เปิดตำนาน MOBA แนวเกมยอดฮิตสำหรับ Esports มิตรภาพและคนหัวร้อน

Highlights:

• MOBA เป็นเกมที่แบ่งผู้เล่นเป็นสองฝ่ายเข้าชิงชัยกัน โดยแต่ละฝ่ายจะมีสมาชิกในทีมตามจำนวนที่กำหนด โดยทีม 5 คนนั้นเป็นรูปแบบการเล่นที่มีความนิยมมากที่สุด
• MOBA เกิดมาจาก Mod หรือแผนที่ที่ผู้เล่นได้ปรับแต่งตามแนวคิดและไอเดียของตัวเองจนกลายเป็น DOTA บรรพบุรุษของเกมแนว MOBA
• มูลค่ารางวัลใน Esports รายใหญ่ของเกมแนว MOBA อย่าง DOTA 2 มีมูลค่าสูงกว่า 1,200 ล้านบาท
• ความสนุกของ MOBA อยู่ที่การเอาชนะฝ่ายตรงข้ามด้วยการทำงานร่วมกันเป็นทีม ไม่ว่าจะเป็นคนแปลกหน้าหรือเพื่อนที่ตั้งทีมขึ้นมาด้วยกัน
• เกม MOBA ส่วนใหญ่เป็น Free to Play แต่จะมีเสียเงินสำหรับอุปกรณ์เสริมหรือเครื่องแต่งตัวซึ่งไม่ได้เพิ่มค่าสถานะของตัวละคร
• ทุกคนสามารถเล่นเกมแนว MOBA ได้ฟรีทั้งบน PC (Windows), Mobile อย่าง iOS และ Android หรือ Nintendo Switch ที่รองรับการเล่น Pokemon Unite ข้ามแพลตฟอร์มได้ด้วย

--------------------

          “จะเข้าบวกหา xxx เหรอวะ” “ดูมินิแมปกันหน่อยเหอะ” “จะทำไมอะ จะโยนเกม แพ้ๆ ไปดิ” ประโยคเหล่านี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งที่สามารถพบเจอได้ในชีวิตประจำวันของเหล่าเกมเมอร์ MOBA ที่ไม่ว่าจะหัวร้อนยังไงก็ยังไม่เลิกเล่นสักที และในท้ายที่สุดอาจจะหาห้องเล่นต่อไปเพื่อขอให้ชนะสักตาจนกว่าจะสุขสมอารมณ์หมายก็เป็นได้

          ต้องยอมรับว่ากระแสของเกมแนว MOBA ในยุคปัจจุบันนั้นมีความร้อนแรงอย่างมาก เกมหน้าใหม่หรือซีรีย์ดังต่างตบเท้าทำเกม MOBA กันอย่างต่อเนื่องไม่แพ้เกมคัดผู้ชนะอย่าง Battle Royale เช่น PUBG ซึ่งเกมแนว MOBA หลายเกมในปัจจุบันได้จัดแข่งขันลีคระดับโลกที่มาพร้อมเงินรางวัลมูลค่าหลายล้าน เช่น DOTA 2, Heroes of Newerth (HON) หรือ League of Legends (LOL) เป็นต้น ซึ่งเกมเหล่านี้เป็นเกมที่มีรายละเอียดและเทคนิคการในการเล่นที่ซับซ้อนไม่ว่าจะรูปแบบของทีม การเลือกตัวละคร จำนวนตัวละคร ไอเท็ม Skill สัตว์ประหลาดในป่า บอสต่าง ๆ ระบบจับคู่ผู้เล่น ฯลฯ ซึ่งทำให้เกมเหล่านี้ต้องเล่นใน PC เป็นหลักเพื่อใช้การควบคุมระดับมาโครได้อย่างสะดวกยิ่งขึ้น

 

          ในขณะที่กระแสของเกมในสมาร์ทโฟนมาแรง เกมอย่าง Arena of Valor (RoV ในไทย) หรือ League of Legends Wild Rift ในขณะที่บริษัทที่มีเกมซีรีย์ดัง ๆ ก็เอาตัวละครมาทำ MOBA ด้วยเหมือนกัน เช่น Heroes of the Storm (HOTS) ซึ่งเป็นการรวมตัวละครดาวเด่นจากเกมระดับตำนานของค่าย Blizzard อย่าง Diablo, Starcraft, Warcraft และ Overwatch หรือเกม MOBA ที่สามารถเล่นข้ามแพลตฟอร์มได้อย่าง Pokemon Unite ที่นำตัวละครจากซีรีย์ดังอย่าง Pokemon มาสู้กันเป็นทีม โดยสามารถใช้ Nintendo Switch และสมาร์ทโฟนเล่นได้ ทั้งสองเกมอย่าง HOTS และ Pokemon Unite นั้นมีโครงสร้างการเล่นพื้นฐานที่แตกต่างจาก MOBA ทั่วไปอยู่พอสมควร โดยจะให้ความสำคัญกับภารกิจในด่านมากกว่าแค่การพยายามทำลายพื้นที่และเข้ายึดฐานของฝ่ายตรงข้าม

