7 เมษายน 2566 ที่ลานคนเมือง ศาลาว่าการกทม. น.ส.วทันยา บุนนาค หรือ "มาดามเดียร์" ประธานคณะทำงานนวัตกรรมการเมืองพรรคประชาธิปัตย์ ขึ้นเวทีปราศรัยโดยระบุว่า เริ่มต้นด้วยคำถามว่า กว่า 17 ปีที่ผ่านมา เราอยู่กับสงครามเหลือง โควิด เศรษฐกิจฝืดเคือง ท้อไหม รู้สึกเหนื่อยบ้างไหม "แต่เดียร์รู้สึกเหนื่อย ไม่ใช่เหนื่อยเพราะทำงาน แต่เหนื่อยที่ใจ เพราะเวลาลูกของเดียร์ถามว่า บ้านเราทำไม ไม่ถนนเรียบ ๆ ฟุตปาธสะอาด ๆ เหมือนต่างประเทศ ไม่มีอากาศสะอาด คุณภาพชีวิตที่ดี เหมือนต่างประเทศบ้าง ฟังแล้วรู้สึกเหนื่อย ฟังแล้วรู้สึกเสียใจว่าทำไม เราไม่สามารถเปลี่ยรแปลงอะไรได้ ไม่สามารถให้ชีวิตดีๆให้กับลูกตัวเองได้ และยังนึกถึงลูกหลานคนทั้งประเทศที่ต้องอยู่กับปัญหาเดียวกัน ชีวิตของเขาจะเป็นอย่างไร อนาคตของลูกหลานคนไทย จะดีขึ้นบ้างไหม
ทั้งนี้ เพราะว่ากว่า 12 ทศวรรษที่ผ่านมา การเมืองไทยวนเวียนอยู่กับความขัดแย้ง อยู่ในวงจรอุบาทว์ ไม่เคยทำให้การพัฒนาระบอบประชาธิปไตยเคลื่อนที่ไปไหน วันนี้จึงถึงเวลาแล้วที่ต้องเปลี่ยน ขอให้เลือก ส.ส.ที่เห็นประชาชนเป็นที่ตั้ง เป็นปาก เป็นเสียงให้กับประชาชนอย่างแท้จริง ไม่ใช่ ส.ส. ที่ถูกประมูล ส.ส.ที่ขายตัว ที่ขายอุดมการณ์และจิตวิญญาณ เห็นเงินเป็นที่ตั้ง ตั้งแต่ยังไม่เข้าสภาฯ เพราะไม่ต้องบอกว่า ส.ส.เหล่านี้ เมื่อเข้าไปจะไม่ทำงาน แต่จะวิ่งหาอำนาจและประโยชน์เงินทองของตัวเอง
โดยวันนี้ขอประกาศต่อหน้าศาลาว่าการแห่งนี้ว่าไม่ใช่กับ ส.ส. พรรคประชาธิปัตย์แน่นอน เพราะประชาธิปัตย์ ไม่มี ส.ส.ที่มาจากการประมูล แต่ทุกคนมาจากความตั้งใจ และอุดมการณ์เพื่อประชาธิปไตย เพื่อประชาชน จึงเป็นบทพิสูจน์ ว่าทำไมประชาธิปัตย์จึงอยู่คู่คนไทยมา 77 ปี เพราะประชาธิปัตย์ไม่มีเจ้าของ ไม่มีนายทุน มีเพียงประชาชนเท่านั้นที่เป็นที่ตั้งหลังพิง
"วันนี้เรากลับมา กลับมาร่วมทำให้บ้านหลังนี้ สถาบันการเมืองหลังนี้ ที่มีจุดเริ่มต้นจากประชาชนแข็งแรง เพื่อเป็นทางออกให้สังคมไทย เพื่อสร้างอนาคตที่ดีให้กับลูกหลายไทย เพื่อชดเชย กับ 17 ปี ที่เราเสียไป โดยไม่ได้อะไรกลับมาเลย ขอโอกาสให้กับพรรคประชาธิปัตย์ วันที่ 14 พฤษภา กาเบอร์ 26 เท่านั้น" น.ส.วทันยา กล่าว