svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

เฉลยแล้วบทสนทนา บ้านป่ารอยต่อ "ลุงป้อม"พปชร. กับ"อนุทิน" ภท.หารือเรื่องนี้

เปิดยุทธศาสตร์"พรรคพลังประชารัฐ" เทหมดหน้าตัก ดัน"บิ๊กป้อม"สู่เก้าอี้นายกฯ จับมือภูมิใจไทย ตั้งขั้วใหม่จัดตั้งรัฐบาล (ชมคลิป)

ภายหลังปรากฎภาพร่วมวงรับประทานอาหารระหว่าง "พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ" รองนายกฯและหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ กับ "อนุทิน ชาญวีรกูล" รองนายกฯและรมว.สาธารณสุข หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย  รายการคมชัดลึก โดย "วราวิทย์ ฉิมมณี"  จึงได้เชิญ “วิรัช รัตนเศรษฐ” รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งปรากฎอยู่ในภาพร่วมรับประทานอาหารด้วยมาเปิดเบื้องหลังการพบปะพูดคุยคือเรื่องใดกันแน่

เฉลยแล้วบทสนทนา บ้านป่ารอยต่อ  \"ลุงป้อม\"พปชร. กับ\"อนุทิน\" ภท.หารือเรื่องนี้

ล้วงลึก บทสนทนาจากบ้านป่ารอยต่อ

"วราวิทย์"  คุณวิรัชอยู่ในวงกินข้าวเมื่อด้วย เบื้องหลังใครเป็นคนนัดหมาย

"วิรัช" น่าจะเป็น"รองนายกอนุทิน"นัดหมายล่วงหน้าไว้แล้ว อันนี้ผมไม่ทราบแต่รู้ว่าท่านมาแล้วมาทานข้าวด้วย เพราะท่านหัวหน้าพรรคบอกชวนกินข้าวด้วย

"วราวิทย์" บทสนทนาในวงเมื่อวานนี้คืออะไรบ้างครับ

"วิรัช" ส่วนใหญ่ก็คุยเรื่องการเมือง ภาพรวมทั้งหมดเราจะอยู่ตรงจุดไหน เช่น หลังการเลือกตั้งมาแล้วตัวเลขเราจะเป็นอย่างไร พรรคพลังประชารัฐจะมีตัวเลขได้แค่ไหน ส่วนพวกผมเองในฐานะที่ทำการเมืองมาเราก็ต้องดูว่า"พรรคพลังประชารัฐ"ยิ่งโพลออกมามากขึ้นเท่าไร เราก็ต้องมาเช็กว่าของเรากับตัวที่ทำโพลจะเป็อย่างไร ซึ่งก็รู้ตัวเลขในใจพลังประชารัฐเฉพาะเขตเลือกตั้งไม่น้อยกว่า 100 แล้วบัญชีรายชื่อไม่น้อยกว่า 20  

เพราะฉะนั้นเราต้องมาดูส่วนตรงนี้ ว่าสิ่งที่หลายๆพรรคการเมืองที่เขาพูดออกมาว่า ของเขาไปแล้ว 310 ตรงนี้พิสูจน์ไม่ได้หรอกว่าตัวเลขเขาจะไปถึงตรงนั้นจะเป็นไง แลนด์สไลด์เป็นคำพูด

แต่ในสิ่งที่พวกเราต้องพูดกันโดยข้อเท็จจริงคือตั้งแต่สระบุรีแล้วเลี้ยวขวาไปตะวันออกเฉียงเหนือสะดุดอยู่ที่โคราชจะแลนด์สไลด์ตรงไหน ผมทำการบ้านทั้ง 16 เขตตรงไหนที่คิดว่าผมต้องปรับปรุงผมแก้ไขเลยในฐานะที่ผมเป็นหัวหน้าทีมทั้งนครราชสีมาและอีสานใต้ คราวที่แล้วเราต้องถือว่าพลังประชารัฐเป็นแชมป์นครราชสีมา

