เวลา 19.00 น. วันที่ 27 เมษายน 2566 ที่สนามกีฬาเทศบาลตำบลหัวไทร และที่สถานีรถไฟชะอวด จังหวัดนครศรีธรรมราช น.ส.วทันยา บุนนาค (มาดามเดียร์) ประธานคณะทำงานนวัตกรรมการเมือง พรรคประชาธิปัตย์ ร่วมเวทีปราศรัยพร้อมนำเสนอนโยบาย และขอเสียงสนับสนุนให้ นายพิทักษ์เดช เดชเดโช ผู้สมัคร ส.ส.นครศรีธรรมราช เขต 3 (อำเภอหัวไทรและอำเภอปากพนัง) หมายเลข 1 และ ว่าที่ร้อยตรี ยุทธการ รัตนมาศ ผู้สมัคร ส.ส.นครศรีธรรมราช เขต 4 (อำเภอเชียรใหญ่ อำเภอเฉลิมพระเกียรติ และอำเภอชะอวด) หมายเลข 4
โดยมี นายชัยชนะ เดชเดโช ผู้สมัคร ส.ส.นครศรีธรรมราช เขต 5 และ นายชินวรณ์ บุญเกียรติ ผู้สมัคร ส.ส.นครศรีธรรมราช เขต 7 ร่วมขึ้นปราศรัยด้วย ซึ่งมีประชาชนร่วมรับฟังเป็นจำนวนมาก ท่ามกลางบรรยากาศที่คึกคักและเป็นกันเอง
น.ส.วทันยา กล่าวว่า เมื่อการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา พี่น้องชาวนครศรีธรรมราชบางส่วนอยากมีชีวิตที่ดีขึ้น ก็เลยไปลองของใหม่ ไปเลือก ส.ส.ใหม่ แล้วสุดท้าย 4 ปีที่ผ่านมามีอะไรดีขึ้นบ้างหรือไม่ ซึ่ง 4 ปีที่ผ่านมาเรายังอยู่กับปัญหาแบบเดิม ๆ ทั้งปัญหารายได้ ปัญหาเศรษฐกิจ ปัญหาโควิด และวันนี้ยังจะเจอปัญหาค่าไฟแพงทำให้อากาศที่ว่าร้อนยังต้องหนาวเมื่อเห็นบิลค่าไฟ และนี่ยังไม่นับรวมค่าแก๊ส ค่าน้ำมันที่ยังจะแพงขึ้นอีก แล้วอย่างนี้รอบที่แล้วปันใจไปลองของใหม่แต่ก็ไม่มีอะไรดีขึ้น ดังนั้นในวันที่ 14 พ.ค.นี้ เราจะต้องร่วมกันเปลี่ยนมาเลือกพรรคประชาธิปัตย์
น.ส.วทันยา กล่าวถึง นายพิทักษ์เดช และว่าที่ร้อยตรียุทธการ ว่า เป็นคนในพื้นที่ เป็นคนรุ่นใหม่ ที่วันนี้พรรคประชาธิปัตย์เราเปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่ได้เข้ามาทำงาน ได้เข้ามาขับเคลื่อน เพื่อแสดงให้เห็นว่าพรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้เป็นเพียงพรรคของคนรุ่นใดรุ่นหนึ่ง แต่พรรคประชาธิปัตย์ เป็นพรรคของคนทุกรุ่น ที่มีทั้งคนรุ่นใหม่อย่างนายพิทักษ์เดช และคนที่มีประสบการณ์ อย่าง
นายชวน หลีกภัย อดีตหัวหน้าพรรค นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรค นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เลขาธิการพรรค รวมถึงอีกหลายคนในพรรค ซึ่งคือสิ่งสำคัญที่ทำให้พรรคประชาธิปัตย์ ไม่ได้เป็นตัวแทนของคนรุ่นใดรุ่นหนึ่ง แต่พรรคประชาธิปัตย์เป็นพรรคของคนทุกรุ่น และเป็นพรรคของประชาชนอย่างแท้จริง
"การทำงานวันนี้เราจะมีทั้งแนวความคิดของคนรุ่นใหม่มาผสมผสานกับคนที่มากด้วยประสบการณ์ จะทำให้พี่น้องมั่นใจได้ว่าการทำงานของพรรคประชาธิปัตย์ การแก้ไขปัญหา การผลักดันนโยบาย การผลักดันกฎหมายต่าง ๆ จะเป็นการทำงานที่พิสูจน์ได้ว่า สามารถทำได้จริงแน่นอน" น.ส.วทันยา กล่าว
น.ส.วทันยา ยังได้กล่าวถึง นโยบายที่แจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท ว่า เงินดิจิทัลที่อยู่ในมือถือนั้นจะนำไปจ่ายหนี้นอกระบบได้หรือไม่ เช่นเดียวกับเงิน 700 บาท 1,000 บาท ที่จะเอามาช่วยนั้นก็เป็นเรื่องดี แต่นำไปทำมาหากิน นำไปตั้งต้นชีวิตได้หรือไม่ และที่สำคัญรู้ใช่ไหมว่าเงินที่เขาบอกจะเอามาแจกนั้นว่าเป็นเงินจากภาษีของพวกเรา ซึ่งน่าดีใจตรงไหนที่เอาเงินเรามาแจกตัวเราเอง แบบนี้เรียกว่าถูกหลอกได้หรือไม่ ดังนั้นจึงขอย้ำว่าพรรคประชาธิปัตย์ ไม่ได้ต้องการแก้ปัญหาแบบฉาบฉวย แต่เรามองว่าเราจะเพิ่มโอกาสให้ประชาชนได้อย่างไร เพื่อให้สามารถยืนได้ด้วยลำแข้งของตัวเองได้
นอกจากนี้ น.ส.วทันยา ยังย้ำว่า พรรคประชาธิปัตย์ มีนโยบายประกาศสงครามกับเสพติดแบบตาต่อตา ฟันต่อฟัน รวมไปถึงเรื่องของกัญชาเสรี ที่พรรคประชาธิปัตย์ประกาศจุดยืนชัดเจนว่าเราไม่เอากัญชาเสรี แต่หากเป็นกัญชาเพื่อการแพทย์พรรคประชาธิปัตย์ พร้อมสนับสนุน