ร้อยเอ็ด เขต 1 "เพื่อไทย" ชนบ้านใหญ่ "จุรีมาศ"

การเลือกตั้ง “เมืองร้อยเอ็ด” ในปี 66 ทั้ง 8 เขต ถือว่าระอุทุกตารางนิ้ว หลัง “อุ๊งอิ๊งค์ แพทองธาร” ยกทัพครอบครัวเพื่อไทยเดินสายอ้อนขอคะแนนแลนด์สไลด์ 5 จังหวัดอีสาน เมื่อช่วงเดือนแห่งความรักที่ผ่านมา หวังเรียกเรตติ้งให้กับพรรค รวมถึงผู้สมัคร เก็บไว้เป็นทุนตอนเปิดหีบ

เพื่อไทยคาดหวังสูงว่าจะแลนด์สไลด์ โดยเฉพาะหลังจากนับหนึ่งคว้าชัยการเลือกตั้งนายก อบจ.ร้อยเอ็ด เมื่อวันอาทิตย์ที่ 25 ก.ย.65 โดย เศกสิทธิ์ ไวนิยมพงศ์ เบอร์ 2 ในนามเพื่อไทย ได้รับเลือกตั้งด้วยคะแนนเสียงท่วมท้น ทิ้งห่างเบอร์ 1 รัชนี พลซื่อ อดีตนายก อบจ. และเบอร์ 4 จุรีพร สินธุไพร นับแสนคะแนน โดย “อุ๊งอิ๊งค์” โชว์ความขลัง ไปเปิดเวทีอ้อนขอคะแนนก่อนเลือกตั้งด้วย

แต่ถ้าย้อนดูหน้าประวัติศาสตร์ “เมืองโหวด” ช่วง 2 ทศวรรษที่ผ่านมา ต้องบอกว่าเกือบจะไม่มีพรรคใดสามารถยึดร้อยเอ็ดได้แบบเต็มร้อย แม้แต่ยุค “ไทยรักไทย” เรืองอำนาจ  มีเพียงการเลือกตั้งปี 54 ที่พรรคเพื่อไทยได้แลนด์สไลด์ และกวาดยกจังหวัด

ส่วนในการเลือกตั้งปี 62 เพื่อไทยเกือบทำสำเร็จ ยกเว้นเพียงเขตเดียวคือ เขต 1 ที่กลายเป็น “ก้างขวางคอ” เพราะเป็นฐานที่มั่นของ “เสี่ยแกละ” อนุรักษ์ จุรีมาศ แห่ง “พรรคชาติไทยพัฒนา”

เลือกตั้งหนนี้ เพื่อไทยเตรียมส่งหน้าใหม่ชนกับบ้านใหญ่ตระกูล “จุรีมาศ” โดยแชมป์ปัจจุบันคือ อนุรักษ์ อดีต ส.ส. 8 สมัย จากชาติไทยพัฒนา ดีกรีอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ หรือ กระทรวง พม.คนแรก หลังก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2545 ในสมัยรัฐบาล “ทักษิณ ชินวัตร” อีกทั้ง ยังเป็นรัฐมนตรีอีกหลายกระทรวง เช่น กระทรวงวัฒนธรรม

ผู้ท้าชิง “เสี่ยแกละ” ไม่ใช่ใครที่ไหน คือ “สถาพร ว่องสัธนพงษ์” อดีตประธานสภา อบจ. 3 สมัย และอดีต ผู้สมัคร นายก อบจ. คณะก้าวหน้า ลูกชาย “สานิต ว่องสัธนพงษ์” อดีต ส.ส. พรรคเสรีธรรม คู่ปรับเก่า “เสี่ยแกละ” ที่เคยยัดเยียดความพ่ายแพ้ให้เมื่อครั้งเลือกตั้งปี 2544 ก่อน “เสี่ยแกละ” แก้มือทวงแค้นสำเร็จในการเลือกตั้งรอบต่อๆ มา

โดย “สถาพร” ได้ย้ายจากค่ายสีส้ม มาสวมเสื้อเพื่อไทย พร้อมกับภารกิจแลนด์สไลด์ แต่ถ้าพลิกดูผลเลือกตั้งปี 62 ระหว่าง “เสี่ยแกละ อนุรักษ์” กับ “สานิต” ผู้พ่อ ที่สวมเสื้อพลังประชารัฐ ปรากฏว่า “สานิต” แพ้ไปแบบ “หลุดลุ่ย”  44,899 ต่อ 17,993 คะแนน ส่วนเพื่อไทยเวลานั้นส่ง “วราวงษ์ พันธุ์ศิลา” ได้ไป 24,000 คะแนน มาเป็นอันดับ 2

จึงต้องบอกว่าพื้นที่นี้ไม่ง่ายสำหรับเพื่อไทย เมื่อต้องเผชิญหน้ากับบ้านใหญ่ “จุรีมาศ” เพราะมีฐานเสียงสำคัญคอยเป็นแรงส่ง คือ กลุ่มการเมืองระดับท้องถิ่น ขณะเดียวกันยังมีคู่แข่งน่าจับตา อย่าง “ทนายโก้” พงศ์กร ตั้งกิตต์ตระกูล ประธานสภาทนายความเมืองร้อยเอ็ดคนล่าสุด ที่เปลี่ยนจากพรรคเสรีรวมไทย มาสมัครในนาม “พรรคลุงป้อม”

นอกจากนี้ ยังมีพรรคภูมิใจไทยที่ส่ง “ณรงค์ ประดับสุข” มาตอกเสาเข็ม รวมถึงพรรคลุงตู่ส่ง “เฮียเซี๊ยะ” ธนกฤต ชาติอนุลักษณ์ ทายาทเจ้าของห้างดังเมืองร้อยเอ็ด ซึ่งเคยลงสมัครรอบที่แล้วในนามพรรคลุงกำนัน ลงแก้มือครั้งนี้ และก้าวไกล ส่ง “เกียรติศักดิ์ ไคนุ่นกา” คนรุ่นใหม่ ขอแชร์เก้าอี้  

มาลุ้นในศึกชนช้าง “เมืองโหวด” กับการเลือกตั้ง 66 เพื่อไทย จะฝ่าไปสู่เป้าหมายแลนด์สไลด์ได้หรือไม่ เมื่อต้องเจอด่านหินอย่างบ้านใหญ่ “จุรีมาศ”