svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

“สุทิน” มอง “ธรรมนัส” กราบ “บิ๊กป้อม” เรื่องครอบครัวร่วมสู้วิกฤติ

17 มกราคม 2566
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

“สุทิน” มอง “ธรรมนัส” กราบ “บิ๊กป้อม” เป็นเรื่องในครอบครัว ต้องกลับมาร่วมกันสู้วิกฤต ยิ้มให้กำลังใจ จี้ “รัฐบาล” อย่าเตะถ่วงอภิปราย 152 ชี้ สัญญาณยุบสภาแรง

17 มกราคม 2566 นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย และประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน กล่าวถึงกรณีที่ ส.ส.พะเยา พรรคเศรษฐกิจไทย ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า ให้การต้อนรับรองนายกรัฐมนตรี หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ ระหว่างการลงพื้นที่จังหวัดพะเยา 

โดยช่วงหนึ่งร้อยเอกธรรมนัส ได้คุกเข่าพร้อมมอบพวงมาลัยให้พลเอกประวิตรบนเวที ซึ่งมีแนวโน้มจะกลับมาพรรคพลังประชารัฐ จะกระทบต่อการสู้ศึกเลือกตั้งของพรรคเพื่อไทยหรือไม่ โดยมองเป็นเรื่องในครอบครัว เพราะพลเอกประวิตร และร้อยเอกธรรมนัส ถือเป็นคุ้นเคยกัน

แม้จะแยกกันในบางครั้ง ด้วยเหตุใดก็แล้วแต่ แต่ไม่ใช่เรื่องแปลก พร้อมมองไม่กระทบกับพรรคเพื่อไทยในการเลือกตั้ง เพราะเราเดินตามยุทธศาสตร์ที่วางไว้ และยังเชื่อว่า ผลกระทบต่อพรรคเพื่อไทย จะน้อยกว่า การเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา

ส่วนการกลับมายังพรรคพลังประชารัฐของร้อยเอกธรรมนัสนั้น เสมือนการไม่มีทางไปหรือไม่ นายสุทิน ย้ำว่าเป็นเรื่องในครอบครัวเมื่อเจอวิกฤตจะต้องรวมพลังกัน ฝ่าให้พ้นวิกฤต ลำบากก็ต้องมาคุยกัน ก่อนยิ้มและพูดว่า “ตนก็ให้กำลังใจ” 

เมื่อถามถึงความเป็นไปได้ว่า รัฐบาลจะชิงยุบสภาก่อนการอภิปรายทั่วไป ม.152 ซึ่งก่อนหน้านี้หัวหน้าพรรคเพื่อไทย นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว มองรัฐบาลถือฤกษ์ดี 3 วัน เพื่อยุบสภา นายสุทิน กล่าวว่า ตนไม่รู้ หัวหน้าพรรคอาจมีข้อมูลว่า มีคนแอบไปดูหมอ แต่ถามว่า จะยุบสภาเพื่อหนีการอภิปรายหรือไม่นั้น

ก็มีสิ่งบอกเหตุให้ชวนคิดว่า เมื่อยื่นอภิปรายไปแล้วจะใช้ระยะเวลาไม่นาน เพียง 1-2 สัปดาห์ ก็จะมีการประชุมเพื่อกำหนดวัน แต่ครั้งนี้ยืดยาวกว่าปกติ

อีกทั้งหากเป็นรัฐบาลคงไม่อยากให้มีใครมาอภิปรายช่วงใกล้เลือกตั้ง เพราะจะเสียเปรียบ เว้นแต่จะมีการดึงเพื่อไม่ให้มีการอภิปราย ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าคิด แต่ส่วนตัวเชื่อว่า แม้จะยุบหนีอภิปรายก็คงไม่พ้น เพราะต้องบอกสิ่งเหล่านี้กับประชาชน ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง 

สุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย  วิปฝ่ายค้าน

นายสุทิน ยังกล่าวว่า ในวันนี้ 25 มกราคมนี้ จะมีการประชุมวิปสองฝ่าย เพื่อกำหนดวันและกรอบเวลาอภิปราย และคาดว่า จะมีการอภิปรายหลังวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2566 ซึ่งใกล้หมดอายุสภา ซึ่งเห็นว่า ช่วงนี้รัฐบาลไม่มีงานหรือภารกิจอะไรหนาแน่น โดยประธานสภา นายชวน หลีกภัยเอง ก็ได้ยื่นข้อท้วงติงว่า ระยะเวลานานเกินไป

พร้อมย้ำ เรื่องกรอบเวลาของฝ่ายค้านควรมากกว่า 22 ชั่วโมง หรือ 3 วัน เพราะถือเป็นการสรุปรวบยอด 3 ปี ส่วนเนื้อหาอภิปรายรวมถึงผู้อภิปรายคืบหน้า 80% และมีข้อมูลใหม่เพิ่มเติม ก่อนยืนยันพร้อมอภิปรายได้ทันที

ทั้งนี้ การอภิปรายรอบนี้ยังคงพุ่งเป้าไปที่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา รวมถึงพรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรค ซึ่งใครเสนอนโยบายอะไรไว้ คงต้องชี้แจง

logoline