
17 กุมภาพันธ์ 2566 "นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ" ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่ "พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา" นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ชี้แจงในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไป เพื่อซักถามข้อเท็จจริงหรือเสนอแนะปัญหาต่อคณะรัฐมนตรี ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 152 ในประเด็นทุนจีนสีเทาในไทย โดยอ้างว่าทุนจีนสีเทาเข้ามาตั้งแต่รัฐบาลก่อนหน้านี้แล้วนั้น
นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า ตลอดเวลา 8 ปีจนถึงเมื่อคืนนี้ (16ก.พ.) พล.อ.ประยุทธ์ พูดในสภาฯ ยังเป็นคนเดิม "มะนาวไม่มีน้ำ สามหาวไม่มีเว้น" พูดจาเอาดีเข้าตัว เก่งกว่าใคร ดีที่สุดเหนือกว่าคนอื่นทั้งบ้านทั้งเมือง ทั้งที่ไม่มีผลงานอันเป็นที่ประจักษ์
ส่วนกรณีพาดพิงทุนจีนสีเทา นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า ต้องเคารพในข้อเท็จจริง ว่าคนๆ นั้นได้รับสัญชาติในปี 2557 ส่วนกรณีมีคนต่างด้าวไปซื้อบ้านในโครงการยักษ์ใหญ่ ซึ่งมีข้อมูลรายงานว่า ซื้อในปี 2563 หมายความว่าหลังจากได้สัญชาติไทยในยุครัฐบาลปัจจุบันแล้ว 6 ปี
"ดังนั้น ซื้อบ้านขายสัญชาติ ขายบ้านแถมสัญชาติ มันจึงไม่มี มันมีแต่ให้สัญชาติแล้วไปฟาดเงินเข้าพรรค ตู้ห่าวเป็นคนบริจาคเงินให้พรรคพลังประชารัฐ แล้วจากนั้น ส.ว. อ.อ่าง ก็ให้ที่ดินตั้งพรรครวมไทยสร้างชาติ ความจริงเป็นอย่างนี้" นายณัฐวุฒิ กล่าว
ทั้งนี้ ส่วนตัวอยากให้ พล.อ.ประยุทธ์ ทบทวนตัวเอง ใช้เวลาพิจารณาตนเองซะ ทำตัวให้เรียบร้อย ความจริงก็คือความจริง อย่าไปบิดเบือน เอาดีเข้าตัว เอาชั่วให้คนอื่น ทั้งที่หลักฐาน คามือ คาพรรค คาบัญชี คาที่ดิน คาตึก คาอาคารอยู่
ด้าน "น.ส.แพทองธาร ชินวัตร" หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย กล่าวว่า มันชัดเจนอยู่แล้ว ว่าเราไม่ได้เกี่ยวด้วย แต่ว่าท่านจะพูด ท่านคงต้องพูดอะไรสักอย่าง