“ชัยวุฒิ” ลงพื้นที่ปทุม! มั่นใจปักธงกวาดเก้าอี้ ส.ส. “พปชร.” ทุกเขต

28 มกราคม 2566 นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) ลงพื้นที่ปิ่นฟ้าฟาร์ม จ.ปทุมธานี ร่วมกับว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.จังหวัดปทุมธานี พรรคพลังประชารัฐ  ประกอบด้วย นายเสวก ประเสริฐสุข เขต 1 , นายนพดล ลัดดาแย้ม เขต 2 , นายยุทธวัฒน์ หาญเกียรติกล้า เขต 3 , นายเกียรติศักดิ์ ส่องแสง , เขต 4 นายปรีชา ชื่นชนกพิบูล เขต 5 , นายวิรัช พยุงวงษ์ เขต 6 และนางสาวกฤษณา วงศ์คำ เขต 7 

นายชัยวุฒิ  กล่าวว่า ปิ่นฟ้าฟาร์ม เป็นโครงการสมาร์ทฟาร์มที่สนับสนุนโดย สํานักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัลหรือดีป้าของกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เป็นโครงการที่ให้เงินสนับสนุนส่วนหนึ่งร่วมกับวิสาหกิจชุมชนหรือกลุ่มเกษตรกร เป็นเรื่องที่การทำสมาร์ทฟาร์ม นําเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ในการทําการเกษตร  ซึ่งที่นี้มีความพร้อมเรื่องโดรนถือว่าในพื้นที่เกษตร ทํานาจะต้องใช้การฉีดปุ๋ย ฉีดสารเคมีต่าง ๆ 

ซึ่งจะใช้โดรนบินฉีดพ่นยา พบว่า มีประสิทธิภาพ ประหยัดค่าใช้จ่าย ได้ดีมาก ซึ่งทางกระทรวงดีอีเอสก็ส่งเสริมโครงการโดรนที่จะให้เกษตรกรส่งเสริมให้ใช้  เรียกว่าโครงการคนละครึ่ง ก็คือ เกษตรกรออกเงินมาครึ่งหนึ่ง  ทางกระทรวงดีอีเอสก็จะมีเงินจากกองทุนดีอีให้มาอีกครึ่งหนึ่ง เพื่อให้ประชากรได้ซื้อในราคาที่ลดครึ่งหนึ่ง จะได้เอาไปใช้พัฒนาการทําการเกษตรให้ทันสมัยมีประสิทธิภาพมากขึ้น 

ส่วนปิ่นฟ้าฟาร์มนี้เป็นฟาร์มต้นแบบของจังหวัดปทุมธานี  ก็อยากจะเชิญชวนทุกคนมาเที่ยว มาศึกษาดูงานที่ปิ่นฟ้าฟาร์ม ต้นแบบของสมาร์ทฟาร์ม เป็นการทําการเกษตรเชิงท่องเที่ยวด้วย  ที่ผมว่าทุกคนมาก็จะประทับใจ

ส่วนวันนี้มาลงพื้นที่ จ.ปทุมธานี ก็เป็นพื้นที่ที่ทางพรรคพลังประชารัฐมุ่งหวังที่จะได้ ส.ส.ทุกเขต แล้วก็ส่งผู้สมัครส.ส.ครบทุกเขต เชื่อว่าทีมปทุมธานีที่เราลงเลือกตั้งส.ส.เป็นคนที่มีความพร้อม เป็นทั้งนักการเมืองท้องถิ่น นักวิชาการต้องผสมผสานกัน ซึ่งเราเชื่อว่า ผู้สมัครทุกคนจะสามารถคว้าชัยชนะในการเลือกตั้งได้ โดยเฉพาะหัวหน้าทีมหรือพี่ใหญ่ก็เป็นอดีตรองนายก อบจ. ก็มีทีม ส.จ. มาช่วย 

“ผมคิดว่า ทีมนี้ก็จะทําให้การเมืองท้องถิ่นเข้มแข็งเข้ามาช่วยกัน  แล้วก็มีกลุ่มคนต่างต่างทุกภาคส่วนทุกกลุ่ม แล้วก็ก้าวข้ามความขัดแย้งไม่มีว่า แบ่งสี แบ่งเสื้อ แบ่งฝ่ายนะ เราคนไทยด้วยกัน  คนปทุมธานีด้วยกันมาช่วยกันพัฒนา จ.ปทุมธานีด้วยกัน” นายชัยวุฒิ  กล่าว 

ส่วนการย้ายกลับมาพรรคพลังประชารัฐของ นายอุตตม สาวนายน และนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ นั้น นายชัยวุฒิ กล่าวว่า ถ้าทั้ง 2 ท่านกลับมาที่พรรคพลังประชารัฐ ทางพรรคมีนโยบายก้าวข้ามความขัดแย้ง ก็จะรวมกับทุกพรรคการเมืองทุกกลุ่มการเมืองที่อยากจะมาทํางานร่วม เพราะวันนี้รัฐธรรมนูญฉบับใหม่และวิธีการเลือกตั้งพรรคเล็ก พรรคขนาดกลางก็จะทํางานยาก ก็ต้องมารวมกันที่พรรคขนาดใหญ่ 

“วันนี้พรรคขนาดใหญ่ที่เป็นหลักในการเมืองไทยก็มีอยู่ไม่กี่พรรค หนึ่งในนั้นก็คือพรรคพลังประชารัฐแน่นอน ซึ่งเป็นที่รู้จักของประชาชน แล้วก็เป็นแกนนํารัฐบาลอยู่ในปัจจุบัน เพราะฉะนั้นทุกคนก็อยากจะมาร่วมงานกับพรรคพลังประชารัฐ โดยเฉพาะนายอุตตม ซึ่งก็เคยทํางานร่วมกันในพรรค ตนคิดว่าพลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณหัวหน้าพรรค ก็คงจะได้พูดคุยกัน อีกทั้งเป็นสิ่งที่ดีที่มีคนมาช่วยกันทํางาน มารวมกัน และที่สําคัญแสดงให้เห็นว่าพรรคพลังประชารัฐเป็นที่นิยม มีความพร้อมที่จะทํางานให้ประชาชน” นาย ชัยวุฒิ กล่าว 

ด้าน นายเสวก ประเสริฐสุข ว่าที่ผู้สมัคร เชต 1 ปุมธานี กล่าวว่า พวกเราก็อยู่พรรคเพื่อไทยมานาน แต่เมื่อส่งส.ส.ลงแล้ว ทางผู้จัด ส.ส.ปัจจุบันไม่เอา  ก็ต้องหาที่อยู่ให้กับลูกบ้านลูกน้องตัวเอง ตนก็สนิทกับนายชัยวุฒิ มานาน นับถือกันอยู่ จึงมาหา และนายชัยวุฒิ ก็ยินดีรับ พวกเราเลยมาทางนี้

โดยพรรคพลังประชารัฐ ก็ดูมีสิ่งดีๆ เมื่อเข้าไปแล้วทุกคนให้ความเป็นกันเอง และตนก็เลยตั้งใจจะเล่นการเมือง ทําปทุมธานีทั้งหมดให้มารวมกัน ตนเล่นการเมืองมา 20 ปี นายกฯ ทุกคนกับตนสนิทกันหมด ก็อยากให้ จ.ปทุมธานี จับมือกัน เดินมาทีมงานพลังประชารัฐ โดยการนําของนายกฯ ใหญ่คนนี้ จะทําให้ชาวปทุมธานีรักสามัคคีกัน แล้วก็เจริญได้