ศึกเลือกตั้ง 66 “บิ๊กตู่” ชิงแต้มต่อ “ยุบสภา” กุมภาพันธ์นี้

ปี่กลองการเมืองเริ่มขยับสนั่น สมรภูมิเลือกตั้ง 66 เมื่อหมากเกมขยับเข้ามาเร็วขึ้น หลายฝ่ายมองในทิศทางเดียวกัน “บิ๊กตู่” นายกรัฐมนตรีกำลังได้เปรียบทางการเมือง ส่งผลให้การเมืองวุ่น ส.ส.วิ่งกันฝุ่นตลบย้ายพรรค กระแสเกิดขึ้นบนเงื่อนไขตัวแปรสำคัญ  “ฝ่ายขั้วรัฐบาล” ได้เปรียบทางการเมืองมากที่สุด  

นับจากต่อนี้ไป ถนนการเมืองจะคึกคัก “พรรคการเมือง” จะขยับตัวเคลื่อนไหวมากขึ้น ทันที “บิ๊กตู่” นายกรัฐมนตรี ประกาศ “ยุบสภา” ให้มีการเลือกตั้งทั่วไปตาม “กติกาใหม่” ที่กำหนดให้มี ส.ส.เขต 400 คน บัญชีรายชื่อ 100 คน 

ปัจจัยข้อกฎหมาย “กติกา” รัฐธรรมนูญ พ.ร.ป.การเลือกตั้ง ส.ส. กำหนดให้ผู้ที่จะสมัครรับเลือกตั้งต้องเข้าเป็นสมาชิกพรรค 30 วัน นับจนถึงวันเลือกตั้ง เมื่อ “ยุบสภา”  ส่วนบรรดา ส.ส. ที่ต้องการย้ายพรรคหรือเข้าเป็นสมาชิกพรรคการเมืองใหม่ก็ต้องลาออกจากสมาชิกพรรคเดิมก่อน ซึ่งจะส่งผลให้สถานะการเป็น ส.ส. สิ้นสุดลง 

โชว์พลังแกร่งพรรคร่วมรัฐบาล “อนุทิน ชาญวีรกูล” หรือ “เสี่ยหนู” หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ระบุจะมี ส.ส. ทยอยมาเปิดตัวกับพรรครอบแรก 34 คน ไม่สามารถบอกจำนวนได้หมด จะทราบจำนวนเมื่อได้ลงนามรับรองการสมัคร ยืนยันการเลือกตั้ง 66 จะส่ง ส.ส.ครบ 400 เขต รวมถึง ส.ส. บัญชีรายชื่อด้วย 


ก่อนนี้ตั้งแต่วันที่ 24 ธันวาคม 2565 ส่วน กรอบ 90 วัน ถ้ารัฐบาลอยู่ “ครบวาระ” เพื่อความแน่นอนในการลงสมัครรับเลือกตั้ง จึงปรากฎภาพ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ไหลเข้า ไหลออก  ไปสังกัดพรรคการเมืองครบ 90 วัน ก่อนวันรับสมัครเลือกตั้ง ดังจะเห็นได้ว่า ส.ส.ปัจจุบันที่ต้องการจะย้ายพรรคใหม่ ได้กำหนดเส้นตายในการย้ายพรรค จนถึงวันหมดอายุครบเทอมของสภาผู้แทนราษฎรเกิดการเคลื่อนไหว 

ขณะเดียวกันสัญญาณการเมืองตัวแปรสำคัญรอเพียง “กติกา” กฎหมายลูก 2 ฉบับ “พรป.ส.ส.-พรป.พรรคการเมือง”  โปรดเกล้าฯประกาศราชกิจจานุเบกษา ย่อมเท่ากับกฎหมายมีผลบังคับใช้ คาดเกิดขึ้นในช่วงต้นมีนาคม

