svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

เฉลยแล้วบทสนทนา บ้านป่ารอยต่อ "ลุงป้อม"พปชร. กับ"อนุทิน" ภท.หารือเรื่องนี้

23 มีนาคม 2566
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

เปิดยุทธศาสตร์"พรรคพลังประชารัฐ" เทหมดหน้าตัก ดัน"บิ๊กป้อม"สู่เก้าอี้นายกฯ จับมือภูมิใจไทย ตั้งขั้วใหม่จัดตั้งรัฐบาล (ชมคลิป)

ภายหลังปรากฎภาพร่วมวงรับประทานอาหารระหว่าง "พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ" รองนายกฯและหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ กับ "อนุทิน ชาญวีรกูล" รองนายกฯและรมว.สาธารณสุข หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย  รายการคมชัดลึก โดย "วราวิทย์ ฉิมมณี"  จึงได้เชิญ “วิรัช รัตนเศรษฐ” รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งปรากฎอยู่ในภาพร่วมรับประทานอาหารด้วยมาเปิดเบื้องหลังการพบปะพูดคุยคือเรื่องใดกันแน่

เฉลยแล้วบทสนทนา บ้านป่ารอยต่อ  "ลุงป้อม"พปชร. กับ"อนุทิน" ภท.หารือเรื่องนี้

ล้วงลึก บทสนทนาจากบ้านป่ารอยต่อ

"วราวิทย์"  คุณวิรัชอยู่ในวงกินข้าวเมื่อด้วย เบื้องหลังใครเป็นคนนัดหมาย

"วิรัช" น่าจะเป็น"รองนายกอนุทิน"นัดหมายล่วงหน้าไว้แล้ว อันนี้ผมไม่ทราบแต่รู้ว่าท่านมาแล้วมาทานข้าวด้วย เพราะท่านหัวหน้าพรรคบอกชวนกินข้าวด้วย

"วราวิทย์" บทสนทนาในวงเมื่อวานนี้คืออะไรบ้างครับ

"วิรัช" ส่วนใหญ่ก็คุยเรื่องการเมือง ภาพรวมทั้งหมดเราจะอยู่ตรงจุดไหน เช่น หลังการเลือกตั้งมาแล้วตัวเลขเราจะเป็นอย่างไร พรรคพลังประชารัฐจะมีตัวเลขได้แค่ไหน ส่วนพวกผมเองในฐานะที่ทำการเมืองมาเราก็ต้องดูว่า"พรรคพลังประชารัฐ"ยิ่งโพลออกมามากขึ้นเท่าไร เราก็ต้องมาเช็กว่าของเรากับตัวที่ทำโพลจะเป็อย่างไร ซึ่งก็รู้ตัวเลขในใจพลังประชารัฐเฉพาะเขตเลือกตั้งไม่น้อยกว่า 100 แล้วบัญชีรายชื่อไม่น้อยกว่า 20  

เพราะฉะนั้นเราต้องมาดูส่วนตรงนี้ ว่าสิ่งที่หลายๆพรรคการเมืองที่เขาพูดออกมาว่า ของเขาไปแล้ว 310 ตรงนี้พิสูจน์ไม่ได้หรอกว่าตัวเลขเขาจะไปถึงตรงนั้นจะเป็นไง แลนด์สไลด์เป็นคำพูด

แต่ในสิ่งที่พวกเราต้องพูดกันโดยข้อเท็จจริงคือตั้งแต่สระบุรีแล้วเลี้ยวขวาไปตะวันออกเฉียงเหนือสะดุดอยู่ที่โคราชจะแลนด์สไลด์ตรงไหน ผมทำการบ้านทั้ง 16 เขตตรงไหนที่คิดว่าผมต้องปรับปรุงผมแก้ไขเลยในฐานะที่ผมเป็นหัวหน้าทีมทั้งนครราชสีมาและอีสานใต้ คราวที่แล้วเราต้องถือว่าพลังประชารัฐเป็นแชมป์นครราชสีมา

