“อุ๊งอิ๊งค์”เมิน ส.ว.วิจารณ์อ่อนประสบการณ์ ลั่นสู้เต็มที่พร้อมเป็นนายกฯ

17 กุมภาพันธ์ 2566 น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่ ส.ว.บางคน ที่ออกมาตั้งธงคัดค้านแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีจากพรรคเพื่อไทยว่าขอบคุณมากๆที่ช่วยพรรคเพื่อไทยหาเสียง และทำให้ประชาชนได้ประจักษ์ว่า ทำไมต้องมีการพูดว่าต้องมีปิดสวิตส์ ส.ว. มีความจำเป็นแค่ไหน 

ส่วนข้อวิพากษ์วิจารณ์ว่าน.ส.แพทองธาร ยังอ่อนประสบการณ์ทางการเมืองนั้น น.ส.แพทองธาร ได้ชี้แจงว่าในช่วงวัยอายุ 36 ปี ในฐานะนักธุรกิจได้เดินทางไปหลายที่และพบว่ามีคนที่เป็นเจ้าของบริษัทแต่อายุน้อยกว่าตน อีกทั้งมากความสามารถกว่าตน ตนไม่ได้รู้สึกว่าดีที่สุด แต่มีทีมที่ดีที่สุด ขณะเดียวกันเห็นว่าการวิพากษ์วิจารณ์เรื่องอายุเป็นเรื่องที่เชย ไม่มีวุฒิภาวะ และเป็นความคิดเห็นที่ไม่สร้างสรรค์ พร้อมย้อนกลับให้ดูผู้นำทั่วโลกว่าอายุเท่าไหร่ ขออย่าวิพากษ์วิจารณ์เรื่องอายุอีกเลย  พร้อมยืนยันว่ากลยุทธ์ในการหาเสียงของเพื่อไทยคือนโยบายที่จะต้องทำให้ดีและครบ

หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย แสดงความพร้อมหากประชาชนไว้วางใจเลือกให้เป็นนายกรัฐมนตรีก็พร้อมทำหน้าที่ ยืนยันสู้เต็มที่ ด้วยมีทีมสนับสนุน และพรรคเพื่อไทย รวมถึงการสนับสนุนของประชาชนที่มีความมั่นใจ

เมื่อถามย้ำว่าพร้อมเป็นนายกฯหรือไม่ น.ส.แพทองธาร บอกว่ารู้สึกเขินเพราะยังไม่มีการเสนอชื่ออย่างเป็นทางการ 

เมื่อถามว่าการที่ ส.ว.ประกาศไม่เลือกน.ส.แพทองธารเป็นนายกฯ จะยิ่งทำให้มั่นใจว่าจะต้องตอกย้ำให้ ส.ว.เห็นว่าพร้อมเป็นนายกรัฐมนตรีหรือไม่ นางสาวแพทองธาร ระบุว่ามั่นใจในประชาชน แต่ไม่ได้มั่นใจในตัวเองมากขึ้นว่าฉันจะต้องเป็นนายกฯ ไม่ขอท้าทายดราม่าทางการเมือง แต่ขอท้าทายด้วยเสียงและสิทธิของประชาชน พร้อมย้ำว่าเคยให้สัมภาษณ์มาหลายรอบว่าไม่จำเป็นต้องเลือกตนเป็นนายกฯ และขณะนี้รายชื่อแคนดิเดตของพรรคเพื่อไทยก็ยังไม่มีข้อสรุป แต่เรียกร้องให้เคารพเสียงของประชาชน อย่าทำให้เสียงของประชาชนที่คุณบอกว่ารักประชาชน แต่เคารพเสียงของเขาหรือไม่ 

ส่วนกรณีที่การเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมาเพื่อไทยได้คะแนนเสียงข้างมากแต่ไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้นั้น จะต้องจับมือกับพรรคอื่นในการเลือกตั้งครั้งนี้หรือไม่ นางสาวแพทองธาร ย้ำว่าต้องเดินหน้ายุทธศาสตร์เพื่อไทยแลนด์สไลด์ ที่ต้องเป็นพรรคเดียวในการจัดตั้งรัฐบาล เพื่อผลักดันทุกนโยบายให้เป็นจริง รวมถึงการปิดสวิตส์ ส.ว. 

ขณะที่นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย กล่าวเสริมเรื่องส.ว.คัดค้านแคนดิเดตนายกพรรคเพื่อไทยว่ามีสัญญาณที่ชัดเจนจากสนามเลือกตั้ง ว่า ส.ว.250 คน เตรียมสกัดขัดขวางเจตนารมณ์ของประชนชน โดยไม่สนใจแม้ว่ามีพรรคการเมืองหนึ่งได้เสียงเกินครึ่งในสภา ชี้ว่านี่คือเหตุผลจำเป็นที่พรรคเพื่อไทยประกาศเป้าหมายแลนด์สไลด์ เพราะรู้ดีว่าคู่แข่งที่แท้จริงไม่ใช่พรรคการเมือง แต่เป็น 250 ส.ว. ซึ่งไม่เพียงแค่สกัดพรรคเพื่อไทยเท่านั้น 

แต่หากดันนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้อีกครั้ง เชื่อว่าขั้นตอนต่อไป คือการแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อปลดล็อกวาระดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี 8 ปี เพื่อให้เป็นนายกรัฐมนตรีกันยาวๆ ซึ่งหากประชาชนต้องการความเปลี่ยนแปลง มีพรรคเพื่อไทยเท่านั้นที่ทำได้ 

“กรณีวิพากษ์วิจารณ์ประสบการณ์คุณแพทองธารนั้น ผมว่า ส.ว.ควาพิจารณาตัวเองดีๆ หลายคนเข้าไปนั่งในสภาเป็นสิบปีแต่ไม่มีประสบการณ์เลือกตั้ง แต่คุณแพทองธารมาตามกติกา เข้าตามตรอก ออกตามประตู ถ้าประชาชนเลือกหรือไม่ก็ขอให้ ส.ว.เคารพการตัดสินใจของประชาชน” นายณัฐวุฒิ กล่าว