17 กุมภาพันธ์ 2566 "นายสมคิด เชื้อคง" ส.ส. อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า ส่วนตัวมั่นใจการเลือกตั้งครั้งหน้า พรรคจะสามารถกวาดที่นั่ง ส.ส. อุบลราชธานี ได้ทั้ง 11 เขต แต่ยอมรับว่า มี 3 เขตเลือกตั้งที่จะต้องทำการบ้านหนักกว่าพื้นที่อื่น เพราะเป็นเขตเลือกตั้งของพรรคภูมิใจไทย ที่มี ส.ส. จากพรรคประชาธิปัตย์ย้ายไปพรรคภูมิใจไทย คือ "น.ส.แนน บุณย์ธิดา สมชัย" ในเขตอำเภอพิบูลมังสาหาร และ ส.ส. จากพรรคเศรษฐกิจไทย ที่ย้ายไปพรรคภูมิใจไทย คือ "นายธนะสิทธิ์ โควสุรัตน์" รวมถึงเขตเลือกตั้งของ "นายวุฒิพงษ์ นามบุตร" จากพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งเชื่อว่า หากพรรคเพื่อไทยกระแสดี ความนิยมอาจจะพลิกกลับมายังพรรคให้ชนะเลือกตั้งได้
"ยอมรับว่าคู่แข่งทางการเมืองในจ.อุบลราชธานี คือ พรรคภูมิใจไทย รองลงมา คือ พรรคพลังประชารัฐ ที่มีการจัดว่าที่ผู้สมัครไว้ครบทุกเขต" นายสมคิด กล่าว
นายสมคิด ยังกล่าวถึงเขตเลือกตั้งของตัวเอง แม้จะเป็น ส.ส. มา 2 สมัย แต่การเลือกตั้งครั้งหน้า ต้องสู้หนักมากขึ้น เพราะมีเจ้าของโรงแป้ง ซึ่งเป็นคนในพรรคขั้วเดียวกันมาสู้กันเอง คือ พรรคเพื่อไทยรวมพลัง ที่มีโลโก้คล้ายกับพรรคเพื่อไทย อาจทำให้ตัดคะแนนจากฐานเสียงเดียวกัน ขณะเดียวกัน พรรคดังกล่าวยังส่งผู้สมัครชนกับว่าที่ผู้สมัครพรรคเพื่อไทย เขต 7 คือ น.ส.สุดารัตน์ พิทักษ์พรพัลลภ บุตรสาวของนายชูวิทย์ พิทักษ์พรพัลลภ ส.ส. อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย ด้วย
นอกจากนี้ ปัจจัยที่จะเป็นตัวเลือกของประชาชนในการเลือกตั้ง คือ ความนิยมของพรรค ซึ่งพรรคเพื่อไทยยังขายได้ใน จ.อุบลราชธานี ขณะเดียวกัน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ของแต่ละพรรคก็เป็นจุดเด่น มีส่วนในการตัดสินใจเลือกของประชาชน และตัวของว่าที่ผู้สมัครที่ทำพื้นที่อย่างต่อเนื่อง