"พิธา-ทวี" ได้ไปต่อ "ศาลรธน." ไม่รับคำร้องปม จี้สธ.ทบทวนย้าย "หมอสุภัทร"

21 กุมภาพันธ์ 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ มีการประชุมปรึกษาคดีที่ประธานสภาผู้แทนราษฎรส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 82 ว่าสมาชิกภาพของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สิ้นสุดลง ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 101 (3) ประกอบมาตรา 185 (3) หรือไม่



สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จำนวน 57 คน ยื่นคำร้องต่อประธานสภาผู้แทนราษฎร (ผู้ร้อง) ว่า นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคก้าวไกล (ผู้ถูกร้อง) ออกแถลงการณ์ในนามหัวหน้าพรรคก้าวไกลไม่เห็นด้วยกับคำสั่งกระทรวงสาธารณสุขในการโยกย้าย นายแพทย์สุภัทร ฮาสุวรรณกิจ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลจะนะ ไปดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการโรงพยาบาลสะบ้าย้อย จังหวัดสงขลา

โดยตั้งข้อสังเกตว่าเป็นการโยกย้ายด้วยเหตุผลทางการเมืองหรือไม่ ขอให้กระทรวงสาธารณสุข ทบทวนคำสั่งดังกล่าวโดยคำนึงถึงประโยชน์ของประเทศและประชาชน นั้น เป็นการกระทำอันเป็นการต้องห้าม ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 185 (3) เป็นเหตุให้สมาชิกภาพของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของผู้ถูกร้องสิ้นสุดลง ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 101 (3) หรือไม่ ผู้ร้องจึงส่งคำร้องเพื่อขอให้ศาลรัฐธรรมนูญเพื่อวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญมาตรา 82 วรรคหนึ่ง

 

ผลการพิจารณากรณีตามคำร้องไม่ปรากฎข้อเท็จจริงว่า ผู้ถูกร้องมีการกระทำการอื่นใดอันเป็นการก้าวก่ายหรือแทรกแซงในเรื่องการโกย้ายข้าราชการในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข มูลกรณียังไม่ปรากฏว่าการกระทำของผู้ถูกร้องเป็นการต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 185 (3) ศาลโดยมติเสียงข้างมาก (6  ต่อ 2) มีคำสั่งไม่รับคำร้องไว้พิจารณาวินิจฉัย

นอกจากนี้ ยังมีการประชุมปรึกษาคดีที่ประธานสภาผู้แทนราษฎรส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญมาตรา 82 ว่า สมาชิกภาพของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 101 (7) ประกอบมาตรา 185 (3) หรือไม่



สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จำนวน 57 คน ยื่นคำร้องต่อประธานสภาผู้แทนราษฎร (ผู้ร้อง) ว่าพ.ต.อ.ทวี สอดส่อง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาชาติ (ผู้ถูกร้อง) ออกแถลงการณ์ไม่เห็นด้วยกับคำสั่งกระทรวงสาธารณสุขในการโยกย้ายนายแพทย์สุภัทร ฮาสุวรรณกิจ ผู้อำนวยการ โรงพยาบาลจะนะ ไปรับราชการที่โรงพยาบาลอื่น

โดยผู้ถูร้องขอให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ชี้แจงเหตุผลของการโยกย้ายดังกล่าวต่อสาธารณชน นั้น เป็นการกระทำอันเป็นการต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 185 (3) เป็นเหตุให้สมาชิกภาพของผู้ถูกร้องสิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 101(3) หรือไม่ ผู้ร้องจึงส่งคำร้องเพื่อขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 82 วรรคหนึ่ง



ผลการพิจารณา กรณีตามคำร้องไม่ปรากฏข้อเท็จจริงว่าผู้ถูกร้องมีการกระทำการอื่นใดอันเป็นการก้าวก่ายหรือแทรกแซงในเรื่องการโยกย้ายข้าราซการในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข มูลกรณียังไม่ปรากฏว่าการกระทำของผู้ถูกร้องเป็นการต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 185 (3) ศาลมีมติเป็นเอกฉันท์มีคำสั่งไม่รับคำร้องไว้พิจารณาวินิจฉัย