svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

ชายแดนใต้แข่งดุ 2 พรรคเจาะฐาน "ต้มยำกุ้ง"

15 มีนาคม 2566
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

สามจังหวัดชายแดนภาคใต้นับเป็นพื้นที่ "แข่งเดือด" ของหลายพรรคการเมือง เก้าอี้ ส.ส.รวมขยับขึ้นจาก 11 เป็น 13 ที่นั่ง แยกเป็น ปัตตานี 5 นราธิวาส 5 และยะลา 3 ที่นั่ง

หากย้อนกลับไปที่ผลการเลือกตั้งปี 62 พรรคประชาชาติ คือแชมป์ชายแดนใต้ เพราะกวาดไปถึง 6 จาก 11 ที่นั่ง แม้เป็นพรรคการเมืองน้องใหม่ แต่แกนนำล้วนแต่รุ่นลายคราม และหนึ่งในปัจจัยชี้ขาดชัยชนะ คือ คะแนนจาก “กลุ่มต้มยำกุ้ง”

 

คำว่า “ต้มยำกุ้ง” ในที่นี้หมายถึง คนจากพื้นที่ชายแดนใต้ที่ไปเปิดร้านอาหารไทยในมาเลเซียเป็นจำนวนมาก นับเฉพาะแค่กรุงกัวลาลัมเปอร์และพื้นที่ใกล้เคียง ราวๆ 2,000-5,000 ร้าน หากนับทั่วทุกรัฐของมาเลย์ น่าจะกว่า 50,000 ร้าน มีแรงงานในเครือข่ายนี้ ทั้งเชฟ เด็กเสิร์ฟ เด็กล้างจาน เกือบทั้งหมดเป็นคนจากสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ หมุนเวียนในธุรกิจประมาณการณ์ว่าไม่ต่ำกว่า 200,000 คน

 

เมื่อคนเหล่านี้กลับมาเลือกตั้ง รวมเสียงกับครอบครัวของพวกเขาในฝั่งไทย ย่อมกลายเป็นกลุ่มก้อนคะแนนเสียงขนาดใหญ่ที่ชี้ขาดผลการเลือกตั้งได้เหมือนกัน

 

ชายแดนใต้แข่งดุ 2 พรรคเจาะฐาน \"ต้มยำกุ้ง\"

คนกลุ่มนี้เคยถูกมองในแง่ลบ จากฝ่ายความมั่นคงว่า อาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุความไม่สงบในชายแดนใต้ แล้วหนีไปกบดานยังประเทศเพื่อนบ้าน แต่เรื่องราวเหล่านี้ค่อยๆ จางหาย เพราะความเป็นจริง คือ เศรษฐกิจ ชีวิต ความเป็นอยู่ของผู้คนชายแดนใต้ ขับเคลื่อนได้ส่วนหนึ่งก็จากกลุ่มแรงงานร้านต้มยำกุ้ง

 

ด้วยความผูกพันและสายสัมพันธ์อิสลาม ทำให้แรงงานเหล่านี้ไม่ต่างอะไรกับ “ฮีโร่” ผู้เสียสละของครอบครัว ยอมห่างบ้านเกิดเมืองนอนไปทำงานไกลบ้าน เพื่อส่งเงินกลับมาจุนเจือครอบครัว ดังนั้นแรงงานนับแสนกลุ่มนี้ หากเทให้พรรคการเมืองใด ย่อมมีโอกาสพลิกชนะทันที เพราะไม่ใช่เพียงแรงงานกลุ่มต้มยำกุ้ง แต่คนที่บ้าน คนในครอบครัว ที่รอเงินจากคนเหล่านี้ก็จะเลือกตามๆ กัน

 

จะเห็นได้จากเลือกตั้งปี 62 พรรคประชาชาติ รับคะแนนจากคนกลุ่มนี้เป็นกอบเป็นกำ จนฝ่าด่านพรรคใหญ่มาได้ถึง 6 ที่นั่ง ซึ่งผลส่วนหนึ่งมาจาก พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการพรรค ดูแลผู้ประกอบการและแรงงานเหล่านี้ ตั้งแต่สมัยเป็น “เลขาธิการ ศอ.บต.” แม้พ้นตำแหน่งก็ไม่เคยทอดทิ้ง

 

ชายแดนใต้แข่งดุ 2 พรรคเจาะฐาน \"ต้มยำกุ้ง\"
 

โดยเมื่อต้นเดือน พ.ย. 65 พ.ต.อ.ทวี ได้ไปร่วมสังเกตการณ์ การอบรมการยกระดับและพัฒนาร้านอาหารต้มยำในประเทศมาเลเซีย โดยกลุ่มผู้ประกอบการร้านอาหารต้มยำ ร่วมกับ “เชฟทองเลี่ยม พุกทอง” นายกสมาคมเดอะเชฟ ประเทศไทย และ เบญจวรรณ ปกป้อง ผู้อำนวยการวิทยาลัยสารพัดช่างพระนคร พร้อมใจกันจัดขึ้น

เป้าหมายใหญ่กว่าเก่า คือ เพื่อสร้างอาชีพ ยกระดับครัวไทย-มาเลเซีย สู่ “ครัวโลก” พร้อมสอนเทคนิคการทำอาหารไทยเพื่อให้ถูกใจคนมาเลเซีย โดยรักษาอัตลักษณ์และจุดเด่นของเมนูอาหารไทยเอาไว้อย่างครบถ้วน กิจกรรมนี้มีจัดทั้งในประเทศไทยและในมาเลเซีย

 

คู่แข่งพรรคประชาชาติ คือ พรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งมี “ขุนพลภาคใต้” อย่าง นิพนธ์ บุญญามณี รองหัวหน้าพรรค อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เคยเดินทางไปมาเลเซีย พบเครือข่ายต้มยำกุ้งเมื่อช่วงปีที่แล้วเช่นกัน เพื่อรับฟังปัญหา และนำปัญหากลับมาหาทางช่วยเหลือ โดยผลักดันผ่านกลไก ศอ.บต.

 

พรรคประชาธิปัตย์ประกาศใช้ “ยุทธศาสตร์ความมั่นคงทางอาหาร” และเตรียมเดินหน้าใช้กลไกกระทรวงพาณิชย์ และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ซึ่งทางพรรคดูแลอยู่ จับคู่ธุรกิจ ส่งออกวัตถุดิบสำหรับปรุงอาหารไทยจากฝั่งไทยไปยังร้านต้มยำมาเลย์ เพราะต้องใช้วัตถุดิบจำนวนมาก เป็นการสร้างงานเพิ่มรายได้ให้กับคนในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ไปพร้อมกัน...มาเป็นแรงจูงใจ

 

ต้องจับตาว่า “ประชาชาติ” กับ “ประชาธิปัตย์” ที่แข่งกันเจาะฐานคะแนนใหญ่อย่าง “กลุ่มต้มยำกุ้ง” ใคร พรรคไหน จะครองใจเครือข่ายต้มยำ

 

ร้านต้มยำ ในมาเลย์

 

ชายแดนใต้แข่งดุ 2 พรรคเจาะฐาน \"ต้มยำกุ้ง\"

logoline