          ความหลากหลายของเกม MOBA ที่มีในปัจจุบันทำให้สามารถรองรับผู้เล่นที่มีความต้องการแตกต่างกันไปได้เป็นอย่างดี เพราะบางคนไม่ชอบเมคานิคหรือกลไกการเล่นของเกมหนึ่ง ๆ ก็สามารถหันไปเล่นเกมแนวเดียวกันที่มีระบบหรือโครงสร้างเหมาะสมกับความต้องการตัวเองมากกว่าได้ ตั้งแต่เล่ามาจนถึงบรรทัดนี้ผู้อ่านบางคนอาจยังไม่รู้จัก MOBA ว่าคืออะไร และสนุกยังไง หลังจากที่เรารู้จักตัวเลือกที่มีแล้วเราลองมาทำความรู้จักกับ MOBA กันดีกว่าครับ

 

MOBA เดินหน้าคว้าชัยแบบเป็นทีม

          MOBA นั้นมีชื่อเต็มว่า Multiplayer Online Battle Arena ถ้าจะแปลตรง ๆ ก็คือเกมออนไลน์หลากหลายผู้เล่นที่ทำการต่อสู้กันบนสนามประลอง รูปแบบการเล่นพื้นฐานของเกมแนวนี้ คือ การจำลองสนามประลองที่ผู้เล่นจะมีหน้าที่รักษาพื้นที่หลักชัยของตัวเองในขณะที่พยายามทำลายและยึดพื้นที่ของศัตรู โดยพื้นที่ดังกล่าวนั้นอาจจะเป็นป้อมปืน หรือสิ่งปลูกสร้างของศัตรู 

 

          พื้นที่การเล่นมักจะแบ่งเส้นทางเดินเป็น 3 เส้นหรือผู้เล่นมักจะเรียกว่าเลน (Lane) ที่จะมีลูกกระจ๊อก (บางเกมเรียกครีพบางเกมเรียกมิเนียน) คอยเดินตามถนนดันป้อมโดยอัตโนมัติ และผู้เล่นก็มีหน้าที่ใช้ประโยชน์จากลูกกระจ๊อกเหล่านั้นไม่ว่าจะเป็นการเก็บเลเวล (ประสบการณ์) หรือเก็บเงิน และในทางกลับกันก็จะเป็นการกันศัตรูไม่ให้ได้ประโยชน์เหล่านี้ การเก็บเลเวลจะเปิดโอกาสให้ผู้เล่นสามารถเลือกอัพเกรดทักษะที่ต้องการได้ และเมื่อเลเวลถึงจุดที่กำหนดไว้ตัวละครจะได้ท่าพิเศษซึ่งมักจะสร้างความได้เปรียบให้กับการเล่นได้อย่างมากหากใช้ได้อย่างถูกต้อง

          ตำแหน่งของผู้เล่นจะแบ่งตามหน้าที่หรือประเภทของตัวละครที่แตกต่างกัน แต่โดยมากจะมีตำแหน่งแทงค์ (Tank) ทำหน้าที่เป็นด่านหน้ารับการโจมตีหรือนำการบุก ตำแหน่งโจมตี (Attacker) ซึ่งบางเกมจะแบ่งเป็นการโจมตีแบบสายลอบฆ่า (Assassin) จอมเวทย์ (Mage) หรือสายกายภาพ (Physical) และสุดท้ายคือสายสนับสนุน (Supporter) ซึ่งอาจจะมีทักษะในการฟื้นฟูเลือดหรือการป้องกันให้กับเพื่อนร่วมทีม นอกจากผู้เล่นที่ทำหน้าที่เล่นออกนอกเลนที่เรามักจะเรียกผู้เล่นเหล่านี้ว่าผู้เล่นป่า (Jungler) มีหน้าที่เก็บภารกิจหรือเลเวลในพื้นที่ที่ไม่มีลูกกระจ๊อกช่วย และหน้าที่สำคัญที่สุด คือ การแย่งชิงทรัพยากรป่าของศัตรูและการป่วนคู่ต่อสู้ในแต่ละเลน นอกเหนือจากตำแหน่งป่า

