
กองบรรณาธิการเครือเนชั่น ได้ทำการวิเคราะห์การเลือกทั่วประเทศ 400 เขต เพื่อให้คอข่าวการเมืองได้รับรู้ความเคลื่อนไหว เลือกตั้ง 2566 ทั้งในพื้นที่เขตตัวเองและนอกพื้นที่ เรียกว่าจัดให้อย่างเต็มอิ่ม โดยรายงานฉบับนี้เป็นเพียงช่วงแรกก่อนการเปิดหีบหย่อนบัตร ส่วนในช่วงโค้งสุดท้ายจะนำเสนอแบบลงรายละเอียดให้เห็นภาพกันแบบฟันธง
ซึ่งกองบรรณาธิการเครือเนชั่น ได้สำรวจวัดกระแสจากในพื้นที่ ทั้งสภากาแฟ ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัด และประชาชน ส่งข้อมูลมาที่ศูนย์กลางเครือเนชั่น ที่มีกว่า 10 สื่อฯ เพื่อร่วมกันวิเคราะห์ออกมาในแต่ละภาค ว่าแต่ละพรรคได้เท่าไร แต่ละจังหวัดเป็นอย่างไร
โดยเฉพาะพื้นที่ภาคอีสาน ซึ่งเป็นพื้นที่ตัดสินแลนด์สไลด์ ซึ่งมีจำนวนทั้งหมด 133 เขต พบว่า
เพื่อไทย นอนมา 100 เขต และยังมีพื้นที่ลุ้นอีก 25 เขต
ภูมิใจไทย นอนมา 22 เขตและยังมีพื้นที่ลุ้นอีก 24 เขต
พลังประชารัฐ นอนมา 3 เขตและยังมีพื้นที่ลุ้นอีก 15 เขต
ชาติพัฒนากล้า นอนมา 4 เขต
ไทยสร้างไทย นอนมา 4 เขตและยังมีพื้นที่ลุ้นอีก 2 เขต
ก้าวไกล นอนมา 1 เขตและยังมีพื้นที่ลุ้นอีก 9 เขต
ประชาธิปัตย์ นอนมา 1 และยังมีพื้นที่ลุ้นอีก 1 เขต
ชาติไทยพัฒนา นอนมา 1 เขตและยังมีพื้นที่ลุ้นอีก 2 เขต
รวมไทยสร้างชาติ มีพื้นที่ลุ้นอีก 3 เขต ไม่มีนอนมา
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
สำหรับ อุดรธานี มี 10 เขตเลือกตั้ง เพื่อไทยหวังแลนด์สไลด์
เพื่อไทยหวังแลนสไลด์ยกจังหวัด แต่คราวนี้ไม่แน่ หลายพรรคการเมืองหวังปักธง ทั้งพรรคไทยสร้างไทย ก้าวไกล รวมไทยสร้างชาติ และพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งคอการเมืองจับตากันอย่างใกล้ชิด เพราะแต่ละพรรคมีสิทธิ์ได้ลุ้นทั้งนั้นในการเลือกตั้งครั้งนี้
เขตเลือกตั้งที่ 1 “ศราวุธ เพชรพนมพร” อดีตส.ส.หลายสมัย ลงในนามพรรคเพื่อไทย ชนกับ “โกเมนทร์ ทีฆธนานนท์” เจ้าของตลาดเมืองทองเจริญศรี พรรคพลังประรัฐ ด้านพรรคก้าวไกล ส่ง “เคน ณัฐพงษ์ พิพัฒน์ไชยศิริ” ร่วมสังเวียน การเลือกตั้งรอบนี้ “ศราวุธ” ต้องออกแรงหนักง เพราะเจอศึก 2 ด้าน จากพลังประชารัฐ และก้าวไกล แต่ช่วงแรก “ศราวุธ” นำไปก่อนในฐานะแชมป์เก่า และกระแสพรรคที่มาแรง