เฉลยแล้วบทสนทนา บ้านป่ารอยต่อ  \"ลุงป้อม\"พปชร. กับ\"อนุทิน\" ภท.หารือเรื่องนี้

"วิรัช" กล่าวว่า ความมั่นใจเลยเกิดขึ้นว่านโยบายต่างๆที่เราออกไปแล้วให้บรรดาว่าที่ผู้สมัครส.ส.เอาไปให้บรรดาพี่น้องประชาชน ผมเน้นเลยเข้าทุกหมู่บ้านเข้าไปคุย ไม่ว่าจะเป็นบัตร 700 ดูแลในส่วนสวัสดิการของผู้สูงอายุ แม้กระทั่งวันนี้ที่คิดว่าดีที่สุดเลยแล้วประชาชนไปถึงถามว่าเบนซิน 25 ดีเซล 26 มันเป็นไปได้อย่างไรไง ผมก็บอกว่าลองเลือก"พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ" ดูสิว่าจะเป็นไปได้มั้ย ถ้าไม่เลือกมันก็เป็นไปไม่ได้ และสิ่งหนึ่งที่ผมยืนยันไว้เลยว่าถ้า"พล.อ.ประวิตร" เป็นนายกรัฐมนตรี ผมคิดว่าทั้งเบนซินและดีเซลเป็นไปตามที่ท่านได้กำหนดเอาไว้

"วราวิทย์" มีการประเมินกันจริงมั้ยว่าเพื่อไทยไม่เกิน 170 เสียง ในวงกินข้าวเมื่อวาน

"วิรัช" มีการพูดถึง

"วราวิทย์" พอเพื่อไทยไม่เกิน 170 โอกาสที่อีกขั้วจะรวมกันเพื่อตั้งรัฐบาลก็มีสูง ก็เลยนำไปสู่บทสนทนาต่อไปว่าภูมิใจไทย พลังประชารัฐ กับอีกสองพรรคที่ไม่ได้อยู่ในวงกินข้าวเมื่อวานคือประชาธิปัตย์กับชาติไทยพัฒนาจะรวมกันแล้วเกิน 200 เป็นขั้วที่เตรียมจะตั้งรัฐบาลแข่งกับทางเพื่อไทย อันนี้จริงมั้ยบทสนทนาเมื่อวานนี้

เฉลยแล้วบทสนทนา บ้านป่ารอยต่อ  \"ลุงป้อม\"พปชร. กับ\"อนุทิน\" ภท.หารือเรื่องนี้

"วิรัช" วันนี้ผมต้องบอกว่าการเมืองมันต้องหลวมๆไปก่อน อย่าเพิ่งขยี้ผมเลย ในบทสนทนาก็คือถ้าวันนี้พลังประชารัฐแล้วรวมกับภูมิใจไทยเราได้ถึง 200 นี้จะเป็นตัวเลขที่สวยที่สุด แล้วมาบวกกับ"รวมไทยสร้างชาติ"บ้าง ผมคิดว่าจะเป็นตัวเลขที่ดีและก็เหมาะ จะก้าวข้าม 250 ได้

"วราวิทย์" แปลว่า การพูดถึงตัวเลขของพลังประชารัฐและภูมิใจไทย แสดงว่ามีความมั่นใจพอสมควรว่าจะรวมกันได้เกิน 200 

"วิรัช" วันนี้ที่พลังประชารัฐทำอยู่คือเราให้ว่าที่ผู้สมัครเข้าไปทุกพื้นที่ไม่ว่าจะเป็นเขตเทศบาลต้องไปให้ถึงเพื่อที่จะไปบอกนโยบายว่า พลังประชารัฐมีนโยบายแบบนี้นะ ตรงนี้เลยกำหนดว่าวันนี้ 100 ยังมีเผื่อโอกาสที่จะได้อีกไม่น้อยกว่าอีก 20 สมมตินะ แล้วบวกบัญชีรายชื่ออีก 20 ผมคิดว่าตัวเลขเราก็ไม่แพ้เขาเหมือนกัน