 

          สิ่งที่อธิบายมาเป็นโครงสร้างหลักที่มักจะมีอยู่ในเกม MOBA หลากหลายเกม ซึ่งเกมจำนวนไม่น้อยมาพร้อมกับระบบซื้อขายที่แลกเงินเป็นไอเท็มสำหรับเพิ่มทักษะพิเศษ เช่น การโจมตีศัตรูแล้วเปลี่ยนความเสียหายที่เกิดขึ้นเป็นพลังชีวิตหรือที่เรียกกันเล่น ๆ ว่าสกิลดูดเลือดหรือค่าสถานะ (Status) เช่น พลังชีวิต ความทนทานเกราะ หรือความว่องไวเป็นต้น อุปกรณ์เหล่านี้จะช่วยเพิ่มความได้เปรียบในการแข่งขันในช่วงต้นเกมและสร้างความแตกต่างอย่างมากในช่วงท้ายเกม ในขณะที่บางเกมที่ไม่มีระบบซื้อขายเหล่านี้กลับให้ความสำคัญกับเป้าหมายกิจกรรมหรือ Objective ที่ต้องอาศัยความร่วมมือกันแทน

 

MOBA จาก Mod สู่ตำนานแห่งโลกของเกม

          จุดเริ่มต้นของเกม MOBA นั้นต้องยกความดีความชอบให้กับเหล่าผู้พัฒนาเกมสมัยก่อนที่เปิดกว้างให้ผู้เล่นมีส่วนร่วมกับการพัฒนาเกมได้ เพราะ MOBA นั้นแต่เดิมไม่ได้เป็นแนวเกมและมีระบบที่ซับซ้อนหลากหลายเช่นที่เห็นทุกวันนี้ แต่เป็นเพียงแผนที่เสริมที่ผู้เล่นออกแบบและปรับแต่งขึ้นมาเอง หรือจะเรียกว่าเป็นลักษณะของการปรับแต่ง Mod แบบหนึ่งก็ได้ ซึ่ง Mod ที่ว่านี้อยู่ในเกมของ Blizzard Entertainment อันโด่งดังอย่าง Warcraft III ซึ่งเป็นเกมแนว RTS (Real Time Strategy) หรือเกมแนววางแผนการรบซึ่งเป็นแนวเกมหนึ่งที่ Blizzard ถนัด และจุดเด่นของเกมแนวนี้จาก Blizzard คือ การที่เกมมาพร้อมกับซอฟต์แวร์ในการออกแบบแผนที่ได้อย่าอิสระบนพื้นฐานของระบบกลไกโครงสร้างของเกม โดยจะมีวัตถุในเกมให้เป็นพื้นฐานไม่ว่าตัวละคร ระบบกำหนดค่าทักษะ การออกแบบพื้นที่และระบบ รวมถึงการนำเข้า (Import) โมเดลที่ดัดแปลงขึ้นมาเป็นพิเศษได้ด้วยเช่นกัน

          และแผนหรือหรือ Mod แรกที่เป็นต้นกำเนิดของ MOBA ในปัจจุบัน คือ แผนที่ DOTA ใช่ครับมันคือต้นกำเนิดของ DOTA 2 ที่ Valve ได้ลิขสิทธิ์ไปและเปิดให้เล่นฟรีบน Steam ทุกวันนี้นั่นเอง DOTA (บ้านเราเรียกดอทเอในขณะที่ต่างประเทศเรียกโดต้า) มีชื่อเต็มว่า Defence of the Ancients ที่พัฒนาโดยผู้ใช้งานที่ชื่อ Eul โดยได้รับแรงบันดาลใจมาจากแผนที่จาก Starcraft ภาคแรกที่ชื่อว่า Aeon of Strife

 

          สิ่งที่เกิดขึ้นเสมอในโลกของนักพัฒนาและเหล่า Modder คือ การนำ Mod ที่ชอบหรือคนได้รับความนิยมมาดัดแปลงต่อยอดในแบบที่ตัวเองเห็นว่าดี ซึ่ง DOTA เวอร์ชันที่คนให้ความนิยมอย่างมากคือเวอร์ชันของ IceFrog ซึ่งเป็นการปรับสมดุลจาก Eul ซึ่งเป็นผู้เริ่มต้นและ Guinsoo ผู้ต่อยอดพัฒนา DOTA: Allstars จนมีโครงสร้างพื้นฐานของ DOTA ที่คุ้นเคยกัน 

