สรุปคำพิพากษาคดี"เขากระโดง" สะเทือนคนการเมือง!
คำพิพากษาศาลปกครอง ต้องบอกว่ายังไม่ถึงที่สุด เพราะเป็นคำพิพากษาศาลปกครองกลาง แต่เมื่อดูเนื้อหาของคำพิพากษาอย่างละเอียด พบว่าส่งผลสะเทือนแรงพอสมควร โดยเฉพาะกลุ่มคนที่ครอบครองที่ดินเขากระโดงอยู่ ซึ่งมี "ตระกูลการเมือง" รวมอยู่ด้วย
"เนชั่นทีวี" สรุปคำพิพากษาเป็นประเด็น ๆ ให้เข้าใจง่ายดังนี้
1. ที่ดินตามคำพิพากษา คือ ที่ดินตามคำพิพากษาฎีกา เมื่อปี 60 และปี 61 จำนวน 5,083 ไร่ 80 ตารางวาความหมายคือ "ที่ดินเขากระโดง" ทั้งผืน ศาลวางบรรทัดฐานอีกครั้งว่าเป็น "ที่ดินรถไฟ"
2. ศาลอธิบาย ประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา 61 วรรคหนึ่ง คำว่า "ความปรากฏ" ต่อกรมที่ดิน ว่าอาจจะออกเอกสารสิทธิ์โดยมิชอบ กรมที่ดินต้องดำเนินการตั้งคณะกรรมการสอบสวน ทันที
3. ก่อนที่จะมีการฟ้องคดี กรมที่ดิน และการรถไฟฯ ได้หารือคณะกรรมการกฤษฎีกา ถึงประเด็น "กรรมสิทธิ์" ในที่ดินเขากระโดงแล้ว โดยคณะกรรมการกฤษฎีกา ได้มีคำวินิจฉัยที่ดินเขากระโดงทั้งหมดว่าเป็นที่ดินของการรถไฟฯ และ ป.ป.ช. ได้มีคำวินิจฉัยว่า ที่ดินแปลงของตระกูลการเมืองตระกูลหนึ่ง เป็นการออกเอกสารสิทธิ์โดยมิชอบ ให้เพิกถอน
4. ศาลบอกให้อธิบดีกรมที่ดิน ดำเนินการตาม มาตรา 61 และให้การรถไฟฯ ดำเนินการร่วมกับกรมที่ดิน เพื่อสำรวจแนวเขต และเพิกถอนเอกสารสิทธิ์ที่ออกทับซ้อนที่ดินรถไฟ โดยไม่จำเป็นต้องไปใช้สิทธิทางศาลก่อน
5. สรุปว่า ศาลพิพากษาให้อธิบดีกรมที่ดิน ดำเนินการตามมาตรา 61 คือตั้งคณะกรรมการสอบสวน เพื่อเพิกถอนเอกสารสิทธิ์ โดยให้การรถไฟฯ และคณะกรรมการตามมาตรา 61 ทำการตรวจสอบแนวเขตที่ดิน เพื่อหาแนวเขตที่ดินที่เป็นของการรถไฟฯ ตามคำพิพากษาฎีกา 2 ฉบับ และ คำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 3 ที่ศาลเคยชี้เอาไว้แล้ว
มีรายงานข่าวแจ้งว่า คำพิพากษาของศาลปกครอง ส่อเค้าส่งผลกระทบทางการเมืองด้วย เพราะมี "นักการเมืองบางราย" ถือครองเอกสารสิทธิ์ในพื้นที่เขากระโดง หนึ่งในนั้นกำลังจะลงสมัคร ส.ส.แบบแบ่งเขต ที่จังหวัดบุรีรัมย์ โดยเป็นทายาทของกลุ่มตระกูลการเมือง
โดยพรรคการเมืองที่จะส่งผู้สมัครรายนี้ อาจต้องทบทวนใหม่ เพราะหากปล่อยให้ลงสมัคร ส.ส.ไป และชนะเลือกตั้งได้เป็น ส.ส. อาจถูกตามสอยในภายหลัง ซึ่งผลกระทบอาจจะส่งผลจะร้ายแรงมากขึ้นกว่าเดิมหลายเท่า