เฉลยแล้วบทสนทนา บ้านป่ารอยต่อ  "ลุงป้อม"พปชร. กับ"อนุทิน" ภท.หารือเรื่องนี้

"วิรัช" กล่าวว่า ความมั่นใจเลยเกิดขึ้นว่านโยบายต่างๆที่เราออกไปแล้วให้บรรดาว่าที่ผู้สมัครส.ส.เอาไปให้บรรดาพี่น้องประชาชน ผมเน้นเลยเข้าทุกหมู่บ้านเข้าไปคุย ไม่ว่าจะเป็นบัตร 700 ดูแลในส่วนสวัสดิการของผู้สูงอายุ แม้กระทั่งวันนี้ที่คิดว่าดีที่สุดเลยแล้วประชาชนไปถึงถามว่าเบนซิน 25 ดีเซล 26 มันเป็นไปได้อย่างไรไง ผมก็บอกว่าลองเลือก"พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ" ดูสิว่าจะเป็นไปได้มั้ย ถ้าไม่เลือกมันก็เป็นไปไม่ได้ และสิ่งหนึ่งที่ผมยืนยันไว้เลยว่าถ้า"พล.อ.ประวิตร" เป็นนายกรัฐมนตรี ผมคิดว่าทั้งเบนซินและดีเซลเป็นไปตามที่ท่านได้กำหนดเอาไว้

"วราวิทย์" มีการประเมินกันจริงมั้ยว่าเพื่อไทยไม่เกิน 170 เสียง ในวงกินข้าวเมื่อวาน

"วิรัช" มีการพูดถึง

"วราวิทย์" พอเพื่อไทยไม่เกิน 170 โอกาสที่อีกขั้วจะรวมกันเพื่อตั้งรัฐบาลก็มีสูง ก็เลยนำไปสู่บทสนทนาต่อไปว่าภูมิใจไทย พลังประชารัฐ กับอีกสองพรรคที่ไม่ได้อยู่ในวงกินข้าวเมื่อวานคือประชาธิปัตย์กับชาติไทยพัฒนาจะรวมกันแล้วเกิน 200 เป็นขั้วที่เตรียมจะตั้งรัฐบาลแข่งกับทางเพื่อไทย อันนี้จริงมั้ยบทสนทนาเมื่อวานนี้

เฉลยแล้วบทสนทนา บ้านป่ารอยต่อ  "ลุงป้อม"พปชร. กับ"อนุทิน" ภท.หารือเรื่องนี้

"วิรัช" วันนี้ผมต้องบอกว่าการเมืองมันต้องหลวมๆไปก่อน อย่าเพิ่งขยี้ผมเลย ในบทสนทนาก็คือถ้าวันนี้พลังประชารัฐแล้วรวมกับภูมิใจไทยเราได้ถึง 200 นี้จะเป็นตัวเลขที่สวยที่สุด แล้วมาบวกกับ"รวมไทยสร้างชาติ"บ้าง ผมคิดว่าจะเป็นตัวเลขที่ดีและก็เหมาะ จะก้าวข้าม 250 ได้

"วราวิทย์" แปลว่า การพูดถึงตัวเลขของพลังประชารัฐและภูมิใจไทย แสดงว่ามีความมั่นใจพอสมควรว่าจะรวมกันได้เกิน 200 

"วิรัช" วันนี้ที่พลังประชารัฐทำอยู่คือเราให้ว่าที่ผู้สมัครเข้าไปทุกพื้นที่ไม่ว่าจะเป็นเขตเทศบาลต้องไปให้ถึงเพื่อที่จะไปบอกนโยบายว่า พลังประชารัฐมีนโยบายแบบนี้นะ ตรงนี้เลยกำหนดว่าวันนี้ 100 ยังมีเผื่อโอกาสที่จะได้อีกไม่น้อยกว่าอีก 20 สมมตินะ แล้วบวกบัญชีรายชื่ออีก 20 ผมคิดว่าตัวเลขเราก็ไม่แพ้เขาเหมือนกัน

