี้ยังคงจะเป็นของ “นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์” ส.ส.พรรคเพื่อไทย เจ้าของพื้นที่ 4 สมัย ด้วยฐานเสียงจากผู้นำชุมชนคนรักเพื่อไทย

แม้ว่าจะมี “ป้ำ - นายเดชนัฐวิทย์ เตริยาภิรมย์” ลูกชาย “นายบุญทรง เตริยาภิรมย์” อดีตรมว.พาณิชย์ หรือ “ดร.แป้ง - เดือนเต็มดวง ณ เชียงใหม่” อดีตนายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ ที่เคยล้มช้างอย่าง “นายบุญเลิศ บูรณุปกรณ์” มาแล้ว แต่ด้วยประสบการณ์ทางการเมือง และฐานเสียงที่หนาแน่น เขต 5 “จุลพันธ์” จาก “เพื่อไทย” มีโอกาสเข้าสภามากที่สุด

เชียงใหม่ เขต 6

เขตเลือกตั้งที่ 6 “นายแพทย์ไกร ดาบธรรม” ผู้สมัครจาก “พรรคเพื่อไทย” อดีตผู้อำนวยการโรงพยาบาลแม่อาย เป็นอีกหนึ่งในบุคคล ที่มีประสบการณ์ทางการเมืองเชียงใหม่มาอย่างยาวนาน โดยกระแสในพื้นที่ยังคงเทไปทาง “พรรคเพื่อไทย”

แต่เขตนี้ “หมอไกร” อาจเจอศึกหนักจาก “พรรคก้าวไกล” ที่ส่ง “อรพรรณ จันตาเรือง” อดีตรองนายก อบต.เชียงดาว มีฐานเสียงแน่นในอำเภอเชียงดาว ลงสมัคร เพราะเขตนี้เดิม "เพื่อไทย" จะส่ง “นายบรรจงศักดิ์ วงศ์รัตนวรรณ” คนสนิทของ “นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์” ลงชิงชัย

แต่เมื่อทำโพลแล้ว ปรากฏว่า แพ้ “นางอรพรรณ” จากก้าวไกล “นายสมพงษ์” จึงให้ “บรรจงศักดิ์” ไปลงบัญชีรายชื่อ และขยับ” นายแพทย์ไกร” ที่มีคะแนนนิยมดีในอำเภอไชยปราการ เพื่อสู้กับ “ก้าวไกล” ที่มีฐานเสียงแน่นในอำเภอเชียงดาว

เขตนี้แม้ “หมอไกร” จะเจอศึกหนัก แต่เมื่อเทียบกับ “นางอรพรรณ” จาก “ก้าวไกล” เชื่อว่า “หมอไกร” น่าจะอาศัยความชำนาญพื้นที่ ออกนำไปก่อนได้ เขตนี้จึงขอยกให้ “หมอไกร” จาก “เพื่อไทย” มีโอกาสมากที่สุด 

เชียงใหม่ เขต 7

เขตเลือกตั้งที่ 7 "พรรคเพื่อไทย" ส่ง “นายนิธิกร วุฒินันชัย” ผู้สมัครเขต 7 ลูกชาย “นายประสิทธิ์ วุฒินันชัย” ส.ส.เขต 5 เชียงใหม่ หลายสมัย เป็นอีกหนึ่งทายาทนักการเมือง ที่ลงพื้นที่แนะนำตัวกับประชาชนในพื้นที่มาไม่น้อย

แม้ต้องมาเจอกับกระดูกชิ้นโตอย่าง “นายสันติ ตันสุหัช” อดีต ส.ส. จาก "พรรคไทยรักไทย" ที่่ปีนี้มาลงในนาม “พรรครวมไทยสร้างชาติ” แต่ด้วยกระแส "พรรคเพื่อไทย" ยังแรงอยู่ เขต 7 จึงขอยกให้ “นิธิกร” จาก “เพื่อไทย” ออกตัวนำไปก่อน

เชียงใหม่ เขต 8

เขตเลือกตั้งที่ 8 “พรรคเพื่อไทย” ส่ง “นายณัฏฐ์พัฒน์ รัฐไผท” ลูกชาย “นายนพคุณ รัฐไผท” อดีต ส.ส. 5 สมัย ลงสมัคร เขตนี้เป็นการเปลี่ยนถ่ายทายาทการเมือง เพื่อเรียกคะแนนจากคนรุ่นใหม่ในพื้นที่ เพราะแม้ว่า "เพื่อไทย" จะครองพื้นที่มาอย่างเหนียวแน่น แต่ก็พยายามจะขยายฐานเสียงไปยังคนรุ่นใหม่ด้วย

เขตนี้จึงนับว่า ไม่ยากสำหรับพรรคเพื่อไทย เพราะแม้ผู้สมัครจะหน้าใหม่ แต่เป็นพื้นที่เดิมของผู้เป็นพ่อ และชื่อเสียงของพรรค ก็ยังเป็นต่อหลายขุม จึงขอยกให้ “นายณัญฐ์พัฒน์” จาก “เพื่อไทย” ออกตัวนำไปก่อน

 เชียงใหม่ เขต 9

เขตเลือกตั้งที่ 9 รอบนี้ “นายสุรพล เกียรติไชยากร” ส.ส.เชียงใหม่ 8 สมัยซ้อน “พรรคเพื่อไทย” จะกลับมาทวงคืนพื้นที่ หลังจากที่ศาลมีคำสั่งชนะคดี กกต. โดยคาดว่ากระแสพรรคเพื่อไทยที่ยังแรง สามารถที่จะเอาชนะ “นางสาวศรีนวล บุญลือ” จาก “พรรคภูมิใจไทย” ได้อย่างง่าย ๆ เขตนี้จึงขอยกให้ “นายสุรพล” จาก “เพื่อไทย” นำ

เชียงใหม่ เขต 10

เขตเลือกตั้งที่ 10 “พรรคเพื่อไทย” ได้นำคนรุ่นใหม่มาเป็นว่าที่ผู้สมัคร เพื่อดึงเสียงคนรุ่นใหม่ ในเขตนี้มีนิวโหวตเตอร์กว่า 17,000 คน ทางพรรคจึงส่ง “นางสาวศรีโสภา โกฏิคำลือ” ลงทำศึก โดยเธอเป็นลูกสาวของ “กำนันศรีเรศ โกฏิคำลือ” อดีต ส.ส. และผู้กว้างขวางในพื้นที่

โดยชื่อของ "กำนันศรีเรศ"ยังครองใจคนในพื้นที่ ซึ่งครั้งนี้ได้วางมือ ให้ลูกสาวรับไม้ต่อ โดยไม่ต้องกังวลคู่แข่งจากพรรคอื่น ฉะนั้นแล้ว เขต 10 นางสาวศรีโสภา จาก "พรรคเพื่อไทย" นำขาด

ภาพรวมทั้งจังหวัด "เชียงใหม่” จะยังคงเป็นเมืองหลวงของ "เพื่อไทย" ที่มีโอกาสกวาดที่นั่งได้ 8 - 10 เก้าอี้ หรือยกทั้งจังหวัดนั่นเอง