ส่องสมรภูมิเลือกตั้งปี 66 เค้าลางนายกรัฐมนตรีคนที่ 30

นับหนึ่งก้าวย่างเข้าสู่โหมดเลือกตั้งอย่างเต็มสูบ เมื่อเรือแป๊ะ “รัฐบาลลุงตู่” ใกล้หมดวาระ “รัฐนาวา” ตั้งแต่ “ยุค คสช.” จนถึง “รัฐบาลประยุทธ์ 2” ท่ามกลางนับถอยหลังกระแสเคาะ “ยุบสภา” ในช่วงไตรมาสแรกต้นปีหน้า

พรรคการเมืองเริ่มขยับเปิดหน้าชิงแต้มโกยเสียงกรุยทางเข้าช่วงชิง “อำนาจ” ภายใต้กติกาใหม่ที่ได้ปรับเปลี่ยนมาเป็นบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ “กาคนที่รัก-เลือกพรรคที่ชอบ” ทั่วประเทศ “แบบเขตจำนวน 400 คน และบัญชีรายชื่อจำนวน 100 คน”

เมื่อ “กกต.” ประกาศแบบแบ่งเขตใหม่เป็น ภาคเหนือ ส.ส.รวม 39 คน จากเดิม 33 คน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ส.ส.รวม 132 คน จากเดิม 116 คน ภาคกลาง ส.ส. รวม 122 คน จากเดิม 106 คน ภาคตะวันออก ส.ส. รวม 29 คน จากเดิม 26 คน ภาคตะวันตก ส.ส. รวม 20 คน จากเดิม 19 คน ภาคใต้ ส.ส. รวม 58 คน จากเดิม 50 คน ส่วน กรุงเทพฯ กลับมาเป็น 33 คน จากเดิม 30 คน โดยมี "จังหวัดที่มีจำนวน ส.ส. เพิ่มขึ้น" 3 คน 1 จังหวัด 2 คน 5 จังหวัด 1 คน 37 จังหวัด ขณะที่จำนวน ส.ส.เท่าเดิมไม่ปรับเพิ่มมีจำนวน 35 จังหวัด 

ล่าสุด “กรมการปกครอง”  กระทรวงมหาดไทย กางข้อมูลถึงจำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2565 เปิดเผยว่า ประชากรทั่วประเทศ 65,228,120 ล้านคน จำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้งทั่วประเทศ รวม 52,045,889 คน แบ่งเป็นผู้ชาย 31,874,308 คน ผู้หญิง 27,005,781 คน โดยจังหวัดที่มีผู้มีสิทธิเลือกตั้งมากที่สุดคือ กทม. จำนวน 4,478,150 คน เป็นผู้ชาย 2,047,984 คน ผู้หญิง 2,430,166 คน บุคคลที่มีสิทธิ์เลือกตั้งครั้งแรก (นิวโหวตเตอร์) รวมทั่วประเทศ 791,563 คน 



เสียงประชาชนคือเสียงสวรรค์ “เพื่อไทย-ภูมิใจไทย” นำโด่งก่อนใคร ขณะที่ขั้วเก่าแก่ “ประชาธิปัตย์-พลังประชารัฐ” ยังไม่มีความชัดเจน ขัดแย้งซดเกาเหลาเลือดไหลไม่หยุด  เรียกได้ยังไล่ตามติดรั้งกลุ่มอยู่  โหมโรง “นิพนธ์ บุญญามณี” รองหัวหน้าประชาธิปัตย์ มั่นใจ เลือกตั้งส.ส.ปี 66 พื้นที่ภาคใต้ “ประชาธิปัตย์” กวาดได้ 35-40 ที่นั่ง  ขณะที่ผู้กอง “ธรรมนัส” มุ้งใหญ่ทางภาคเหนือ “พลังประชารัฐ” ลุยลงพื้นที่รับบัญชาดูแลหน้าเสื่อแทน “ลุงป้อม”  ยังเงียบสนิท

ลุ้นจับตาไผ่แยกกอ “รวมไทยสร้างชาติ” พรรคน้องใหม่ที่รอเปิดตัว “บิ๊กตู่” ในเร็ววันเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี  ตัวแปรหลักจุดขายศึกเลือกตั้งแต้มต่อกรุยทางต่อท่อ “แผนวิ่งผลัด”เข้าสู่อำนาจไปต่อ 2 ปี ที่มี ส.ว. 250 คนเป็น “โหวตเตอร์” แบ็คอัพคอยหนุนหลัง

ประมาทไม่ได้ “ก้าวไกล” ทายาทอนาคตใหม่ ขวัญใจ “คนรุ่นใหม่” ที่ชอบการเปลี่ยนแปลง แหวกจารีตประเพณี ไม่สน “คนรุ่นเก่า” ที่ยังสืบสานวัฒนธรรมดั่งเดิมแล้วต่อยอดสร้างงานใหม่อย่างค่อยเป็นค่อยไป แนวโน้มกำลังพลอาจลดลงตามกรอบกติกาใหม่ ส.ส.ส่อลดลงปมติดกระดุมผิดเม็ดเจ้าของพรรคตัวจริงป๊อดไม่ยอมจ่ายเรียกได้ว่า “กระสุนด้าน”

ทว่า “หัวใจสำคัญ” ของการเลือกตั้งครั้งนี้ ย่อมไม่ใช่แค่กติกา ที่สำคัญสุดเป้าหมายหลัก ของทุกพรรค “จำนวน ส.ส.” ที่ต้องเพิ่มกระแสบวกกระสุนเพื่อเก็บแต้มส.ส.ให้ได้มากที่สุด

ไล่เรียงจากการเปิดตัว หวือหวาสุดๆ “ภูมิใจไทย” โชว์ดีลพลังดูดแรงรอบแรกจาก 9 พรรค รวม 37 ส.ส.ภายใต้ยุทธศาสตร์ “ยกจังหวัด” ตั้งเป้ากวาดส.ส.ให้ได้จำนวนไม่ต่ำกว่า 125 เก้าอี้วางหมากสกัดแลนด์สไลด์ “เพื่อไทย” ดับฝันปิดเกมตั้งแต่ไก่โห่

เปิดข้อมูลผู้มีสิทธ์เลือกตั้งทั่วประเทศ และผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งครั้งแรกหรือนิวโหวตเตอร์  พรรคการเมือง ต้องชูนโยบาย เพื่อแบ่งเค้กคว้าเสียง ส.ส.ให้ได้จำนวนให้มากที่สุดช่วงชิงการจัดตั้งรัฐบาลบนสมรภูมิเลือกตั้ง

ยกสุดท้ายหลังปิดหีบเลือกตั้ง ต้องจับตามองระหว่างคู่ชิงสูสี “เพื่อไทย-ภูมิใจไทย” ใครเข้าวินภาพที่ฉายออกมายกแรก ณ เวลานี้อย่ากระพริบตาคงได้เห็นเค้าลาง “นายกรัฐมนตรี” คนที่ 30 อย่างแน่นอน ..!!!