svasdssvasds
เนชั่นทีวี

เจาะประเด็นร้อน

"เลือกตั้ง66" เดือด "จตุพร" ได้เวลาเรียกแขก กรีดรอยแผล"ทักษิณ"-"ประยุทธ์"

22 มกราคม 2566
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

ท่าที"จตุพร พรหมพันธุ์" ด้วยการโยนระเบิดลงใจกลางสมรภูมิ"เลือกตั้ง66" เปิดแผลลึกของ"ทักษิณ"-"ประยุทธ์" ชนิดไม่ไว้หน้ากันอีกต่อไป ล้วนมีนัยสำคัญทางการเมืองอย่างยิ่ง ติดตามใน"เจาะประเด็นร้อน" โดย "อสนีบาต"

ประหนึ่งโยนระเบิดลูกใหญ่ ลงใจกลางสมรภูมิ"เลือกตั้ง66" สำหรับ "จตุพร  พรหมพันธุ์" แกนนำคณะหลอมรวมประชาชน  ด้วยการให้ความเห็นทิศทางการเมืองไปถึง"คนเคยรัก"และ"คนที่ไม่คิดจะรัก"อย่างมีนัยสำคัญ

 

ความพยายามเปิดปมฉาวของ "บิ๊กเนม" ทั้ง"พล.อ.ประยุทธ์  จันทร์โอชา" นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ซึ่งตอนนี้กระโดดลงสนามการเมืองเต็มตัวในสังกัดสมาชิก"พรรครวมไทยสร้างชาติ" และ "ทักษิณ ชินวัตร" อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งปฏิเสธไม่ได้ว่า คอยส่งขวัญกำลังใจให้ "พรรคเพื่อไทย" ผ่านรายการไลฟ์สดทางเฟซบุ๊กเพจ ประชาชนคนไทย (ปท.)  เริ่มสร้างบรรยากาศคุกรุ่นขึ้นตามลำดับ

 

เริ่มตั้งแต่ เมื่อวันที่ 20 มกราคม หากใครติดตาม "จตุพร พรหมพันธุ์" แกนนำหลอมรวมประชาชน ออกรายการไลฟ์สดทางเฟซบุ๊กเพจ ประชาชนคนไทย (ปท.) ตอน "การเมืองสาละวันเตี้ยลง"  จตุพร พยายามสื่อความถึงจุดยืนที่ต้องการให้สังคมเห็นว่า เขาไม่ได้อยู่ขั้วใดขั้วหนึ่ง

แฟ้มภาพ  จตุพร พรหมพันธุ์  ในชุดจิตอาสา  ในโครงการจิตอาสา “เราทำความ ดี ด้วยหัวใจ”

 

"ผมจึงไม่มีเหตุผลอะไรเลยที่จะต้องไปย้ายขั้วย้ายข้างไปอีกฝ่ายหนึ่งขณะนี้การวิจารณ์ของพวกผมดูจะหนักไปที่ พล.อ.ประยุทธ์ มากกว่าทักษิณ เพื่อชี้ทางออกให้ประเทศอย่างตรงไปตรงมา" จตุพร กล่าวเมื่อวันที่ 20 มกราคม 2566  

 

อย่างไรก็ตาม แม้"จตุพร" พยายามทำให้สังคมมองว่า เขาวิจารณ์ "พล.อ.ประยุทธ์" แต่จากท่าทีในการนำเสนอ เริ่มมีการปล่อยข้อมูลเชิงลึกของ"พรรคเพื่อไทย" และ"นายใหญ่แห่งดูไบ" ให้ชวนติดตาม  ข้อมูลที่เปิดออกมาไปในท่วงทำนอง เตือนพรรคเพื่อไทย เตือนคนแดนไกล ให้เลิกผูกขาดสัมปทานประชาธิปไตยไว้ฝ่ายเดียว

 

 

"... ผมเห็นว่า เพื่อไทยละเลงประชาธิปไตยจนเละเทะไปหมด การพยายามชูคำขวัญเป็นพรรคนักประชาธิปไตย ใครย้ายออกเป็นผู้ทรยศ เป็นเผด็จการ และใครย้ายเข้ามาพรรคก็เป็นประชาธิปไตย ความจริงถ้าเพื่อไทยไม่แสดงตนในบทบาทนี้ แล้วบอกการย้ายพรรคเป็นเรื่องปกติธรรมดา เราก็วิจารณ์ไม่ได้..."  "จตุพร พรหมพันธุ์"  ประธานนปช. เปิดหัวเชื้อไว้ในรายการอย่างเผ็ดร้อน  

 

\"เลือกตั้ง66\" เดือด \"จตุพร\" ได้เวลาเรียกแขก กรีดรอยแผล\"ทักษิณ\"-\"ประยุทธ์\"

 

ยังมีอีกหลายถ้อยความออกไปทางสับแหลก "เพื่อไทย" โดยเฉพาะการกล่าวถึงคนแดนไกล "ทักษิณ  ชินวัตร" อย่างตรงไปตรงมา ชนิดที่จับความผิดสังเกตท่ามกลางคำถามกำลังเกิดอะไรขึ้น ระหว่าง "จตุพร "  กับ บุคคลที่เคยร่วมรบเคียงบ่าเคียงไหล่ อย่าง"นายใหญ่" ในช่วงเหตุการณ์ เผาเมืองปี 2553  

