
2 มีนาคม 2566 นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ชี้แจงถึงกรณีที่นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีต กกต. ออกมาระบุว่ามิวสิควิดีโอเพลงเช้าวันใหม่ของพรรคประชาธิปัตย์สุ่มเสี่ยงต่อการขัดระเบียบ กกต. นั้น มองว่า เรื่องนี้มีที่มาที่ไป หลังจากที่ นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร หยุดพิจารณา พระราชกำหนดขยาย ระยะเวลาการประกาศใช้พระราชบัญญัติอุ้มหาย ฯ เพื่อให้ รอให้ศาลรัฐธรรมนูญ มีคำวินิจฉัยก่อน
โดยนายสมชัย ออกมาแสดงความเห็นจนเกิดความเสีย คาดว่าคงโกรธ ที่ตอบโต้ไม่ได้ จึงหยิบยกเรื่องมิวสิควิดีโอ เพลงเช้าวันใหม่ ที่ขับร้องโดยนายเมธี อรุณ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. โดยอ้างถึงระเบียบกรรมการการเลือกตั้งข้อที่ 18 ที่ระบุว่าไม่ให้ศิลปิน ใช้อาชีพนักร้องมาเอื้อประโยชน์ทางการเมือง แต่ต้องไม่ลืมว่า นายเมธี ไม่ได้เป็นนักร้องเพียงอย่างเดียว แต่ยังเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ และเป็นว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ด้วย
เพราะฉะนั้นการออกแคมเปญเพื่อประชาสัมพันธ์ในการหาเสียงรูปแบบใหม่ ด้วยการจัดทำมิวสิควิดีโอ รวบรวมเอาสมาชิกพรรคทุกรุ่น มาอยู่ในมิวสิควิดีโอชุดนี้ ก็เพื่อการประชาสัมพันธ์ ไม่ได้เข้าข่ายผิดกฎหมาย ยืนยันว่าตนเองเป็นฝ่ายกฎหมายไม่ได้รู้สึกกังวล หากจะมีใครร้องก็พร้อมชี้แจง
โดยยืนยันได้ว่าเป็นสิ่งที่ถูกต้อง พรรคประชาธิปัตย์ก็เคยทำแบบนี้มาแล้ว แต่งเพลงขึ้นมา เพื่อเป็นเพลงประจำพรรค ไม่ได้มีประชาชนเข้ามาร่วมเป็น 1000 คน แต่เป็นการทำภายใน บันทึกภาพและเสียงเพื่อจะเผยแพร่ในโซเชียลมีเดียเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าขณะนี้ยังไม่มีพระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกตั้ง ก็ไม่ได้กังวลว่าจะมีใครไปยื่นให้คณะกรรมการการเลือกตั้งตรวจสอบ เพราะสถานการณ์ทางการเมืองอาจจะมีการเปลี่ยนแปลงไป หากนายกรัฐมนตรีประกาศยุบสภา เพราะจะมีข้อแตกต่างทางกฎหมายเพิ่มขึ้นอีกจำนวนมาก แต่ยืนยันว่าการทำมิวสิควิดีโอ ดังกล่าวถูกต้องตามกฏหมายทุกประการ
ส่วนกรณีที่นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสภาองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เรื่องร้องเรียนถึงนายชวน ให้ตรวจสอบกรณีที่มี ส.ส. พรรคเก่าแก่ ตั้งวงเล่นการพนันในห้องพักที่อาคารรัฐสภา ยอมรับว่ายังไม่ทราบรายละเอียดเรื่องดังกล่าว เพราะตอนที่ นายศรีสุวรรณ ยื่นเรื่องตนเองได้ลาออกจาก เลขานุการประธานรัฐสภาแล้วตั้งแต่เมื่อวาน จึงยังไม่ได้ติดตามเรื่องดังกล่าว
นายราเมศ กล่าวอีกว่า ไม่ว่าจะเกิดขึ้นกับ ส.ส. คนใดหรือพรรคการเมืองไหน หรือแม้แต่พรรคประชาธิปัตย์ก็ตาม ก็ไม่มีใครอยู่เหนือกฎหมาย และข้อบังคับ ทุกอย่างมีกระบวนการ หากมีการพาดพิงพรรค ก็จะมีคณะทำงานคอยตรวจสอบ การกระทำความผิดต่าง ๆ อยู่แล้ว
อีกทั้งกฎระเบียบของพรรคค่อนข้างรัดกุม รอบคอบ จึงไม่มีอะไรน่ากังวล จากตามที่ปรากฏเป็นข่าวพบว่ามีสองประเด็น คือเรื่องจริยธรรม ส.ส. ยังไม่มั่นใจว่าส.ส.คนดังกล่าว ลาออกแล้วหรือไม่ อีกประเด็นหนึ่งคือ เป็นคดีอาญาปกติทุกอย่างมีกฎหมายบ้านเมือง ผิดว่าไปตามผิด ถูกว่าไปตามถูก
"ส่วนที่หลายคนมองว่านี่เป็นการดิสเครดิตทางการเมือง ส่วนตัวเชื่อว่าหากประชาชนได้เห็นการดำเนินกิจกรรมทางการเมืองของพรรคประชาธิปัตย์แล้ว พรรคประชาธิปัตย์ยึดมั่นในสิ่งที่ถูกต้องยึดมั่นในกฎหมายมาตลอด และศีลธรรมอันดีต่อสังคม ดังนั้นทุกอย่างจึงต้องว่าไปตามกระบวนการ ทางกฎหมาย" นายราเมศ ระบุ