svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

"ชลน่าน"ตั้งคำถามเหตุใดขึ้นค่าตอบแทนอบต.ใกล้เลือกตั้ง 66

09 กุมภาพันธ์ 2566
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

"ชลน่าน ศรีแก้ว"ยินดีหาก อบต.ได้ปรับขึ้นค่าตอบแทน ชี้เป็นสิ่งที่ควรได้ พร้อมตั้งข้อสังเกตเลขานายกฯ เหตุใจรีบอนุมัติดำเนินการช่วงใกล้เลือกตั้ง 66 ผิดกฎเหล็ก 180 วันหรือไม่ 

8 กุมภาพันธ์ 2566 "นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว" ส.ส.น่าน และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า การที่สมาคม อบต.แห่งประเทศไทย เข้าพบ "นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค" เลขาธิการนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ เพื่อติดตามความคืบหน้าการขอปรับขึ้นค่าตอบแทนของ อบต. ซึ่งกระทรวงมหาดไทยเตรียมอนุมัติเห็นชอบ จะเป็นการหาเสียงหรือไม่นั้น ส่วนตัวขอแสดงความยินดีกับท้องถิ่นที่มีโอกาสได้รับการปรับขึ้นค่าตอบแทน ซึ่งพรรคเพื่อไทยไม่ต้องการปิดกั้นหรือขวางกั้นในสิ่งที่ท้องถิ่นพึงมี หรือพึงได้

 

นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย

 

"เรายินดีส่งเสริม เพราะพรรคเพื่อไทยก็มีนโยบายกระจายรายได้ กระจายงบประมาณไปยังท้องถิ่นอยู่แล้ว" นพ.ชลน่าน กล่าว   

ทั้งนี้ ส่วนตัวขอตั้งข้อสังเกตว่าเหตุใด ข้อเสนอการขอปรับขึ้นค่าตอบแทนดังกล่าวที่ถูกเรียกร้องมานานหลายปี ต้องรีบอนุมัติในนามของเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ที่นำเสนอต่อนายกรัฐมนตรี ทั้งที่เป็นอำนาจหน้าที่ของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ซึ่งมีระเบียบรองรับอยู่แล้ว และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยก็ขานรับ

 

อย่างไรก็ตาม แต่จะเกี่ยวเนื่องกับการหาเสียงหรือการเมืองหรือไม่ ขอย้ำว่าการใช้อำนาจหน้าที่ในการปฎิบัติหน้าที่ราชการในช่วงที่มีกฎหมายประกาศชัดเจน 180 วัน ก่อนหมดวาระของอายุสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งในช่วงนี้จะเหมือนกับช่วงเวลาของการมีพระราชกฤษฎีกาการเลือกตั้ง มีข้อที่พึงระวังในการหาเสียงเลือกตั้ง หมายความว่าแม้หาเสียงในช่วงเวลานี้ได้ แต่มีข้อห้าม เช่น ห้ามให้ ห้ามเสนอให้ ห้ามใช้ทรัพยากรของรัฐ ดำเนินการเข้าข่ายหาเสียงเลือกตั้ง รวมไปถึงห้ามใช้เวลา ห้ามใช้เครื่องมือ ห้ามใช้อุปกรณ์หรือตำแหน่งหน้าที่ หรืองบประมาณ ซึ่งต้องดูว่าการกระทำดังกล่าวเอื้อต่อการได้มาซึ่งคะแนนความนิยมหรือไม่ 

ทั้งนี้ ส่วนตัวเชื่อว่าหากมีการปรับขึ้นค่าตอบแทนของ อบต.ในรัฐบาลนี้ จะใช้เม็ดเงินงบประมาณจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเองในหมวดหมู่ค่าจ้าง ค่าตอบแทนขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นแต่ละระดับเอง ไม่ใช่เม็ดเงินของรัฐบาลที่อุดหนุนให้ โดยต้องไปดูว่าแม้จะมีระเบียบรองรับ แต่ท้องถิ่นสามารถจ่ายได้หรือไม่ โดยเฉพาะงบประมาณปี 2566 ที่สภาผู้แทนราษฏรอนุมัติผ่านแล้ว มีการระบุเม็ดเงินชัดเจน ท้องถิ่นแต่ละแห่งได้รับงบประมาณไปเท่าไหร่ งบประมาณมาจากส่วนไหน ซึ่งมีการระบุชัดของแหล่งที่มาของเม็ดเงินนั้น การปรับขึ้นค่าตอบแทนของ อบต.ในอัตราดังกล่าว ต้องไปดูศักยภาพในการจ่ายและรายละเอียดของแต่ละท้องถิ่นตามข้อเท็จจริง รวมทั้งระเบียบและข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องด้วย  

 

"แต่หากจะมีบุคคลไปร้องให้ตรวจสอบ จะเป็นการตรวจสอบการใช้อำนาจหน้าที่รัฐของเจ้าหน้าที่รัฐว่าทำโดยชอบหรือไม่ ฝากไปถึงผู้มีอำนาจ โดยเฉพาะเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ที่มีฐานะหัวหน้าพรรคการเมือง นายกรัฐมนตรีเองก็มีฐานะเป็นสมาชิกพรรคการเมือง เป็นว่าที่แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคการเมือง การกระทำอะไรที่เป็นการใช้อำนาจและหน้าที่ของตัวเอง แม้จะไม่เกี่ยวกับตัวเอง แต่มีเจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้องกระทำให้ ล้วนไม่เหมาะสม เช่น ป้ายใหญ่ๆ ที่มีรูปของหัวหน้าพรรคการเมือง รูปของบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการเมืองปรากฏอยู่ แล้วอ้างว่าเป็นนโยบาย  มีการขึ้นป้ายหัวหน้าพรรคการเมืองเอง อาจจะไม่สามารถถูกกล่าวหาได้ว่าเขาได้กระทำการ  แต่ส่วนราชการประจำที่เกี่ยวข้อง ต้องไปดูข้อกฎหมายว่าการกระทำลักษณะนี้เหมาะสมหรือไม่ เข้าข่ายสุ่มเสี่ยงต่อเจตนาให้สำหรับใครบางคน หรือพรรคการเมืองบางพรรคหรือไม่ มีการใช้งบประมาณของรัฐที่มีลักษณะบ่งชี้ว่า  มีส่วนได้เสียหรือได้มาซึ่งคะแนนนิยมหรือไม่ หากทำได้อาจเข้าข่ายการใช้หน้าที่ และอำนาจหน้าที่มิชอบได้" นพ.ชลน่าน กล่าว

logoline