 

ในที่สุดความปรากฎชัดขึ้นเมื่อวันที่ 21 มกราคม  "จตุพร"ได้ปล่อยข้อมูลอีกดอก พุ่งเป้า "ทักษิณ" ชนิดที่เรียกว่า หมดความอดทนกันอีกต่อไป ผ่านเฟซบุ๊กเพจ ประชาชนคนไทย (ปท.) กับชื่อตอน"สับปลับ"  โดยระบุว่า ฝ่ายทักษิณส่งคนดีลลับ"ประวิตร วงษ์สุวรรณ" ขอใช้บริการนำพากลับบ้าน เพื่อแลกกับร่วมจับมือ พปชร.ตั้งรัฐบาลหลังเลือกตั้ง ดังนั้น สิ่งนี้จึงเป็นเหตุสำคัญต้องออกมาวิพากษ์ เพราะหลอกลวง ไม่ซื่อสัตย์ต่อประชาชน 

 

\"เลือกตั้ง66\" เดือด \"จตุพร\" ได้เวลาเรียกแขก กรีดรอยแผล\"ทักษิณ\"-\"ประยุทธ์\"

 

ข้อมูลที่พรั่งพรูจากปาก"จตุพร" บ่งบอกว่า นี่เป็นฟางเส้นสุดท้าย ทำให้ความสัมพันธ์ "จตุพร" กับคนแดนไกลขาดสะบั้น 

"...ย้อนเหตุการณ์ในวงประชุมที่เกาะฮองกง คุณทักษิณเริ่มต้นปากเสียก่อน ออกมาวิจารณ์ผมไปรับเงินค่าจ้างจาก"บุญเลิศ บูรณุปกรณ์" ผู้สมัคร นายกฯ อบจ.เชียงใหม่ ผมพยายามสงบปากสงบคำมาตลอดตามวิสัยลูกผู้ชาย ถึงที่สุดความเกรงใจพังทลายลง จึงต้องวิพากษ์วิจารณ์กลับอย่างตรงไปตรงมาเหมือนกัน..."  จตุพร กล่าวเสียงเข้มในรายการพร้อมสีหน้าท่าทางขมึงทึง 

 

"ที่ผ่านมา ที่เราคบเพราะคิดว่าเขา (ทักษิณ) ทำถูกต้อง เหมือนที่เคยบอกว่า เสียงปืนนัดแรกจะมา แต่สองแสนนัดในการสลายเสื้อแดงล้มตายเป็นร้อยศพเมื่อปี 2553 ยังไม่มาเลย ดังนั้น การนำในการต่อสู้เรื่องสัจจะและภาวะการเป็นผู้นำเป็นเรื่องใหญ่ ถ้าประชาชนมีสิทธิตายได้ ผู้นำก็ต้องตายได้เช่นกัน เมื่ออยู่ในสนามรบต้องเคารพกัน ให้เกียรติกัน เราก็กล้ำกลืนในวันที่เขาอธิบายพายเรือมาส่ง ไม่ต้องตามมา ขอไปเอง เป็นคำพูดที่ทิ่มแทงคนเสื้อแดง เพียงเพื่อเขาพูดแล้วเชื่อว่าจะได้กลับบ้านจึงยอมทุกอย่าง..."   จตุพร เปิดเผยต่อเนื่อง 

 

การออกมาสาวไส้ "คนแดนไกล" ชนิดที่ไม่ค่อยได้ยินมาก่อนทางสาธารณะแบบนี้  ชวนให้วิเคราะห์ เพราะนับตั้งแต่ "จตุพร" ถูกจองจำในเรือนจำจากคดีทั้งหลายทางการเมือง ซึ่งปฏิเสธไม่ได้ ล้วนเป็นการทำตามอาณัตสัญญาณของคนแดนไกล

 

"แกนนำติดคุก คนสั่งการลอยนวล"

 

ประจักษ์ชัด จากการที่ออกมาซัดนายทักษิณ เรื่องเสียงปืนแตก ก็ยังไม่มานำทัพ นี่ก็เป็นอีกถ้อยความที่จตุพร กล่าวถึง "ทักษิณ" แบบไม่ต้องเกรงใจกันอีกแล้ว หรือแม้แต่การทิ้งคนเสื้อแดง ต้องไปติดคุกติดตาราง  

 