เขตเลือกตั้งที่ 2 “หทัยรัตน์ เพชรพนมพร” อดีตรองนายกเทศมนตรี ลาออกมาลงสนามใหญ่ ชนกับ “ภูมิพันธ์ บุญมาตุ่น” จากพรรคไทยสร้างไทย ลงสนาม ส.ส.ครั้งแรกเหมือนกัน แต่ที่น่าจับตามองกลับเป็น “ภูษณิศา มหาวรากร” จากพรรคก้าวไกล อาจารย์สาวจาก คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชธานี เพราะเขตนี้ยังยึดโยงกับเขตอำเภอเมือง ซึ่งเป็นฐานเสียงใหญ่ขอพรรคก้าวไกล ทำให้ “ภูษณิศา” มีโอกาสล้มยักษ์ในเขตนี้ และในช่วงแรกยังเหนือกว่า
เขตเลือกตั้งที่ 3 “อนันต์ ศรีพันธุ์” แชมป์เก่าพรรคเพื่อไทย คราวนี้ต้องสู้ “หรั่ง ธุระพล” ที่สวมเสื้อพรรคไทยสร้างไทยของคุณหญิงหน่อย เป็นเขตที่สูสี แต่ไม่น่าจะผ่านด่านกระแสเพื่อไทยได้ ช่วงแรก “อนันต์” จึงนำห่าง
เขตเลือกตั้งที่ 4 “นพ.ภาณุ พรวัฒนา” จากเพื่อไทยหน้าใหม่ในสนาม ต้องสู้ศึกหนักกับ “โชคเสมอ คำมุงคุณ” ที่สวมเสื้อพรรคไทยสร้างไทย และ “วีระพล รักเสมอวงศ์” แอดมินเพจ “บ้านดุงอัพเดต” ขวัญใจชาวบ้าน ที่ขออาสาพรรคเสรีรวมไทย ลงทำศึก แต่ยังเชื่อว่าเพื่อไทยจะรักษาเก้าอี้ไว้ได้เหมือนเดิม
เขตเลือกตั้งที่ 5 “กรวีร์ สาราคำ” ลูกชาย “ขวัญชัย สาราคำ” หรือ ไพรพนา อดีต ส.จ.อุดรธานี คราวนี้มาลงแข่งแทนแม่ คือ “อาภรณ์ สาราคำ” สู้กับ พ.ท.ศรีสวัสดิ์ ดวงพรม พรรคก้าวไกล แต่คงฝ่าด่านกระแสพรรคเพื่อไทยไม่ได้
เขตเลือกตั้งที่ 6 นางจุฑาพัตธน์ เมนะสวัสดิ์ อดีตส.ส.สมัยที่ผ่านมา ครั้งนี้ลงมารักษาแชมป์ แข่งกับพรรคก้าวไกล แต่อย่างไรก็ตามน่าจะเป็นเพื่อไทยเหมือนเดิม เพราะกระแสชาวบ้านยังนิยมเพื่อไทย
เขตเลือกตั้งที่ 7 “ธีระชัย แสนแก้ว” หรือ “อี้โต้อีสาน” พรรคเพื่อไทย ลงแทน “จักรพรรดิ ไชยสาส์น” เปลี่ยนเสื้อเป็นภูมิใจไทย คู่นี้สู้กันสนุกแน่ ถ้ากระแสเพื่อไทยแผ่วก็มีลุ้นเหมือนกัน
เขตเลือกตั้งที่ 8 “เกรียงศักดิ์ ฝ้ายสีงาม” อดีต ส.ส.หลายสมัย พรรคเพื่อไทย ไร้คู่แข่งสูสี
เขตเลือกตั้งที่ 9 “เทียบจุฑา ขาวขำ” อดีตส.ส.หลายสมัย เขตนี้ลอยลำ
เขตเลือกตั้งที่ 10 “วัชรพล ขาวขำ ลูกชาย “วิเชียร ขาวขำ” นายกอบจ.อุดรธานี ลงสมัครครั้งแรกในสนามการเมืองใหญ่ แม้จะเป็นผู้สมัครหน้าใหม่ พ่อปูทางไว้แน่น ไม่น่ามีปัญหา
แต่ในยกแรก เขต 1 ยังให้เพื่อไทยโดยนายศราวุธ นำไปก่อนในฐานะแชมป์เก่า และกระแสพรรคที่มาแรง