22 กุมภาพันธ์ 2566 พรรคร่วมฝ่ายค้าน นำโดย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณี คณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบร่างพระราชกำหนด (พ.ร.ก.)ขยายเวลา การบังคับใช้ พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ.2565 พ.ศ. .. ทั้งที่กฎหมายดังกล่าว มีสาระสำคัญที่สภาฯเห็นความสำคัญคือเรื่องสิทธิมนุษยชน ของผู้ที่ถูกกระทำโดยกระบวนการที่ไม่ชอบ
โดยเฉพาะที่เกี่ยวเนื่องกับกระบวนการยุติธรรม สภาฯจึงเร่งตราพระราชบัญญัติฉบับนี้ออกไปด้วยความเห็นพ้องของทุกฝ่าย ที่พิจารณาอย่างรอบคอบ ซึ่งสภาฯเห็นความจำเป็นของวันบังคับใช้ จึงได้เขียนในมาตรา 2 อย่างชัดเจนว่า ให้มีผลบังคับใช้หลังจากพระราชบัญญัตินี้ประกาศ 120 วัน แต่ ครม.กลับตราพระราชกำหนดดังกล่าว แม้ว่าฝ่ายค้านได้ทักท้วง แต่ก็ไม่มีผลใดๆ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
นพ.ชลน่าน กล่าวอีกว่า พระราชกำหนดฉบับนี้ขยายกำหนดเวลาให้ เฉพาะมาตรา 22-25 ซึ่งเป็นมาตราเกี่ยวกับสิทธิเสรีภาพในการเข้าควบคุมตัวและการเข้าถึงข้อมูลของผู้ถูกควบคุมตัวใน พ.ร.บ.ดังกล่าว ไปมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2566 เป็นต้นไป จากเดิมที่เริ่มจะมีผลบังคับใช้วันนี้ (22 ก.พ.) ดังนั้น ฝ่ายค้านเห็นว่า การที่ออกพระราชกำหนดเลื่อนวันบังคับใช้เช่นนี้ เป็นการละเมิดสิทธิและเสรีภาพของประชาชน ในกระบวนการยุติธรรมที่จะได้รับความคุ้มครอง และพระราชกำหนดฉบับนี้ยังขัดต่อเจตนารมณ์ของกฎหมายอย่างชัดเจน
เพราะการตราพระราชกำหนดไม่เข้าเงื่อนไข จึงไม่ชอบด้วยบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ อีกทั้ง ขณะนี้ ยังอยู่ในสมัยประชุมสภาฯ ครม.ต้องเสนอสภาฯให้ความเห็นชอบและอนุมัติพระราชกำหนด เพราะถ้ารัฐสภาไม่อนุมัติ การบังคับใช้ก็เป็นการยุติ จึงขอเรียกร้องให้ ครม.ส่งให้พระราชกำหนดให้สภาฯพิจารณาโดยเร็ว ซึ่งหากส่งมาภายในสัปดาห์นี้ ก็สามารถนัดเพื่อพิจารณาได้ทัน แต่การอ้างว่าไม่ทันนั้น ถือว่าเป็นเหตุผลที่ไม่ชอบ เพราะหน้าที่ ครม.คือส่งมาเท่านั้น และการที่ไม่ส่งมานั้น มีเหตุผลอะไรลึกลับซับซ้อนหรือไม่ ซึ่งจากกรณีดังกล่าว ยังสามารถทักท้วงด้วยการส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยความชอบของการตราพระราชกำหนดนี้ด้วย
ด้านนายสมชัย ศรีสุทธิยากร ประธานคณะทำงานด้านยุทธศาสตร์พรรคเสรีรวมไทย กล่าวว่า 4 เดือนที่ผ่านมารัฐบาลไม่ทำอะไรหรือเตรียมการความพร้อม รองรับการบังคับใช้กฎหมายดังกล่าว และเมื่อถึงวันที่ 14 กุมภาพันธ์ รัฐบาลก็มอบความรักด้วยการเลื่อนบังคับใช้กฎหมายออกไปจนถึงวันที่ 1 ตุลาคม 2566 จึงเรียกร้องให้รัฐมนตรีส่งพระราชกำหนดดังกล่าวให้สภาฯ เห็นชอบภายในวันศุกร์ที่ 24 ก.พ.นี้
เพื่อให้ประธานสภาผู้แทนราษฎรเรียกประชุม ได้ทันก่อนปิดสมัยประชุมสภาฯ หรือหากหมดสมัยประชุมสภาฯ ก็สามารถเรียกประชุมสมัยวิสามัญได้ แต่หากรัฐมนตรียังไม่ส่งเรื่องมายังสภาฯภายในวันศุกร์นี้ ตนจะใช้สิทธิ์ในฐานะประชาชน จะยื่นเรื่องต่อ ป.ป.ช. เพื่อถอดถอน ครม.ทั้งคณะ เพราะถือว่าเป็นการผิดจริยธรรมตามรัฐธรรมนูญ และหาก ป.ป.ช. ส่งเรื่องต่อให้ศาลฎีกา และหากศาลฎีกามีคำวินิจฉัยเมื่อไรแม้จะเป็นรักษาการอยู่ก็ต้องพ้นจากตำแหน่ง
หรือแม้แต่พ้นจาก ครม.ไปแล้ว ก็สามารถเพิกถอนสิทธิ์ทางการเมืองและตัดสิทธิ์สมัครรับเลือกตั้ง 10 ปี ตามกฎหมายรัฐธรรมนูญมาตรา 235