เฉลยแล้วบทสนทนา บ้านป่ารอยต่อ  "ลุงป้อม"พปชร. กับ"อนุทิน" ภท.หารือเรื่องนี้

"วราวิทย์" ถ้าตัวเลขที่พูดในวงเมื่อวานผมจะใช้คำว่าอะไรดี เป็นการปิดดีลแบบหลวมๆถ้าตัวเลขตรงตามนี้หลังเลือกตั้งจะผนึกกำลังกันจัดตั้งรัฐบาลมันพอจะสรุปแบบนั้นได้มั้ยครับ

"วิรัช" ไม่มีการปิดดีลแล้วก็เปิดดีล เพียงแต่คุยกันออกมาว่าในส่วนตรงนี้ถ้าพลังประชารัฐได้ขนาดนี้ ภูมิใจไทยได้ขนาดนี้ แล้วหลายๆพรรคมารวมกันมันก็เป็นการเกริ่นไว้ล่วงหน้า แต่ในขณะเดียวกันเราก็ต้องมองดูผู้สมัครแต่ละพรรคการเมืองว่าใครจะได้มากได้น้อย ถ้าได้ 310 แปลว่าเกือบหมดแล้วนะ

"วราวิทย์" คือถ้าได้ 310 แล้วคุณวิรัชเชื่อว่าเป็นไปได้คงไม่ต้องมานั่งกินข้าวกันเมื่อวาน

"วิรัช" ครับ

"วราวิทย์" พอไม่เชื่อว่า 310 เป็นไปได้เลยเกิดการพูดคุยกันเมื่อวาน

"วิรัช"  วันนี้เราก็ไม่ได้บอกว่าเราจะสลายขั้วนะ แต่เราจะต้องทำให้ดีที่สุดก็คือทำยังไงที่จะให้พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ผมจะย้ำอยู่เสมอว่าพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ มีความเหมาะสมที่จะเป็นนายกรัฐมนตรี แล้วผมก็ต้องบอกกับทุกคนว่าเพราะอะไรที่เหมาะสม แล้วผมต้องถามต่อว่าใครจะมาร่วมกับ"พล.อ.ประวิตร"บ้าง นี่คือสิ่งที่ผมต้องการ

"วราวิทย์" แต่ถ้าจะให้พล.อ.ประวิตร ขึ้นเป็นนายกฯโดยการจับขั้วกันแบบในกลุ่มเมื่อวาน ต้องได้เสียงมาเป็นอันดับหนึ่งของขั้วนี้ ในวงสนทนาเมื่อวานมีการคุยกันแล้วใช่มั้ยว่าใครได้มากที่สุดคนนั้นเป็นนายกฯ อันนี้เป็นสัญญาใจอะไรกันไว้หรือป่าว

"วิรัช" ไม่ได้เป็นสัญญาใจ มีแต่การพูดออกมาลักษณะว่าระหว่าง"พล.อ.ประยุทธ์" กับ "พล.อ.ประวิตร" ใครได้มากกว่ากัน ต้องลองไปถามท่าน"รองนายกฯอนุทิน" เพราะท่านพูดออกมาให้ท่านมาย้ำว่าใครได้มากกว่าก็เหมาะที่จะเป็นนายกฯ ระหว่าง"รวมไทยสร้างชาติ"กับพลังประชารัฐ

เฉลยแล้วบทสนทนา บ้านป่ารอยต่อ  "ลุงป้อม"พปชร. กับ"อนุทิน" ภท.หารือเรื่องนี้

"วราวิทย์" แล้วถ้าเกิดคุณอนุทินได้มากกว่าละ

"วิรัช"  ต้องไปถามท่านอนุทิน เพราะท่านมาบอกว่าระหว่างสองพี่น้องใครได้มากผมก็สนับสนุนคนนั้นเป็นนายกฯ

วราวิทย์ หมายถึง"คุณอนุทิน"

"วิรัช" ครับพูดในลักษณะนี้

"วราวิทย์" ส่วนตัวคุณอนุทินเองถ้าได้มากกว่าสองพี่น้องอันนี้คุณวิรัชไม่รู้แล้วว่าสถานการณ์จะเป็นยังไง