เฉลยแล้วบทสนทนา บ้านป่ารอยต่อ  \"ลุงป้อม\"พปชร. กับ\"อนุทิน\" ภท.หารือเรื่องนี้

"วราวิทย์" ถ้าตัวเลขที่พูดในวงเมื่อวานผมจะใช้คำว่าอะไรดี เป็นการปิดดีลแบบหลวมๆถ้าตัวเลขตรงตามนี้หลังเลือกตั้งจะผนึกกำลังกันจัดตั้งรัฐบาลมันพอจะสรุปแบบนั้นได้มั้ยครับ

"วิรัช" ไม่มีการปิดดีลแล้วก็เปิดดีล เพียงแต่คุยกันออกมาว่าในส่วนตรงนี้ถ้าพลังประชารัฐได้ขนาดนี้ ภูมิใจไทยได้ขนาดนี้ แล้วหลายๆพรรคมารวมกันมันก็เป็นการเกริ่นไว้ล่วงหน้า แต่ในขณะเดียวกันเราก็ต้องมองดูผู้สมัครแต่ละพรรคการเมืองว่าใครจะได้มากได้น้อย ถ้าได้ 310 แปลว่าเกือบหมดแล้วนะ

"วราวิทย์" คือถ้าได้ 310 แล้วคุณวิรัชเชื่อว่าเป็นไปได้คงไม่ต้องมานั่งกินข้าวกันเมื่อวาน

"วิรัช" ครับ

"วราวิทย์" พอไม่เชื่อว่า 310 เป็นไปได้เลยเกิดการพูดคุยกันเมื่อวาน

"วิรัช"  วันนี้เราก็ไม่ได้บอกว่าเราจะสลายขั้วนะ แต่เราจะต้องทำให้ดีที่สุดก็คือทำยังไงที่จะให้พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ผมจะย้ำอยู่เสมอว่าพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ มีความเหมาะสมที่จะเป็นนายกรัฐมนตรี แล้วผมก็ต้องบอกกับทุกคนว่าเพราะอะไรที่เหมาะสม แล้วผมต้องถามต่อว่าใครจะมาร่วมกับ"พล.อ.ประวิตร"บ้าง นี่คือสิ่งที่ผมต้องการ

"วราวิทย์" แต่ถ้าจะให้พล.อ.ประวิตร ขึ้นเป็นนายกฯโดยการจับขั้วกันแบบในกลุ่มเมื่อวาน ต้องได้เสียงมาเป็นอันดับหนึ่งของขั้วนี้ ในวงสนทนาเมื่อวานมีการคุยกันแล้วใช่มั้ยว่าใครได้มากที่สุดคนนั้นเป็นนายกฯ อันนี้เป็นสัญญาใจอะไรกันไว้หรือป่าว

"วิรัช" ไม่ได้เป็นสัญญาใจ มีแต่การพูดออกมาลักษณะว่าระหว่าง"พล.อ.ประยุทธ์" กับ "พล.อ.ประวิตร" ใครได้มากกว่ากัน ต้องลองไปถามท่าน"รองนายกฯอนุทิน" เพราะท่านพูดออกมาให้ท่านมาย้ำว่าใครได้มากกว่าก็เหมาะที่จะเป็นนายกฯ ระหว่าง"รวมไทยสร้างชาติ"กับพลังประชารัฐ

เฉลยแล้วบทสนทนา บ้านป่ารอยต่อ  \"ลุงป้อม\"พปชร. กับ\"อนุทิน\" ภท.หารือเรื่องนี้

"วราวิทย์" แล้วถ้าเกิดคุณอนุทินได้มากกว่าละ

"วิรัช"  ต้องไปถามท่านอนุทิน เพราะท่านมาบอกว่าระหว่างสองพี่น้องใครได้มากผมก็สนับสนุนคนนั้นเป็นนายกฯ

วราวิทย์ หมายถึง"คุณอนุทิน"

"วิรัช" ครับพูดในลักษณะนี้

"วราวิทย์" ส่วนตัวคุณอนุทินเองถ้าได้มากกว่าสองพี่น้องอันนี้คุณวิรัชไม่รู้แล้วว่าสถานการณ์จะเป็นยังไง

