svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

“บิ๊กตู่” แก้ปัญหาที่ดินทำกิน ไม่ได้หวังให้รัก! แต่ทำเพื่อ ปชช.ฐานะ "นายกฯ"

24 มกราคม 2566
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

“นายกฯ” ฟิตจัด หลังเสร็จ ครม. ลงพื้นที่ต่อ “สุพรรณบุรี” รับฟังแก้ปัญหาชาวบ้านไร้ที่ทำกิน ย้ำ มาแก้ปัญหา ยึดตามกฎหมาย ไม่ได้หวังให้รัก และไม่ได้มาการเมือง เจอชาวบ้านขอหอมแก้ม แก้เขินบอกระวังโควิด ให้ถ่ายรูปแทน

24 มกราคม 2566 ภายหลังประชุมคณะรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมด้วย นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค เลขาธิการนายกรัฐมนตรี / นายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี / เดินทางลงพื้นที่ อ.ด่านช้าง จ.สุพรรณบุรี เพื่อตรวจราชการ โดยนายกรัฐมนตรี ได้เดินทางไปยังพื้นที่ใช้ประโยชน์ ณ แปลงจัดสรร ต.วังยาว ต.ด่านช้าง ตรวจติดตามพื้นที่ทำกิน กรณีชาวบ้านไร้ที่ทำกิน 113 ราย ร้องเรียนการขอจัดที่ดินทำกินล่าช้า 

“บิ๊กตู่” แก้ปัญหาที่ดินทำกิน ไม่ได้หวังให้รัก! แต่ทำเพื่อ ปชช.ฐานะ "นายกฯ"

จากนั้นพบปะกับประชาชนที่ได้รับจัดสรรพื้นที่ใช้ประโยชน์ เมื่อนายกฯ มาถึงได้รับ พวงมาลัย และดอกไม้จากชาวบ้าน  โดยระบุว่า ขอบคุณทุกคน ตนมีกำลังใจมากขึ้น  ซึ่งนายกรัฐมนตรี ได้สอบถามปัญหากับชาวบ้าน  โดยระบุว่า นายกฯ ทำ คทช. มาหลายปีแล้ว จัดตั้งคณะกรรมการแก้ไขปัญหาให้กับผู้มีรายได้น้อย ตั้งแต่รัฐบาลที่แล้วจนถึงรัฐบาลนี้ วันนี้ ( 24 ม.ค.66 ) ถือโอกาสมาดูว่ามีปัญหาอะไรอีกบ้าง ยืนยัน ว่าตนมาในนามนายกฯ รักทุกคนอยู่แล้ว ยืนยันต้องทำให้ถูกต้อง

เดินระหว่างที่นายกรัฐมนตรีพูดกับชาวบ้าน ไมค์ติดๆ ดับๆ จนชาวบ้านแซวว่าไม่ต้องใช้ไมค์ นายกฯ ไฟแรงอยู่แล้ว 

นายกรัฐมนตรี กล่าวต่อว่า ครั้งนี้มาเพื่อให้ความเป็นธรรมกับประชาชน ซึ่งนายกรัฐมนตรีเอง มีนโยบายเรื่องความเท่าเทียม และการเข้าถึงโอกาส ดูแลผู้มีรายได้น้อย แต่ทั้งหมดต้องอยู่บนพื้นฐานของกฎหมาย กฎกติกาต้องยอมรับซึ่งกันและกัน 

“บิ๊กตู่” แก้ปัญหาที่ดินทำกิน ไม่ได้หวังให้รัก! แต่ทำเพื่อ ปชช.ฐานะ "นายกฯ"

นายกรัฐมนตรี รับปากว่า หลักการทั้งหมดนั้นอนุมัติให้อยู่แล้ว แต่ต้องตรวจสอบเอกสารสิทธิ์ว่าถูกต้องหรือไม่ โดยได้สั่งการให้ดูที่ดิน 2 แปลงใหญ่ ว่าเป็นการเช่าตามกฎหมายหรือไม่ ออกมาแบบนั้นได้อย่างไร ต้องไปตรวจสอบอีกที พร้อมระบุอีกว่า กติกาสำคัญคือต้องตรวจสอบว่าชาวบ้าน 113 ราย มีที่ดินทำกินที่อื่นหรือไม่ ถ้ามีจะไม่ได้รับการจัดสรร  ซึ่งชาวบ้านรับปากว่าครับ ส่วนนายกรัฐมนตรีแซวว่า พูดเพราะ เป็นทหารเก่าหรือเปล่า

นายกรัฐมนตรี ถามว่าใครเป็นคนจัดสรรให้ ชาวบ้านว่า “คุณพี” นายกฯ ถามว่า “คุณพี” คือใคร แต่ไม่ว่าใครก็ตัดสินไม่ได้ เพราะตนคือนายกฯ ถ้านายกฯ ตัดสินไม่ได้ ใครก็ทำให้ไม่ได้เหมือนกัน