"วิรัช" ตรงนี้ก็ว่ากันอีกครั้ง

"วราวิทย์" แต่ถ้าถามทางการเมืองจะเป็นไปได้ยังไงที่ถ้า"คุณอนุทิน"ได้เยอะกว่า แล้วจะยอมให้สองพี่น้องเขาเป็นนายกรัฐมนตรี

"วิรัช"  มีสมการอีกละ ส.ว.จะสนับสนุนฟากไหน ตัวนี้เป็นตัวล็อกอีก ผมคิดว่า"ท่านอนุทิน"ท่านจะมีคำตอบที่ดีๆ

"วราวิทย์" ถามว่า ท่าทีของพลังประชารัฐ และภูมิใจไทย ปิดประตูเพื่อจะไปร่วมกับเพื่อไทยหรือไม่

"วิรัช" ตอบว่า ต้องเดินสายกลาง เอาตัวเลขให้เป็นหลักก่อน จะร่วมกับพรรคใดไม่ขัดข้อง แต่เงื่อนไข"พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ" ต้องเป็นนายกรัฐมนตรี ไม่เอาตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี

"วราวิทย์" ถามว่า ปิดประตูตายเลยหรือ หากสมมติว่า เพื่อไทยคะแนนมากกว่า แต่ไม่พอในการจัดตั้งรัฐบาล ต้องแลกเก้าอี้รัฐมนตรี กับพรรคการเมืองอื่นเพื่อมาเพิ่มเสียงสนับสนุนให้เพื่อไทยได้เป็นรัฐบาล ซึ่งท่าทีของพรรคเพื่อไทยก็มองว่าแบบนั้นเท่ากับฆ่าตัวตาย แต่วันนี้พลังประชารัฐ มีเงื่อนไขหากจะร่วมรัฐบาล "พลเอกประวิตร" ต้องเป็นนายกรัฐมนตรี โอกาสในการจับมือกับก็จบลงแล้ว

"วิรัช"  ตอบว่า เพื่อไทยน่าจะมีคำตอบสุดท้ายอีก แต่สำหรับพลังประชารัฐ คือ "พลเอกประวิตร" ต้องเป็นนายกรัฐมนตรีเท่านั้น เพราะแม้ได้คะแนนจะน้อยกว่า แต่ยังมีคะแนนอีกเท่าตัว จากสมาชิกวุฒิสภา สนับสนุน ซึ่งที่ผ่านมาเคยมีชื่อของ"ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ" อดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ที่คะแนนน้อยกว่าถูกเสนอชื่อแข่งกับ "พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา" เป็นนายกรัฐมนตรี ในอดีตก็มีมาตลอด

ส่วนเงื่อนไขใครได้มากกว่า จะเป็น "นายกรัฐมนตรี" เป็นเงื่อนไขของ 2 ป.เท่านั้น ระหว่างพลเอกประวิตร และพลเอกประยุทธ์ เท่านั้น จะยอมกันแค่พี่กับน้องเท่านั้น ซึ่งในวงกินข้าวที่มีภูมิใจกับกับพลังประชารัฐ ก็มีการคุยทางการเมืองว่า สนับสนุน"พลเอกประวิตร" เป็นนายกรัฐมนตรี แม้ว่าภูมิใจไทย ได้คะแนนมากกว่าพลังประชารัฐก็ตาม

"วราวิทย์" ถามว่า ในทางการเมืองเป็นการเอาเปรียบหรือไม่ที่เอาต้นทุนของ สมาชิกวุฒิสภา เป็นตัวต่อรอง หากอยากเป็นรัฐบาล ต้องเอา "พลเอกประวิตร" เป็นนายกรัฐมนตรี