"วิรัช" ตรงนี้ก็ว่ากันอีกครั้ง

"วราวิทย์" แต่ถ้าถามทางการเมืองจะเป็นไปได้ยังไงที่ถ้า"คุณอนุทิน"ได้เยอะกว่า แล้วจะยอมให้สองพี่น้องเขาเป็นนายกรัฐมนตรี

"วิรัช"  มีสมการอีกละ ส.ว.จะสนับสนุนฟากไหน ตัวนี้เป็นตัวล็อกอีก ผมคิดว่า"ท่านอนุทิน"ท่านจะมีคำตอบที่ดีๆ

"วราวิทย์" ถามว่า ท่าทีของพลังประชารัฐ และภูมิใจไทย ปิดประตูเพื่อจะไปร่วมกับเพื่อไทยหรือไม่

"วิรัช" ตอบว่า ต้องเดินสายกลาง เอาตัวเลขให้เป็นหลักก่อน จะร่วมกับพรรคใดไม่ขัดข้อง แต่เงื่อนไข"พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ" ต้องเป็นนายกรัฐมนตรี ไม่เอาตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี

"วราวิทย์" ถามว่า ปิดประตูตายเลยหรือ หากสมมติว่า เพื่อไทยคะแนนมากกว่า แต่ไม่พอในการจัดตั้งรัฐบาล ต้องแลกเก้าอี้รัฐมนตรี กับพรรคการเมืองอื่นเพื่อมาเพิ่มเสียงสนับสนุนให้เพื่อไทยได้เป็นรัฐบาล ซึ่งท่าทีของพรรคเพื่อไทยก็มองว่าแบบนั้นเท่ากับฆ่าตัวตาย แต่วันนี้พลังประชารัฐ มีเงื่อนไขหากจะร่วมรัฐบาล "พลเอกประวิตร" ต้องเป็นนายกรัฐมนตรี โอกาสในการจับมือกับก็จบลงแล้ว

"วิรัช"  ตอบว่า เพื่อไทยน่าจะมีคำตอบสุดท้ายอีก แต่สำหรับพลังประชารัฐ คือ "พลเอกประวิตร" ต้องเป็นนายกรัฐมนตรีเท่านั้น เพราะแม้ได้คะแนนจะน้อยกว่า แต่ยังมีคะแนนอีกเท่าตัว จากสมาชิกวุฒิสภา สนับสนุน ซึ่งที่ผ่านมาเคยมีชื่อของ"ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ" อดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ที่คะแนนน้อยกว่าถูกเสนอชื่อแข่งกับ "พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา" เป็นนายกรัฐมนตรี ในอดีตก็มีมาตลอด

ส่วนเงื่อนไขใครได้มากกว่า จะเป็น "นายกรัฐมนตรี" เป็นเงื่อนไขของ 2 ป.เท่านั้น ระหว่างพลเอกประวิตร และพลเอกประยุทธ์ เท่านั้น จะยอมกันแค่พี่กับน้องเท่านั้น ซึ่งในวงกินข้าวที่มีภูมิใจกับกับพลังประชารัฐ ก็มีการคุยทางการเมืองว่า สนับสนุน"พลเอกประวิตร" เป็นนายกรัฐมนตรี แม้ว่าภูมิใจไทย ได้คะแนนมากกว่าพลังประชารัฐก็ตาม

"วราวิทย์" ถามว่า ในทางการเมืองเป็นการเอาเปรียบหรือไม่ที่เอาต้นทุนของ สมาชิกวุฒิสภา เป็นตัวต่อรอง หากอยากเป็นรัฐบาล ต้องเอา "พลเอกประวิตร" เป็นนายกรัฐมนตรี

