"อุ๊งอิ๊งค์-เศรษฐา" อวยพร "บิ๊กตู่" ให้สุขภาพแข็งแรง

21 มีนาคม 2566 นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วย นางสาวแพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย  นายเศรษฐา ทวีสิน ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย และแกนนำพรรคเพื่อไทย ถือฤกษ์หลังยุบสภา เดินสายไหว้พระขอพร โดยเริ่มจากการสักการะศาลหลักเมืองกรุงเทพมหานคร สักการะพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร หรือ พระแก้วมรกต สักการะพระบรมรูปสมเด็จพระบูรพมหากษัตริยาธิราช ที่ ปราสาทพระเทพบิดร

ผู้สื่อข่าวถามว่า จะอวยพรอะไรให้ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เนื่องในวันเกิด นางสาวแพทองธาร กล่าวว่า “สุขภาพเป็นเรื่องสำคัญ ก็ขออวยพรให้สุขภาพแข็งแรง” ด้านนายเศรษฐา ก็อวยพรให้ พลเอกประยุทธ์ “ร่างกายแข็งแรงเช่นกัน”

ส่วนรณรงค์เลือกตั้งหลังจากนี้ ก็ขอให้ พลเอกประยุทธ์ สู้ศึกเลือกตั้งไปด้วยกัน เพราะถือว่าเป็นคำที่เหมาะสม เนื่องจากไม่ได้สู้กัน แต่เพื่อไทยเน้นนำเสนอนโยบายมาโดยตลอด โดยเฉพาะการสู้กับความยากจน ความไม่เท่าเทียม และความไม่เสมอภาค ซึ่งเอาชนะใจประชาชนมาได้ตลอด

เมื่อถามว่า กรณีที่พลเอกประยุทธ์ ฝากถึงรัฐบาลหน้าขอให้สานงานต่อนั้น นางสาวแพทองธาร กล่าวว่า ต้องดูประโยชน์ของประชาชนเป็นหลักว่า กรอบที่รัฐบาลเดิมทำอยู่นั้น ประชาชนได้ประโยชน์อะไรบ้าง

ด้านนายเศรษฐา กล่าวเสริมว่า แต่ละสถานการณ์ก็มีตัวแปร จึงขอดูนโยบายที่รัฐบาลเดินทำไว้ก่อน ซึ่งอาจจะมีทั้งเหมาะสม และไม่เหมาะสมกับสถานการณ์ อะไรดีก็พร้อมที่จะสานต่อ แต่อาจจะปรับเปลี่ยนรูปแบบให้รวดเร็วและกระชับมากขึ้น โดยต้องยึดประชาชนเป็นหลัก ขณะที่ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี อะไรที่เป็นการเอื้อประโยชน์ระยะยาวให้คนบางกลุ่ม พรรคเพื่อไทยไม่เอาไว้แน่นอน

ขณะที่ นพ.ชลน่าน กล่าวเสริมว่า ยุทธศาสตร์ชาติเป็นประเด็นหนึ่งที่พรรคเพื่อไทย ขอยื่นแก้ไขมาโดยตลอดในรัฐธรรมนูญ เนื่องจากเป็นการวางแนวทางที่ไม่สอดคล้องกับสถานการณ์ และบริบทการเปลี่ยนแปลงของโลกในขณะนี้ หากพรรคเพื่อไทยมีโอกาสเข้าไปเป็นรัฐบาลสิ่งแรกที่จะทำคือทำให้ประชาชนอยู่ดีกินดี ส่วนบริบททางการเมืองและตัวรัฐธรรมนูญ จะต้องเป็นรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน ที่จะต้องแก้ไขเรื่องยุทธศาสตร์ชาติ

ทั้งนี้ นางสาวแพทองธาร กล่าวว่า วันนี้(21 มี.ค.) ถือเป็นวันดี ที่จะมาไหว้พระขอพร โดยได้วางแผนไว้ก่อนหน้านี้แล้ว และการเดินสายหาเสียงหลังจากนี้จะลุยอย่างเต็มที่ ซึ่งก่อนหน้านี้พรรคเพื่อไทยได้ลงพื้นที่มาอย่างต่อเนื่อง ส่วนตัวหลังจากนี้จะลงพื้นที่ด้วยหากพื้นที่ไหนใช้เวลาเดินทาง 1-2 ชั่วโมง เพราะยังไหว แต่จะไม่ได้ไปค้างนอกสถานที่ ซึ่งจะให้ นายเศรษฐาลงพื้นที่แทน และจะปรับเปลี่ยนเป็นการวิดีโอคอล หรือการอัพคลิปแทน เพื่อให้การสื่อสารครบทุกพื้นที่มากที่สุด

ด้านนายเศรษฐา กล่าวเสริมว่า การลงพื้นที่หลังจากยุบสภาฯ จะลงพื้นที่ทุกวัน และจะเดินหน้าอย่างเต็มที่ ซึ่งมีการวางตารางไว้แล้ว

ส่วนการเลือกตั้งที่คาดว่าจะเป็นวันที่ 14 พฤษภาคมนั้น นางสาวแพทองธาร ตอบทันทีว่า พรรคพร้อมอยู่แล้ว จะเลือกตั้งพรุ่งนี้เลยก็ได้ และจะไปใช้สิทธิ์แน่นอน เพราะคาดว่า น่าจะคลอดช่วงปลายเดือนเมษายน หรือต้นเดือนพฤษภาคม 

ขณะที่นายเศรษฐา กล่าวเสริมทันที โดยหวังว่า นางสาวแพทองธาร จะได้ขึ้นเวทีปราศรัยใหญ่ครั้งสุดท้าย เพราะเป็นเวทีสำคัญมาก และขาดไม่ได้

ด้านนางสาวแพทองธาร ตอบรับว่า ถ้าเลือกตั้งวันที่ 14 พฤษภาคม ก็จะได้เห็นตนเองขึ้นเวทีปราศรัย

ส่วนแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี จะต้องอยู่ใน ส.ส. บัญชีรายชื่อหรือไม่ นางสาวแพทองธาร กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับกรรมการบริหารพรรค และส่วนตัวย้ำมาเสมอว่า อยู่ตำแหน่งอะไรก็ได้ ที่ทำเพื่อช่วยประเทศ เพราะทำคนเดียวไม่ได้อยู่แล้ว ต้องช่วยกันเป็นทีม

กรณีที่มีการตั้งข้อสังเกตเรื่องการปรับเปลี่ยนตัวผู้สมัคร จังหวัดพะเยา เพื่อหลีกทางให้แกนนำพรรคพลังประชารัฐ ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า นพ.ชลน่าน ชี้แจงว่า เป็นเพียงการตั้งข้อสังเกต แต่ตราบใดก็ตามที่ยังไม่ได้ทำไพรมารีโหวตความเห็นจากประชาชน ก็สามารถปรับเปลี่ยนได้ตลอด ยืนยันไม่มีการดีลอะไร เพราะหากประชาชนไม่ยอม ก็ไม่สามารถเปลี่ยนตัวได้