 

          DOTA เป็นเพียงหนึ่งในความสำเร็จจาก Mod ที่กลายมาเป็นเกมตัวเต็มเท่านั้น ยกตัวอย่างเช่น Counter Strike ก็เป็นเกมแนว First Person Shooting หรือเกมยิงปืนมุมมองบุคคลที่หนึ่งซึ่งเกิดมาจาก Mod ของเกม Half-life เช่นกัน

 

          จากความสำเร็จของโครงสร้างกลไก DOTA ที่เป็นเพียงแผนที่หรือ Mod หนึ่งกลายมาเป็นเกมแยกเต็มตัวใน DOTA 2 ในขณะที่ผู้พัฒนาเกมรายอื่น ๆ ก็ตบเท้าพัฒนา MOBA กันอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ PC ไปจนถึง Mobile และความนิยมที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก ตลอดจนผู้เล่นหน้าใหม่ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้ MOBA กลายเป็นหนึ่งในเกมยอดฮิตสำหรับวงการ Esports ในขณะที่นักกีฬาเองได้กลายเป็นไอดอลให้กับผู้ชม ยกตัวอย่างเช่น Faker ผู้เล่น Pro Player ชื่อดังจากเกม LOL ที่ผู้ชมต่างเฝ้ารอดูเทคนิคการเล่นที่เป็น Outplay หรืออาจจะเรียกว่าลูกเล่นแบบ ‘มาเหนือเมฆ’ ที่สร้างความประหลาดใจและความหวาดหวั่นให้กับผู้เล่นฝ่ายตรงข้ามอยู่บ่อยครั้ง และผลลัพธ์ที่ตามมาหลังจากการแข่ง คือ ผู้ชมทั้งหลายก็พยายามจะใช้เทคนิคเหล่านั้นในการเล่นของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นการเล่นแบบแมชต์ทั่วไป หรือการเล่นแบบจัดอันดับของแต่ละเกม แน่นอนว่ามีทำได้บ้างและมีความพังพินาศให้กับทีมอยู่เรื่อย ๆ 

MOBA ในฐานะเกมแห่งมิตรภาพและความหัวร้อน

          การเล่น MOBA นั้นตัดสินกันที่การทำงานเป็นทีมเสียเป็นส่วนใหญ่ แน่นอนว่าระบบโครงสร้างบางเกมอาจเปิดโอกาสให้มีผู้เล่นที่สามารถกลายร่างเป็นเดอะแบก และพาทีมชนะแต่เพียงผู้เดียวได้ ซึ่งเกม MOBA ยุคหลัง ๆ พยายามแก้ปัญหาในประเด็นนี้กันอย่างแข็งขันด้วยการจัดโครงสร้างความสมดุลต่าง ๆ ให้ดี

 

          หัวใจสำคัญของ MOBA อยู่ที่การรู้บทบาทหน้าที่ตัวเองในทีมว่าตัวเองจะทำหน้าที่อะไร จะสนับสนุน จะเป็นแนวหน้ารับกระสุน จะเป็นคนที่คอยยิงถล่มอยู่ไกล ๆ หรือเป็นคนที่คอยเติมเวลาล่าถอย ขึ้นอยู่กับการเลือกบทบาทและการพูดคุยกันในทีม ซึ่งแน่นอนว่าการสื่อสารในทีมเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด เพราะไม่ว่าใครจะเลือกบทบาทอะไร การสมดุลลักษณะตัวละครในทีมหรือการเลือกสไตล์การเล่นของทีมก็เป็นสิ่งสำคัญ หลายครั้งที่ผู้เล่นแต่ละคนอยากจะ Outplay หรืออยาจะสร้างผลงานโดยไม่สนว่าเพื่อนร่วมทีมจะพร้อมหรือไม่ หรือบางครั้งเมื่อมีการถกเถียงและไม่ยอมตกลงกันโดยดี ผู้เล่นที่มีลักษณะ Toxic หรือผู้เล่นที่มีพฤติกรรมเป็นพิษร้ายมักจะโยนเกมในรูปแบบต่าง ๆ ไม่ว่าจะเดินไปแจกแต้ม โยนของให้ศัตรู หรือทำอะไรก็ตามเพื่อยียวนทีมตัวเองและทำให้ฝ่ายตรงข้ามชนะ ซึ่งผู้เล่นแนวนี้มักจะสร้างความหัวร้อนให้กับเพื่อนร่วมทีมอยู่บ่อยครั้ง 

