2 กุมภาพันธ์ 2566 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงคำสั่งโยกย้าย นพ.สุภัทร ฮาสุวรรณกิจ ผอ.รพ.จะนะ จ.สงขลา และประธานชมรมแพทย์ชนบท ไปดำรงตำแหน่ง ผอ.รพ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา ว่า เท่าที่ทราบ ท่านจะต้องไปเป็น ผอ.รพ.สะบ้าย้อย ตั้งแต่ 6 กุมภาพันธ์เป็นต้นไป ส่วนตัวก็ดูจากข่าว ไม่ทราบรายละเอียด เพราะเป็นเรื่องการบริหารจัดการในสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข ไม่ได้มีอะไรเป็นเรื่องแปลกใหม่ หรือผิดปกติ ทุกอย่างดำเนินการไปได้ด้วยดี
ส่วนกรณีนี้เป็นการทำร้ายแพทย์ชนบทหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ใครจะกล้าทำร้าย อย่าว่า แต่แพทย์ชนบทเลย แพทย์คนไหน พยาบาลคนไหน อสม.คนไหน ก็ไม่มีใครกล้าทำร้าย ต้องยกย่อง
ส่วนที่พรรคก้าวไกล ใช้เรื่องนี้มาโจมตีทางการเมืองนั้น นายอนุทิน กล่าวว่า เขาคงมีความผูกพัน ความสัมพันธ์ ทางการเมืองกันอยู่ ตนก็ไม่ทราบเหมือนกัน แต่เคยเห็นรูปที่หมอสุภัทร ได้แสดงสัญลักษณ์อะไรต่างๆที่เห็นถึงความเชื่อมโยงกัน ซึ่งตนก็ไม่ก้าวก่าย ถ้าเวลาอยู่นอกเวลาราชการ ก็ถือว่า เป็นประชาชนคนหนึ่ง ที่จะแสดงจุดยืนอย่างไรก็เป็นสิทธิ์ เราต้องให้ความเคารพด้วยซ้ำ
เมื่อถามว่า ยืนยันใช่หรือไม่ว่า ไม่มีส่วนในการโยกย้ายหมอสุภัทร นายอนุทิน กล่าวว่า “ตัวผมยืนยัน นั่งยัน นอนยัน ว่า ไม่เกี่ยวข้อง เป็นการจัดการในสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข อยู่นอกเหนือขอบข่ายการรับผิดชอบของรัฐมนตรี ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เป็นหัวหน้าส่วนราชการ ตรงนี้ก็ไม่ได้โบ้ยอะไร แต่ละระดับชั้นของการทำงาน ก็มีความชัดเจน ว่าอำนาจหน้าที่ของแต่ละคนเป็นอย่างไร”
ถามต่อว่า แต่เรื่องนี้ดูเหมือนบานปลาย เพราะชมรมแพทย์ชนบท ก็ได้มีการหยิบเรื่องป้ายประชาสัมพันธ์นโยบายดูแลผู้สูงอายุ ซึ่งมีรูปนายอนุทิน เป็นพรีเซ็นเตอร์ ติดอยู่หน้าโรงพยาบาลทั่วประเทศ เป็นการหวังผลทางการเมืองหรือไม่ นายอนุทิน ชี้แจงว่า มันเป็นคนละเรื่องกัน เป็นความพยายามที่จะหาเรื่องดิสเครดิตรัฐมนตรี และเป็นความพยายามที่จะให้รัฐมนตรีลงมายุ่ง ซึ่งมันยุ่งเกี่ยวไม่ได้ ในทางกฎหมาย ไม่มีช่องทางที่จะไปยุ่งเกี่ยวได้เลย อาจจะเป็นการสร้างให้เกิดความสนใจ หรือเรียกร้องความสนใจ
เพื่อให้รัฐมนตรีให้นโยบายกับทางปลัดกระทรวง ซึ่งรัฐมนตรีไม่เคยทำอยู่แล้ว เพราะการทำงานขณะนี้ ถือว่า ครบ 4 ปีแล้ว ในฐานะรัฐมนตรีสาธารณสุข ตนให้เกียรติข้าราชการทุกฝ่ายอยู่เสมอ ไม่เคยก้าวล่วง ไม่เคยก้าวก่าย ส่วนใหญ่ก็เป็นการนำเสนอโดยข้าราชการ ขณะที่รัฐมนตรีก็เป็นเรื่องของการมอบนโยบายเรื่องสุขภาพที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชน นี่คือ ภาษาที่รัฐมนตรีพูดกับปลัดกระทรวง พูดอยู่แค่นี้ "อยากเห็นคนไทยได้รับวัคซีนทุกคน" ส่วนจะทำอย่างไรเป็นเรื่องของปลัดกระทรวง ที่จะไปบริหารจัดการ และนำเสนอรัฐมนตรี เพื่อให้การสนับสนุน โดยการนำเสนอเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีตามสมควร นี่คือหน้าที่ของตน ในการทำงานในกระทรวงสาธารณสุข