ดีเบตเนชั่น กับอนาคตประเทศไทย 7 ตัวแทนพรรคการเมือง โชว์นโยบายสู้สุดฤทธิ์

11 มีนาคม 2566 ที่ลานโอเปร่า อนุสาวรีย์ท้าวสุรนารีย์ จ.นครราชสีมา เครือเนชั่นจัดเวทีดีเบตเลือกตั้ง 66 อนาคตประเทศไทย อยากให้โคราชและอีสานเป็นอย่างไร โดยช่วงหนึ่งของรายการ ผู้ร่วมดีเบตทั้ง 7 คน ได้ตอบคำถามจากกองบรรณาธิการเครือเนชั่น โดยคำถามแรก ได้แก่

อยากเห็นความเปลี่ยนแปลงอะไรในทางการเมืองกับการเลือกตั้ง 66

นายพริษฐ์ วัชรสินธุ ผู้จัดการการสื่อสารและรณรงค์นโยบายพรรคก้าวไกล กล่าวว่า เราไมได้อยู่ในระบอบประชาธิปไตยเต็มใบ ยังอยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญปี 60 ที่ยังมีเนื้อหาและกระบวนการที่ไม่เป็นประชาธิปไตย ซึ่งขีดเขียนโดยคนไม่กี่คนและถูกแต่งตั้งมาจากคณะรัฐประหาร โดยไม่ได้เปิดให้มีการหาเสียงแบบยุติธรรมเท่าเทียม ส่วนคนที่ออกมาคัดค้านถูกจองจำดำเนินคดี

และยังมีเนื้อหาที่ไม่เป็นประชาธิปไตยโดยฝังอาวุธอยู่ 3 ประเภท คือ วุฒิสภาที่มีส่วนในการเลือกนายกฯ ทำให้ ส.ว. 1 คน มีอำนาจเหนือประชาชน 7 หมื่นคน นอกจากนั้น ส.ว.ยังมีอำนาจในการยับยั้งการแก้ไขรธน. มาโหวตกฎหมายการปฎิรูประเทศร่วมกับสภาผู้แทนราษฎร อาวุธที่สองแนบเนียนขึ้นมา ศาลรธน.และองค์กรอิสระ ซึ่งองค์กรเหล่านี้ถูกคาดหวังให้เป็นกลาง แต่กระบวนแต่งตั้งว่าใครจะมาดำรงตำแหน่ง เช่น ตุลาการศาลรธน. เป็นกรรมการ ป.ป.ช. กลับถูกผูกขาดไว้กับ ส.ว. หรือมี ส.ว.รับรองก่อน

ส่วนอาวุธสุดท้ายที่ยังเก็บไว้ในลิ้นชัก คือ ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี สิ่งที่อันตรายที่สุดคือ มันเปิดช่องให้สามารถขับไล่รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชนได้ เพราะนโยบายเหล่านั้นดันไม่ตรงกับยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี

นายวิรัช รัตนเศรษฐ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ดีเบตว่า เรียนพี่น้องประชาชนคนไทย นโยบายของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ มีความต้องการก้าวข้ามความขัดแย้ง ต้องทำให้สำเร็จถ้าพล.อ.ประวิตร ได้เป็นนายกฯคนต่อไป โดยปัญหาเหล่านี้ยืดเยื้อมนาน เพราะผมไม่เคยได้ร่างรธน.สักฉบับ หลังเป็นผู้แทนมาหลายสมัย รัฐธรรมนูญแต่ละฉบับอาจจะมีส่วนดี หรืออาจจะะมีส่วนเสีย แต่เมื่อร่างมาแล้วก็แก้ได้เท่านี้ ก็ไม่รู้จะทำอย่างไรเหมือนกัน ก็ต้องทนใช้มันต่อไป วันหนึ่งถ้าเราพร้อมใจกันเราก็แก้ไขได้

พื้นที่ส่วนใหญ่ของโคราชทำเกษตรกรรม ท่านมีแผนเพิ่มรายได้ให้เกษตกร ซึ่งเป็นคนกลุ่มใหญ่ของจังหวัดอย่างไรบ้าง 

