17 กุมภาพันธ์ 2566 พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แจงกรณีวันยุบสภาฯ ที่มีในใจ ใช่ช่วงวันเกิดของนายกรัฐมนตรีหรือไม่ โดย พลเอกประยุทธ์ย้อนถามกลับผู้สื่อข่าวว่า แล้วคุณเกิดเมื่อไรนะ ผู้สื่อข่าวจึงตอบกลับว่า 16 ธันวาคม แต่ไม่ทันยุบสภาฯ นายกรัฐมนตรี ตอบว่า "ไม่ทันก็เอาไว้คราวหน้าแล้วกัน"
กล่าวภายหลังการเป็นประธาน วันสถาปนากองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร หรือ กอ.รมน.ครบรอบ 15 ปี ถึงกรณีที่นางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ออกมาเรียกร้องให้ยุบ กอ.รมน. โดยนายกรัฐมนตรีย้อนถามว่าทราบหรือไม่ถึงภารกิจของ กอ.รมน. อยากให้ติดตามว่าทุกอย่างมีความเป็นมา เหตุใดจึงต้องมีและมีมาตั้งแต่เมื่อไร
โดยกอ.รมน.เป็นหน่วยงานที่ใช้ในการบูรณาการความมั่นคงภายใน หลายท่านอาจจะมองว่ามีทหาร ตำรวจ และหน่วยงานราชการอยู่แล้ว เหตุใดจึงมีหน่วยงานเหล่านี้อีก ซึ่งเป็นการบูรณาการกัน ในการแก้ไขปัญหาหลายปัญหา ที่มีความทับซ้อนกัน ซึ่งตามปกติมีกฎหมายมีหน่วยงานเฉพาะดูแลอยู่ แต่เมื่อใดปัญหามีความเชื่อมโยงกัน ต้องมีกฎหมาย หน่วยงานที่จะต้องทำงานร่วมกันในกรณีที่เกินกำลัง เกินขีดความสามารถของหน่วยงานปกติ
เหมือนในอดีตที่มีคอมมิวนิสต์ วันนี้แม้จะไม่มีแล้ว แต่ก็มีสถานการณ์อื่นเข้ามา เช่นปัญหาความมั่นคงภายใน ปัญหายาเสพติด และมีความเชื่อมโยงกับต่างประเทศด้วย กอ.รมน.จึงเป็นหน่วยงานเสริมหน่วยงานอื่นในการปรึกษาหารือพูดคุย และหากสถานการณ์มีความรุนแรง ก็มีพ.ร.บ.ความมั่นคง ทำให้สามารถกำกับดูแลได้ดียิ่งขึ้น เช่นเดียวกับในต่างประเทศก็มี National Gard ซึ่งเมื่อสถานการณ์ปกติเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ดูแลไป ซึ่งหากในต่างประเทศ มีความรุนแรงเกิดขึ้นก็จะใช้หน่วยงานนี้ ซึ่งมีชุดแต่งกายแตกต่างจากหน่วยงานอื่น กอ.รมน.ของไทย ไม่ได้มุ่งหมายถึงขั้นนั้น แต่ก็ต้องมีการเตรียมความพร้อมไว้
"ไม่ใช่มีไว้เพื่อต้องการมีอำนาจ เหนือโน่นเหนือนี่ ไม่ต้องหรอกครับ อำนาจทั้งหมด มันอยู่ที่พวกเรา ถ้าพวกเราอยู่ในกรอบกติกาของกฎหมาย ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ก็ไม่จำเป็นต้องใช้อะไรก็ได้ วันหน้าไม่ต้องมีเลยก็ได้ มันเป็นไปได้ไหมเล่า"
ทั้งนี้นายกรัฐมนตรี ยังระบุอีกว่า สถานการณ์ปัจจุบันภัยคุกคาม รูปแบบใหม่เข้ามาจำนวนมาก ทั้งภัยไซเบอร์ และภัยจากต่างประเทศ กอ.รมนเป็นเพียงช่องทางหนึ่ง ในการแก้ไขปัญหา เหมือนในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่ต้องมีกฎหมายคุ้มครองดูแลเจ้าหน้าที่
โดยนายกรัฐมนตรี เน้นย้ำว่า การดำเนินการใดๆ จะต้องมีความสุจริต อาจฟังดูง่าย คนไทยทุกคน ต้องเข้าใจว่าเราจะร่วมมือกันได้อย่างไร หลายอย่างเป็นปัญหายาวนาน ต้องช่วยแก้ไข
เมื่อถามว่าหลายคนมีข้อกังวลว่า อาจจะใช้กอ.รมน. ในทางการเมือง นายกรัฐมนตรี ตอบกลับทันทีว่า ตนก็ชี้แจงอยู่นี่ไงว่ากอ.รมน.ทำอะไรบ้าง ไปจับกุมใครหรือเปล่า
เมื่อถามย้ำว่าในระดับพื้นที่มีการใช้กอ.รมน.ในการเผยแพร่ เรื่องการเมืองกับชาวบ้าน นายกรัฐมนตรี ย้อนถามว่า"นั่นสิ แล้วมันผิดไหมเล่า ตอบมาสิ เขาทำผิดหรือไม่ หากทำผิดก็ต้องดำเนินคดี ประเทศนี้ โลกนี้อยู่ด้วยกฎหมาย ไม่ใช่ทำอะไรก็ได้ ละเมิดสิทธิมนุษยชนก็ไม่ใช่มั้ง และจะย้อนถามสื่อมวลชนอีกว่า คุณต้องการให้ประเทศชาติวุ่นวาย สับสนอลหม่านหรือเปล่าล่ะ ถ้าเช่นนั้นก็ไม่ต้องมีกฎหมาย บอกมาเลยว่านายกฯไม่ต้องทำหรอกครับ จะได้ไม่ต้องทำ"
เมื่อสื่อข่าวถามย้ำว่า ในมิติด้านความมั่นคงอาจจะดูครอบคลุมเยอะ นายกรัฐมนตรี เบือนหน้าหนีและเดินออกจากวงสัมภาษณ์ในทันที
โดยระหว่างที่นายกรัฐมนตรีอยู่บนรถได้ย้ำกับผู้สื่อข่าวว่า เริ่มต้นวันดีๆหน่อย ก่อนที่จะโบกมือให้ผู้สื่อข่าวและเดินทางกลับในทันที
ขณะที่พลเอกณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก กล่าวถึงการอภิปรายทั่วไป ที่มีการพาดพิงถึงกองทัพหลายเรื่อง โดยเฉพาะเรื่องการปฏิรูปกองทัพ จากเหตุการณ์ยิงโคราช ซึ่งพลเอกณรงค์พันธ์ ตอบอย่างอารมณ์ดี ว่า ไม่รู้ ไม่ทราบ ค่อยพูดคุยกันวันจันทร์ เนื่องจากมีกำหนดการลงพื้นที่จังหวัดเพชรบูรณ์