เฉลยแล้วบทสนทนา บ้านป่ารอยต่อ  "ลุงป้อม"พปชร. กับ"อนุทิน" ภท.หารือเรื่องนี้

"วิรัช"  กล่าวว่า เหลือเวลาอีก 1 ปี ซึ่งพวกเราพยายามแก้ไขรัฐธรรมนูญ แต่เราทำได้เพียงแค่นี้ และเป็นไปตามที่รัฐธรรมนูญกำหนดมาแบบนี้ อีกแค่ 1 ปีกว่า ต้องทำให้สุดทาง คิดว่า "พลเอกประวิตร" หรือทุกพรรค ทราบดีอยู่แล้ว ต้องเกิน 375 เสียง ซึ่งการหาเสียง 310 ก็เป็นการโฆษณาเกินจริงเกินไป

เมื่อทุกพรรครณรงค์หาเสียง จะเป็นพรรคเดียวเท่านั้นหรือที่ได้คะแนนท้วมท้น เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้แต่เขาจะยอมให้คะแนนเสียงจำนวนมาก ให้ พลเอกประวิตร์ เป็นนายกรัฐมนตรีหรือไม่

"วราวิทย์" ถามว่า จะจับขั้วกลุ่มเดิมหรือไม่

"วิรัช" ตอบว่า ได้ทั้งสองฝั่ง แต่อยู่ที่การพูดคุยกับทั้งสองฝั่ง ต้องดูที่คะแนน เกิดขึ้นได้หมด เพราะ"พลเอกประวิตร" เปิดกว้าง

"วราวิทย์"ถามว่า จะมีโอกาส ฉกงูเห่าให้ได้เสียงข้างมากหรือไม่

วิรัช ตอบว่า อย่าพึ่งไปมองว่า เขาจะถึง 310 เพราะทำให้เป็นโจทย์ยากสำหรับพรรคการเมืองอื่น อย่าวิ่งตามเขา เป็นสิ่งที่เขาให้เราเดินตาม เพราะเราก็เคยชนะ แม้มีเสียงเกินครึ่งแค่ 3 คะแนน ครั้งนี้เราสามารถตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อย ก็เลือกตั้งกันใหม่ ซึ่งในปี 2535 เคยเลือกตั้ง สองครั้งในปีเดียวกัน เพราะฉะนั้นเหตุการณ์ในอดีตสามารถนำมาทบทวนได้ ไม่อยากให้ตั้ง 310 เสียง เพราะมันโหดเกินไปสำหรับพรรคการเมืองอื่น หากเป็นคะแนน 250 ก็เป็นการตั้งที่พอดี

"วราวิทย์" ถามว่า ไม่กังวลจะเกิดวิกฤตทางการเมืองหากรวมเสียงข้างมากได้ แต่มาติดล็อค 376 เสียงที่ต้องอาศัยพลังประชารัฐ หรือ สมาชิกวุฒิสภา และเงิ่อนไข "พลเอกประวิตร" ต้องเป็น นายกรัฐมนตรี

"วิรัช" ตอบว่า เหลือเวลา ส.ว.อีกแค่ 1 ปี ทำไมจะให้ "พลเอกประวิตร" เป็น นายกรัฐมนตรีไม่ได้ ทั้งที่เป็นผู้ที่สะสมประสบการณ์​ และประกาศตัว ก้าวข้ามความขัดแย้ง แต่อีกฝั่ง แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี มีประสบการณ์อะไร ซึ่งเชื่อว่าประชาชนน่าจะคิดได้ คนที่ติดตามเฟสบุ๊ค "พลเอกประวิตร" จำนวนล้านกว่าคน แต่โพลแค่สองพันคน เทียบกันไม่ได้

"วราวิทย์" ถามว่า หากตั้งเงื่อนไขยอมเป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อย และพร้อมเลือกตั้งใหม่จะเป็นการบีบฝั่งตรงข้ามหรือไม่ เพราะพรรคการเมืองอื่นก็ลงทุนไปหมดแล้ว

"วิรัช"บอกว่า พลังประชารัฐพร้อมเลือกตั้งใหม่กี่ครั้งก็พร้อม เพราะทำการบ้านมาตลอด และมีนโยบายบัตรประชารัฐ 700 บาท ที่เชื่อว่าจะได้รับการตอบรับจากประชาชน

ชมคลิป >>>

ล้วงลึก บทสนทนาบ้านป่ารอยต่อ

logoline