เฉลยแล้วบทสนทนา บ้านป่ารอยต่อ  \"ลุงป้อม\"พปชร. กับ\"อนุทิน\" ภท.หารือเรื่องนี้

"วิรัช"  กล่าวว่า เหลือเวลาอีก 1 ปี ซึ่งพวกเราพยายามแก้ไขรัฐธรรมนูญ แต่เราทำได้เพียงแค่นี้ และเป็นไปตามที่รัฐธรรมนูญกำหนดมาแบบนี้ อีกแค่ 1 ปีกว่า ต้องทำให้สุดทาง คิดว่า "พลเอกประวิตร" หรือทุกพรรค ทราบดีอยู่แล้ว ต้องเกิน 375 เสียง ซึ่งการหาเสียง 310 ก็เป็นการโฆษณาเกินจริงเกินไป

เมื่อทุกพรรครณรงค์หาเสียง จะเป็นพรรคเดียวเท่านั้นหรือที่ได้คะแนนท้วมท้น เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้แต่เขาจะยอมให้คะแนนเสียงจำนวนมาก ให้ พลเอกประวิตร์ เป็นนายกรัฐมนตรีหรือไม่

"วราวิทย์" ถามว่า จะจับขั้วกลุ่มเดิมหรือไม่

"วิรัช" ตอบว่า ได้ทั้งสองฝั่ง แต่อยู่ที่การพูดคุยกับทั้งสองฝั่ง ต้องดูที่คะแนน เกิดขึ้นได้หมด เพราะ"พลเอกประวิตร" เปิดกว้าง

"วราวิทย์"ถามว่า จะมีโอกาส ฉกงูเห่าให้ได้เสียงข้างมากหรือไม่

วิรัช ตอบว่า อย่าพึ่งไปมองว่า เขาจะถึง 310 เพราะทำให้เป็นโจทย์ยากสำหรับพรรคการเมืองอื่น อย่าวิ่งตามเขา เป็นสิ่งที่เขาให้เราเดินตาม เพราะเราก็เคยชนะ แม้มีเสียงเกินครึ่งแค่ 3 คะแนน ครั้งนี้เราสามารถตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อย ก็เลือกตั้งกันใหม่ ซึ่งในปี 2535 เคยเลือกตั้ง สองครั้งในปีเดียวกัน เพราะฉะนั้นเหตุการณ์ในอดีตสามารถนำมาทบทวนได้ ไม่อยากให้ตั้ง 310 เสียง เพราะมันโหดเกินไปสำหรับพรรคการเมืองอื่น หากเป็นคะแนน 250 ก็เป็นการตั้งที่พอดี

"วราวิทย์" ถามว่า ไม่กังวลจะเกิดวิกฤตทางการเมืองหากรวมเสียงข้างมากได้ แต่มาติดล็อค 376 เสียงที่ต้องอาศัยพลังประชารัฐ หรือ สมาชิกวุฒิสภา และเงิ่อนไข "พลเอกประวิตร" ต้องเป็น นายกรัฐมนตรี

"วิรัช" ตอบว่า เหลือเวลา ส.ว.อีกแค่ 1 ปี ทำไมจะให้ "พลเอกประวิตร" เป็น นายกรัฐมนตรีไม่ได้ ทั้งที่เป็นผู้ที่สะสมประสบการณ์​ และประกาศตัว ก้าวข้ามความขัดแย้ง แต่อีกฝั่ง แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี มีประสบการณ์อะไร ซึ่งเชื่อว่าประชาชนน่าจะคิดได้ คนที่ติดตามเฟสบุ๊ค "พลเอกประวิตร" จำนวนล้านกว่าคน แต่โพลแค่สองพันคน เทียบกันไม่ได้

"วราวิทย์" ถามว่า หากตั้งเงื่อนไขยอมเป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อย และพร้อมเลือกตั้งใหม่จะเป็นการบีบฝั่งตรงข้ามหรือไม่ เพราะพรรคการเมืองอื่นก็ลงทุนไปหมดแล้ว

"วิรัช"บอกว่า พลังประชารัฐพร้อมเลือกตั้งใหม่กี่ครั้งก็พร้อม เพราะทำการบ้านมาตลอด และมีนโยบายบัตรประชารัฐ 700 บาท ที่เชื่อว่าจะได้รับการตอบรับจากประชาชน

ชมคลิป >>>

ล้วงลึก บทสนทนาบ้านป่ารอยต่อ