ห้วงเวลาที่ผ่านมา ยุทธการขี่ม้าเลียบค่าย ของบรรดา “หัวหน้าพรรคการเมือง-คีย์แมน-วีไอพี” ฉายภาพออกมาในตลอดห้วงเวลานี้ เริ่มตั้งแต่การขยับควบม้าไปดูคอกเพื่อน แอบชำเหลืองดูอาชาพันธุ์เกรดเอ ไม่เว้น แม้แต่การ “ตกปลาในบ่อเพื่อน” หรือกระทั่งการที่ ส.ส. ทยอยลาออกจากพรรคเดิมเพื่อไปสังกัดพรรคการเมืองใหม่ 

ในอดีตกระทั่งปัจจุบันไม่มีสูตรสำเร็จกระแสกระสุนดินดำต้องใช้เป็นอาวุธคู่ขนานสอดคล้องกับคำว่า “ไม่มีมิตรแท้และศัตรูถาวร” สารพัดสูตรรัฐบาล ที่มีความพยายามโยนหินหยั่งกระแส ณ เวลานี้ บอกได้เลย มีความเป็นไปได้แทบทุกสูตร  ถึงเวลาจริงขึ้นอยู่กับ ฝ่ายไหนจะชิงเกมจับมือร่วมหอลงโรงเป็นพันธมิตรทางการเมือง

 “เพื่อไทย” ชิงเปิดหน้ากำหนดเส้นทางเดินสู่ถนน “อำนาจ”  ปฏิเสธดีลข้อตกลงจับมือทุกพรรคการเมือง กลบกระแสสะพัดดีลจับมือ “บิ๊กป้อม” พลังประชารัฐ เกรงจะทำให้เป้าแลนด์สไลด์สะดุดตกต่ำลงไป

กระแส “ยุบสภา” ที่มีการคาดเดาจะมีการปิดจ๊อบ  แนวโน้มย่อมเป็นไปได้สูง หากไม่ได้เปรียบ ย่อมไม่มีการเตะหมูเข้าปากหมา ไทม์ไลน์อายุขัยรัฐบาลต้องโบกมือลาวันที่ 23 มี.ค. 66 แม้จะสิ้นสุดปลายทาง 

เหตุการณ์ “สภาล่ม” ขย่มเสถียรภาพรัฐบาลสั่นคลอน การันตีคงต้อง  “ยุบสภา” สอดคล้องการเปิดตัวของ “บิ๊กตู่” เข้าค่ายรวมไทยสร้างชาติ เป็นการขยับเคลื่อนไหวเรียกแขก เรียก ส.ส.จัดแถวจัดทัพ รอโอกาสคลายล็อค ทันที  “บิ๊กตู่” เอย รอวันที่เหมาะสม แล้วถือฤกษ์เคาะวันสมัครเป็นสมาชิกพรรคนำทัพรวมไทยสร้างชาติวันที่ 9 มกราคมนี้

แหล่งข่าววงในใกล้ชิด “บิ๊กตู่” ประเมิน กำหนดตีกรอบการได้เปรียบในเชิงการเมือง “บิ๊กตู่” ถ้าจะเลือก “ยุบสภา” ในช่วงกลาง-ปลายเดือนกุมภาพันธ์  ก่อนครบวาระวันที่ 23 มีนาคม เพื่อช่วงชิงสร้างความได้เปรียบให้ตัวเอง ในฐานะนายกฯ รักษาการระหว่างการเลือกตั้ง

ฟันธง!! ศึกเลือกตั้งครั้งนี้เดือดดุย่อมเป็นมีความเป็นไปได้สูงมาก ในสถานการณ์ที่ “ฝ่ายขั้วรัฐบาล” ได้เปรียบในสมรภูมิเลือกตั้งหลังการ “ยุบสภา” แล้วต้องมีการจัดเลือกตั้งขึ้นภายใน 45 วัน ศึกรอบนี้สถานการณ์ทางการเมืองในปี 66 จะพิสูจน์ “รัฐบาล”  ชุดนี้บนสนามเลือกตั้ง ถือป็นการวัดความนิยมระหว่าง “ฝ่ายรัฐบาล ฝ่ายค้าน” เมื่อผลการเลือกตั้งออกมาจะพิสูจน์การตัดสินใจของประชาชน