นายวิรัช รัตนเศรษฐ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า พื้นที่ในการทำเกษตรของนครราชสีมา เราเป็นแชมป์ในการปลูกข้าวของประเทศไทย 4 ล้านไร่ เป็นแชมป์มันสำปะหลัง 2 ล้านกว่าไร่ และยังมีอ้อยอีก 1 ล้าน 5 แสนไร่ ฉะนั้นในพืชแต่ละตัวถ้าวันไหนเกษตรกรมีรายได้มากทุกคนก็ยิ้มออก แต่ตรงนี้รัฐบาลจึงต้องกำหนดให้ทุนทำนา ไม่เกิน 20 ไร่ ไร่ละ 1,000 บาท โดยเราจ่ายเงินส่วนนี้ไปแล้วเมื่อ 4 ปีก่อน ในส่วนของราคามันสำปะหลัง อ้อย ข้าวโพด พรรคพลังประชารัฐจะดูแลให้ทั้งหมดเพื่อไม่ให้ราคาตกต่ำ โดยจะช่วยดูรายละเอียดในเชิงลึกให้มากยิ่งขึ้น 

นายพริษฐ์ วัชรสินธุ ผู้จัดการการสื่อสารและรณรงค์นโยบายพรรคก้าวไกล ดีเบตว่า แนวทาวในการเพิ่มรายได้ให้พี่น้องเกษตรกร คือ พ.ร.บ.สุราก้าวหน้า ซึ่งจะช่วยให้พี่น้องได้ราคาผลผลิตมากขึ้น จาการผลิตสุราด้วยสินค้าเกษตร ต่อมาคือการให้ท้องถิ่นมีบทบาทมากขึ้นร่วมกับเกษตรกรในการแปรรูปสินค้า กระจายงบประมาณให้ท้องถิ่นมีบทบาทมากขึ้น สุดท้ายคือให้รัฐมีการประกันราคาตลาด โดยให้มีการจัดซื้อสินค้าจากเกษตรกรในพื้นที่อันดับแรก และพรรคก้าวไกลจะไปเจรจาการทูตด้านการค้าเพื่อเพิ่มมูลค่าทางตลาดให้กับเกษตรกรไทย

อยากทราบแผนพัฒนาภาคอีสานให้เป็นศูนย์กลางการค้า และโลจิสติกส์ ขยายสู่การค้าสากลกับนานาอารยประเทศ

นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า เราต้องทำให้ภาคอีสานเป็นศูนย์กลางของการคมนาคม ซึ่งจะเกี่ยวข้องกับจังหวัดโคราชด้วย เส้นทางคมนาคมที่สำคัญซึ่งดำเนินการอยู่ คือ รถไฟทางคู่ (รถไฟความเร็วสูง) แม้จะยังไม่เสร็จดี แต่นโยบายของเพื่อไทยจะทำให้เส้นทางเหล่านี้เสร็จสมบูรณ์ ต่อด้วยไปยังภาคอีสานตอนบน โดยเชื่อต่อเส้นทางกับประเทศเพื่อนบ้าน คือ เวียงจันทร์ และจีน และจะพัฒนาให้ถนนเป็น 4 เลนทั้งหมด เพื่อลดอุบัติเหตุและการจราจรที่หนาแน่น และที่สำคัญมอเตอร์เวย์ต้องเร่งสร้างให้แล้วเสร็จโดยเร็วที่สุด นี่คือเรื่องของโครงสร้างคมนาคม

ส่วนการสร้างรายได้ให้คนอีสาน ภาคการเกษตรเป็นสิ่งสำคัญรัฐบาลที่ดีต้องทำหน้าที่เป็นเซลแมนคือไปขายของให้พี่น้องคนไทย เอาอ้อย เอามันไปขายกับต่างประเทศ ถึงจะทำให้พืชผลทางการเกษตรดีขึ้น ในภาคอีสานมีพื้นที่ชายแดนที่เป็นจุดการค้าอยู่ ซึ่งเราจะส่งเสริมจุดนี้ให้การค้าในชายมีมูลค่าสูงขึ้น โดยการลดระเบียบข้อกดหนดต่างๆให้เป็นประโยชน์มากขึ้น สุดท้ายคือเรื่องที่ดินทำกิน โดยเข้าแก้กฎหมายที่ดินส.ป.ก.ถ้าพรรคเพื่อไทยได้เป็นรัฐบาลเราพร้อมทำทันที 

นายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ ว่าที่ผู้สมัครพรรคภูมิใจไทย จ.นครราชสีมา เขต 9 ดีเบตว่า ภาคอีสานนั้นใหญ่ที่สุด ในประเทศไทย ซึ่งมีประชากร และ ส.ส.เป็นจำนวนมาก เราจึงต้องทำถนนให้ได้มาตรฐาน เส้นทางจากกรุงเทพมาโคราชมีการขยายถนน โคราชไปต่อบุรีรัมย์ต้องทำถนนต่อให้ดีที่สุด ขณะเดียวกันก็ทำสินค้าเกษตรให้มีราคาดีขึ้นควบคู่ เพื่อให้พี่น้องที่ไปทำงานในเมืองหันกลับมาทำงานที่บ้านเกิดตัวเอง