ทักษิณ  ชินวัตร  อดีตนายกฯที่หลบหนีคดีทุจริตอยู่ต่างประเทศ

"วันนี้เพื่อไทยจะชนะเลือกตั้งอีก แม้เลือกตั้งเมื่อปี 2554 เป็นชัยชนะของเสื้อแดงม้วนเดียวจบ แต่ทักษิณ เสนอให้ถอดเสื้อแดง จนถูกชาวบ้านพนมไพร ร้อยเอ็ด โห่ แล้วหลังชนะยังมาใช้บริการของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อีกจึงฉิบหายมาถึงทุกวันนี้  แล้วนี่กำลังคิดใช้บริการ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ อีกใช่หรือไม่ แล้วประชาชนเป็นควายหรืออย่างไร ดังนั้น จึงต้องพูดความจริงกัน ถ้าไม่ซื่อสัตย์ต่อประชาชนแล้ว ก็เสียหาย 8-9 ปี เราจึงไม่ต้องการให้ประชาชนเสียโอกาสกันอีกแล้ว ถ้าคุณชนะแล้วใช้รัฐมนโทแบบเดิมจะอยู่ได้กี่วัน"  จตุพร กล่าวถึงพฤติกรรมทักษิณ ที่วันนั้นใช้คนเสื้อแดง แต่วันนี้กำลังจะดีลกับ พล.อ.ประวิตร   เมื่อวันที่ 21 มกราคม 

 

อย่าลืมว่า สถานะของ"จตุพร"  หลังออกจากเรือนจำ  ต้องถูกตัดสิทธิทางการเมือง สิ่งที่"จตุพร"ทำได้คือการเคลื่อนไหวทางการเมืองในภาคพลเมือง ท่ามกลางสภาพการณ์องค์กรเครือข่ายทางการเมืองที่ถูกย่อยสลายเพราะด้วยข้อจำกัดของการถูกดำเนินคดีความ

 

ภาพของการสวมเสื้อคนละสี และยังต้องสับประยุทธ์เหมือนในอดีต จึงหมดสภาพไปตามธรรมชาติ  จึงไม่แปลกที่ "จตุพร" และแกนนำนปช.บางส่วนที่เหลือจึงหันมาผนึกกำลังกับอีกฟากฝ่ายอย่าง"นิติธร ล้ำเหลือ"  ที่เคยสังกัดพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และ กปปส. มาเป็น "คณะหลอมรวมประชาชน" 

 

เพจ เฟซบุ๊กเพจ ประชาชนคนไทย (ปท.) เป็นอีกเพจที่ คณะหลอมรวมประชาชนใช้เป็นช่องทางสื่อสารทางการเมือง

 

เฟซบุ๊กเพจ ประชาชนคนไทย (ปท.) ก็เป็นอีกเพจที่ คณะหลอมรวมประชาชน ใช้เป็นพื้นที่ในการถ่ายทอดสด รายการที่มีจตุพร พรหมพันธ์ุ  และ "ทนายนกเขา"  นิติธร ล้ำเหลือ สองแกนนำที่เคยต่างสีใช้เป็นแพลทฟอร์มสื่อสารกับประชาชน  หลังจาก สถานีพีซทีวี ซึ่งจตุพร เป็นที่ปรึกษาสถานี ปิดตัวไปไม่นานภายหลังเจ้าตัวออกมาจากเรือนจำ ด้วยประสบภาวะทางเศรษฐกิจหลังวิกฤตการณ์โควิด 

 

"เมื่อไม่มีน้ำเลี้ยงให้การสนับสนุน  สถานะของตนเองทางการเมืองที่ ไม่สามารถมีบทบาทหรือเข้าร่วมทัพเป็นแถวหน้าเหมือนแกนนำนปช.บางรายที่หลงเหลืออยู่ไปช่วย "อุ๊งอิ๊งค์"  แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ในการสู้ศึกเลือกตั้ง 66" 

 

จตุพร  พรหมพันธุ์  กับสถานะที่เปลี่ยนไป หลังจากออกจากเรือนจำ พร้อมกับสถานีโทรทัศน์พีซทีวีปิดตัว

ด้วยเหตุทั้งหลายทั้งปวงเหล่านี้ "จตุพร" จึงต้องพลิกหากลยุทธ์เดินหน้าสู้พร้อมกับนำข้อมูลที่ตนเองเก็บงำไว้ตลอดมาเปิดเผยในช่วงจังหวะเวลาสำคัญ ของศึกชิงเมือง "การเลือกตั้ง 66"  ซึ่งก็ดูเหมือนว่า ในการขับเคลื่อนผ่านช่องทางรายการ  ทำให้มีผู้เข้ามาติดตามเพิ่มขึ้นโดยเฉพาะช่วงสองสามวันจากเปิดข้อมูลเชิงลึกและประกาศจุดยืนของตน 

 

ด้วยสถานะตนเองตอนนี้ ไม่มีอะไรจะเสียอีกต่อไป  อีกทั้งต้องการขัดเกลาภาพลักษณ์ตนเองให้รู้ว่า ณ ตอนนี้เขาเป็น"คณะหลอมรวมประชาชน"  มิใช่เสื้อแดงที่ถูกนายใหญ่ทอดทิ้ง และมิใช่กลุ่มสนับสนุนเผด็จการ  ก็อาจทำให้จตุพรมีพื้นที่ยืนได้ไม่มากก็น้อย  

 

"การเมืองเป็นเรื่องของผลประโยชน์ แต่เมื่อผลประโยชน์ไม่ลงตัว อะไรต่อมิอะไรย่อมพรั่งพรูออกมาได้"    

 

logoline