1 กุมภาพันธ์ 2566 ที่ ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลมีคำสั่งอนุญาตให้ 5 จำเลย ในคดีการชุมนุมฯ ถอดอุปกรณ์ กำไล EM หลังเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา น.ส.ชลธิชา หรือ "ลูกเกด" แจ้งเร็ว จำเลยคดีหมายเลขดำ อ.595/2565 ,
นายภาณุพงศ์ หรือ "ไมค์" จาดนอก จำเลยที่ 6 คดีหมายเลขดำ อ.287,อ.533/2564 และจำเลยที่ 4 คดีหมายเลขดำ อ.2887/2564 และจำเลยที่ 3 คดีหมายเลขดำ อ.2888/2564 , นายจตุภัทร์ หรือ "ไผ่" จตุภัทรักษา จำเลยคดีหมายเลขดำ อ.2045/2564 และจำเลยคดีหมายเลขดำ อ.2608/2564 และจำเลยที่ 7 คดีหมายเลขดำ อ.287,อ.533/2564 และจำเลยคดีหมายเลขดำ อ.1032/2565 , นายเวหา แสนชนชนะศึก จำเลยคดีหมายเลขดำ อ.2697/2564 และคดีหมายเลขดำ อ.1326/2565 , นายนวพล ต้นงาม หรือ "ไดโน่" จำเลยคดีหมายเลขดำ อ.2953/2565 ได้ยื่นคำร้องต่อศาลอาญา ขอถอดอุปกรณ์ กำไล EM ซึ่งเป็น 1 ในเงื่อนไขปล่อยชั่วคราว
โดยจำเลยได้ระบุถึงเหตุผล และความจำเป็นของจำเลยแต่ละราย แล้วจึงขอให้ศาลพิจารณาอนุญาตด้วย โดยศาลอาญาพิจารณาแล้ว มีคำสั่งอนุญาตให้ปลดอุปกรณ์ กำไล EM ของจำเลยดังกล่าว พร้อมให้แจ้งศูนย์ EM ทราบด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับการถอดกำไล EM ของ 5 แกนนำผู้ชุมนุมครั้งนี้ เกิดขึ้นหลังจากที่ น.ส.สาวิกา ไชยเดช หรือ "พิ้งค์กี้" จำเลยที่ 7 คดีฉ้อโกงแชร์ FOREX-3D ได้ยื่นคำร้องต่อศาลอาญาให้มีคำสั่งอนุญาตปลดกำไล EM เนื่องจากความสะดวกในการรับงานแสดงเพื่อหารายได้ เพราะการติดกำไล EM จะสร้างปัญหาในการแสดงและการเดินทาง
กระทั่งศาลพิจารณา แล้วมีคำสั่งอนุญาตปลด กำไล EM ตามคำขอ ซึ่งกรณีดังกล่าวได้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์ในสังคมอย่างกว้างขวาง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
ทำให้ทางบรรดาแกนนำผู้ชุมนุม ที่ได้รับการประกันตัว โดยมีเงื่อนไขต้องติด กำไล EM ประกาศที่จะยื่นคำร้องต่อศาลอาญา เพื่อขอถอดอุปกรณ์ กำไล EM เช่นกัน โดยให้เหตุผลว่า ต้องขอศาลถอดกำไล EM ได้เช่นกัน เพราะต้องทำงาน ต้องเดินทางเหมือนกัน เพียงต่างกันแค่ความคิด