ผ่านนโยบายของพรรคเราคือ เกษตรร่ำรวย ที่ต้องการให้ประชาชนรู้ราคาเกษตรก่อนล่วงหน้า หรือ รับเงินก่อนขาย และเวลาเสียหายเรามีประกันให้ เพื่อรองรับความเจริญก้าวหน้าในอนาคต โดยต้องทำการเกษตรอย่าไรไม่ให้ขาดทุน มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ถ้าถนนหานทางดีขึ้นภาคการเกษตรจะเติบโตตามแน่นอน 

กติการเลือกตั้งครั้งใหม่กับจำนวนพรรคคู่แข่งที่เพิ่มขึ้น มีกลยุทธ์หมัดเด็ดเอาชนะอย่างไร

ดร.คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ทุกพรรคเกิดขึ้นใหม่เยอะมาก ฉะนั้นเราต้องมีนโยบายที่ดีเพื่อชนะใจคนอีสานและคนโคราช คือสร้างภูมิคุ้มกันให้คนไทยอย่างยั่งยืน โดยให้เยาวชนทุกชั้นเรียนได้ศึกษาวิทยาศาสตร์โค้ดดิ้ง ซึ่งจะเป็นตัวบูรณาการวิชาอื่น ๆ ไปด้วย โดยการทำให้เด็กเรียนอย่างสนุกมากขึ้น เช่นเกษตรปราณีต หรือ ระหว่างเรียนมีรายได้ และจบแล้วมีงานทำเป็นผู้ประกอบการคนรุ่นใหม่ทันสมัยมีคุณภาพมีชีวิตที่ดี เพราะเราใช้วิทยาศาสตร์เข้ามาเป็นตัวช่วยในการเรียนการสอน จะยิ่งช่วยให้แข่งขันกับผู้อื่นได้ง่าย ฉะนั้นถ้าเด็กไทยมีวิทยาศาสตร์ มีโค้ดดิ้ง หรือ เทคโนโลยีที่ดีเด็กไทยของเราเจริญแน่นอน  

นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย ดีเบตว่า เราได้สรรหาบุคลากรที่มีคุณภาพมาเป็นว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. และเรายังมีนโยบายพรรคที่ดี ก็คือประชาธิปไตยที่กินได้ พรรคเพื่อไทยจึงเน้นแก้ไขปัญหาปากท้องของพี่น้องประชาชน ก่อนทำนโยบายได้ศึกษาข้อมูลกับประชาชนมาหมดแล้ว ฉะนั้นเราจึงมั่นใจทั้งตัวคนและนโยบาย ส่วนเรื่องถัดมาคือหัตถกรรมแลนด์สไลด์ เพราะบัดนี้ ส.ว.ยังสามารถเลือกนายกฯได้ เราจึงต้องสกัดแผนนี้ให้ได้ 

จะพัฒนาศักยภาพสินค้าเกษตรภาคอีสานให้เป็นสินค้าส่งออกผ่านรถไฟไทยจีน อย่างไรเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ และแก้ปัญหายากจน 

ศ.ดร.กนก วงศ์ตระหง่าน เลขานุการกรรมการนโยบายพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวว่า เราต้องพัฒนาสินค้าเกษตร และทำให้สินค้ามีคุณภาพสูง ด้วยการปลูกที่แม่นยำจากความรู้ของหลักวิทยาศาสตร์ โดยการปลูกนั้นภาคอีสานอยู่นอกพื้นที่ชลประทาน ซึ่งเราไม่มีน้ำ โดยเราจะต้องทำน้ำบาดาลทุกตำบล เพื่อไว้ใช้อุปโภคบริโภค เมื่อปลูกได้ผลผลิตที่มีคุณภาพ เราต้องแปรรูปสินค้าให้แพงขึ้น และออกแบบผลิตภัณฑ์ให้ตรงกับความต้องการตลาดด้วยความทันสมัยก็สำคัญ นอกจากนี้ต้องกลับไปดูต้นทุนการทำเกษตร โดยการขยายเขตไฟฟ้าเพื่อทำการเกษตร ด้วยต้นทุนไฟฟ้าหน่วยละ 2 บาท เมื่อเกษตรกรมีผลผลิตที่ดี ก็จะขายสินค้าไปยังผู้ซื้อกับนานาประเทศได้ ตนเชื่อว่าจะทำให้คนอีสานร่ำรวยขึ้น

นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรคชาติพัฒนากล้า ดีเบตว่า เราต้องเปลี่ยนเป็นโคราชโนมิกส์ โดยการหยิบสินค้าเกษตรมาเป็นสินค้าอุตสาหกรรม โดยจะเปลี่ยให้ภาคอีสานและโคราชเป็นระเบียงเศรษฐกิจใหม่ เชิญเขามาลงทุนสร้างโรงงานอุตสาหกรรม และเปลี่ยนโคราชเป็นเมืองอุตสาหกรรมโลก หรือ อาหารโลกให้ได้ เพื่อป้อนตลาดโลก เพิ่มมูลค่าสินค้าเกษตรเพื่อกระจายผลผลิตส่งออกตามเส้นทางรถไฟความเร็วสูงในอนาคตต่อไป 

อยากทราบแผนฟื้นฟูเมืองโคราช หลังเศรษฐกิจทรุดหนัก โรงแรม-ห้างฯ แห่ปิดป้ายขายไร้นักท่องเที่ยว

นายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ ว่าที่ผู้สมัครพรรคภูมิใจไทย จ.นครราชสีมา เขต 9 กล่าวว่า เมืองโคราชเป็นจังหวัดใหญ่ เราจึงต้องดูบุรีรัมย์เป็นตัวอย่างในความเจริญก้าวหน้า เราต้องผนึกกำลังขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ภาคเอกชน และภาครัฐ และมองการแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบ จากนั้นงบประมาณจะลงโคราช โดยการสร้างสนามกีฬาขนาดใหญ่จะเกิดขึ้น ตัวอย่างจังหวัดใกล้เคียงอย่างบุรีรัมย์ ทำไมถึงมีทีมฟุตบอลขนาดใหญ่ มีสนามแข่งรถขนาดใหญ่ เพราะเขารวมเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ฉะนั้นจังหวัดโคราชจะเติบโต หรือฟื้นฟูให้เจริญมากกว่าเดิมได้ นักการเมืองในโคราชต้องไม่ทะเลาะกัน โดยมีบุรีรัมย์เป็นตัวอย่างในความเจริญก้าวหน้า

ศ.ดร.กนก วงศ์ตระหง่าน เลขานุการกรรมการนโยบายพรรคชาติไทยพัฒนา ดีเบตว่า อันดับแรกต้องทำให้คนจน หรือเกษตรกรลืมตาอ้าปากได้ โดยการปลูกพืชผลผลิตให้มีกำไร ชาติไทยพัฒนามั่นใจว่าเราสามารถช่วยให้พี่น้องเกษตรกรมีรายได้เพิ่ม 1 หมื่นบาท ด้วยนวัตกรรมวิทยาศาสตร์เทคโนโลยี และสิ่งต่อมาคือทำอย่างไรให้ลูกหลานคนโคราชมีอนาคตที่ยั่งยืน โดยตั้งแต่เกิดต้องให้อาหารที่ถูกต้องแก่เด็ก ให้พัฒนาการที่ถูกต้อง พอโตขึ้นต้องสอนให้คิดเป็น ทำเป็น ทำงานไปก็ให้มีการฝึกทักษะในการประกอบอาชีพไปด้วย เชื่อว่าเหล่านี้จะทำให้ทุกคนมีชีวิตและรายได้ที่มั่นคง

หัวใจสำคัญของโคราช คืออะไร

นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรคชาติพัฒนากล้า กล่าวว่า โคราชเป็นจังหวัดใหญ่สุดในภาคอีสาน เรามีนโยบายเปลี่ยนสนามรบให้เป็นสนามการค้า การเชื่อมโยงภาคอีสานไปสู่เมืองจีน เข้าไปสู่ยุโรปและทวีปแอฟริกา ถ้าเราเชื่อมโยงด้วยการคมนาคมต่าง ๆ ได้สำเร็จ การลงทุนก็จะย้อนกลับมาหาเรา ซึ่งหวังไว้ว่าพรรคเราจะเปลี่ยนโคราชให้เป็นจุดศูนย์กลางของการเชื่อมโยงกับเมืองหลวงให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ ให้เป็นชิ้นเดียวกันเพื่อสร้างความเจริญรุ่งเรือง และเอาเศรษฐกิจยุคทองกลับมาคืนคนโคราชและคนอีสาน

ดร.คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ดีเบตว่า โคราชคืออีสานเชื่อมโลกโดยต้องการเปลี่ยนให้โคราชเป็นเมืองอัจฉริยะ โดยจะมีรถไฟรางเบา และทำให้โคราชเป็นเมืองน่าอยู่ เป็นเมืองการศึกษา มีการสร้างพลังงานชีวะภาพ เพราะเราเป็นเมืองเกษตร โดยจะใช้ผลผลิตมาสร้างพลังงานสะอาดให้กับชุมชนและประชาชนโดยต้นทุนที่ลดลงกว่าปกติ 1 เท่าตัว