ทั้งนี้ชาวบ้านบอกว่า ผู้ว่าราชการจังหวัดไม่ดำเนินการให้ นายกฯ จึงรีบปรามว่าไม่ใช่ศัตรูกัน คนไทยด้วยกันทั้งนั้น ตรงนี้ตนได้มอบหมายให้ผู้ว่าไปดำเนินการเรียบร้อยแล้ว  ซึ่งได้สั่งการไปว่าให้ดำเนินการให้ชาวบ้าน 113 ราย นี่ก่อน ซึ่งหากถูกต้องจะต้องทำผัง และจับสลากว่าใครอยู่ตรงไหน  ซึ่งจากการเอกสาร พบว่า มีชาวบ้านไม่ผ่านการพิจารณาตามหลักเกณฑ์ 59 ราย เหลือเพียง 54 รายที่ถูกต้อง พร้อมย้ำว่า ให้ทุกคนต้องยอมรับกฎกติกาตรงนี้ 

นายกรัฐมนตรี สอบถามถึงที่ดินแปลงหนึ่งที่มีการไปล้อมรั้วลวดหนาม บ้านเมืองไม่มีขื่อมีแปหรืออย่างไร พร้อมถามว่า โอเคและพอใจหรือไม่ ตนมาประสานให้ทุกอย่างเดินหน้า ไม่ได้มาทำเพื่อให้ทุกคนรักตน หากจะรักก็รักแยู่แล้ว แต่ทำให้ถูกต้อง ตนมาประสาน เพื่อให้ดำเนินงานต่อไปให้ได้ ไม่ได้ทำเพื่อเอาใจ  หากสำเร็จต้องให้เครดิตกับผู้ว่าฯ และคณะทำงาน  อย่าไปโกรธกัน โกรธกันไม่ได้ เพราะต้องรักษากฎหมาย 


“บิ๊กตู่” แก้ปัญหาที่ดินทำกิน ไม่ได้หวังให้รัก! แต่ทำเพื่อ ปชช.ฐานะ "นายกฯ"
หลักนิติศาสตร์กับรัฐศาสตร์ต้องเดินคู่กัน หากขัดแย้งกันบ้านเมืองก็เดินต่อไปไม่ได้ ต้องสร้างความรักความสามัคคี จะบอกว่ารักนายกฯ หรือไม่ชอบผู้ว่าฯ ก็ไม่ได้ ต้องมีกฎหมายดูแล

ขณะที่ชาวบ้านบอกว่า รู้สึกดีใจ ที่นายกฯ ลงมาดูด้วยตัวเอง ที่ผ่านมานอนไม่หลับ ถ้านายกฯไม่มา อาจทำให้ถูกตัดสิทธิ์ได้ พร้อมกันนี้ มีชาวบ้าน สวมกอดนายกฯ และขอถ่ายรูปบอกว่า นายกฯ หล่อกว่าในทีวี อีกทั้งมีชาวบ้านขอหอมแก้ม แต่นายกฯ บอกว่า โควิดยังมีอยู่จึงให้ถ่ายรูปด้วยเท่านั้น

“บิ๊กตู่” แก้ปัญหาที่ดินทำกิน ไม่ได้หวังให้รัก! แต่ทำเพื่อ ปชช.ฐานะ "นายกฯ"
นอกจากนี้ ยังมีตัวแทนชาวบ้านอีก 6 คน ขอให้นายกฯ แก้ไขปัญหาที่ดินทำกินที่ทับซ้อนกับที่ดินของรัฐ มีชาวบ้าน 95 ครอบครัว ที่ยังไม่มีเอกสารสิทธิ์ ปัญหานี้ชาวบ้านเข้ามาทำกินในพื้นที่ก่อนปี 2506 ที่ภาครัฐเข้ามาจัดระเบียบ ประกาศเป็นพื้นที่ป่าสงวน ทำให้ไม่มีเอกสารสิทธิ์ โดยนายกรัฐมนตรีขอให้ชาวบ้านใจเย็น ตอนนี้กำลังอยู่ในกติกา ที่กำลังแก้อยู่ และจะรับเรื่องนี้ไปพิจารณา

นายกรัฐมนตรี กล่าวก่อนเดินทางกลับ ว่า วันนี้ ( 24 ม.ค.66 ) ตนพูดในนามรัฐบาล ไม่ได้มาหาเสียง หน้าที่ของนายกรัฐมนตรี คือให้ความเป็นธรรมกับประชาชนทั่วประเทศ การลงพื้นที่ครั้งนี้ จะนำแนวทางไปใช้กับพื้นที่อื่นด้วย จะจัดระเบียบทุกจังหวัดทั่วประเทศ ซึ่งมีปัญหาอยู่มาก ชาวบ้านมีทั้งเข้าใจและไม่เข้าใจ แต่นายกในฐานะประธาน คทช. ก็ได้มารับฟังปัญหาแล้ว แก้ไขเพื่อลดความขัดแย้ง ให้ชาวบ้านได้รับความเป็นธรรมอย่างทั่วถึง ซึ่งทั้งหมดคือหน้าที่ของรัฐบาล

สำหรับการลงพื้นที่ครั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ใช้รถฟอร์จูนเนอร์ สีดำ เลขทะเบียน กฉ 4212 ยะลา

logoline