          สังคมในเกม MOBA ก็ไม่ได้ต่างจากสังคมอื่น ๆ ที่มีทั้งคนเก่ง คนมีน้ำใจ พวกก่อกวน พวกที่มั่นใจตัวเองแบบผิด ๆ ซึ่งปัญหาส่วนใหญ่จะมาจากพวกที่ฟังคนอื่นไม่เป็นแล้วเอาตัวเองเป็นใหญ่ หลายครั้งก็เกิดจากความมั่นใจในการเล่นของตัวเองที่มากเกินไปจนทำให้เพื่อนร่วมทีมเดือดร้อนก็มีให้เห็นอยู่บ่อยครั้ง พฤติกรรมเหล่านี้ไม่ได้จะเจอเฉพาะกับการจับคู่ทีมกับคนแปลกหน้าเท่านั้น การเล่นร่วมทีมกับเพื่อนขาประจำก็เกิดขึ้นได้ไม่ยากเช่นกัน แม้คุณจะสนิทสนมกันแค่ไหนแต่การเล่นที่บางทีก็ไม่อาจหาคำอธิบายได้ว่าจะทำลงไปทำไม หรือการเล่นอย่างไร้สติก็ทำให้เพื่อนกันเองถูกตั้งคำถามได้เช่นกัน

 

          ในการเล่น MOBA นั้นความสามารถในการตอบสนองต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเฉพาะหน้าเป็นสิ่งที่สำคัญมาก ๆ เพราะการตอบสนองเหล่านั้นผู้เล่นจะต้องเข้าใจในทักษะของตัวละครแต่ละท่าอย่างละเอียด ผู้เล่นไม่น้อยที่นับเวลารอใช้ทักษะเหล่านั้นเป็นวินาทีเพื่อรอจังหวะเข้า ออก รวมถึงจังหวะทำคำแนน และไม่ใช่แค่ว่าผู้เล่นจะสามารถใช้สมาธิกับการเล่นตรงหน้าของตัวเองเท่านั้น แต่การมองแผนที่ดูสถานการณ์ภาพรวมก็เป็นสิ่งที่ต้องสังเกตบ่อยครั้ง เช่น เมื่อผู้เล่นฝ่ายตรงข้ามที่อยู่เลนกลางหายไปอาจหมายความว่าอะไรได้บ้าง? ไปเก็บบัฟ? ไปรอดักโจมตีเลนไหนที่ดันสูงไหม? หรือว่ามีแผนทำอะไรกันอยู่

 

          ผู้เล่นทีมเดียวกันก็ต้องส่งสัญญาณแจ้งเตือนต่าง ๆ เพื่อสื่อสารและขอการสนับสนุนให้เหมาะสมกับสถานการณ์ของทีมนอกเหนือไปจากการเพ่งสมาธิในหน้าที่ตัวเอง เช่น เมื่อผู้เล่นเลนกลางของฝ่ายตรงข้ามหายไป ผู้เล่นเลนกลางต้องเตือนเพื่อนร่วมทีมและอาจต้องเตรียมพร้อมย้ายเลนไปเสริมกำลังให้กับเลนที่กำลังถูกกดดันหรือมีปัญหาอยู่เป็นต้น หรือการสังเกตเห็นผู้เล่นป่าฝ่ายตรงข้ามที่มาผลุบ ๆ โผล่ ๆ ในป่าของตัวเองอาจต้องส่งสัญญาณล้อมจับเพื่อปกป้องการถูกลอบโจมตีจากหลังบ้านหรือเพื่อปกป้องทรัพยากรในป่าฝั่งตัวเองเป็นต้น

 

          ซึ่งสำหรับทีมที่แพ้ส่วนใหญ่นั้นอาจไม่ได้มีปัญหามาจากความไม่พร้อมของทักษะ แต่เกิดจากการไม่ยอมคุยกันหรือการที่คุยกันแล้วไม่ลงรอยกันมากกว่า แต่ไม่ว่าจะน่าหงุดหงิดเพียงใดก็ต้องยอมรับกว่าการร่วมทีมกับเพื่อนอีก 4 คนเพื่อคว้าชัยชนะก็เป็นเรื่องที่มีความสุขและสนุกมาก ๆ อยู่ดี

 

          ไม่ว่าคุณจะเล่นเก่งหรือไม่ แต่ถ้าคุณมีความตั้งใจที่ชัดเจนใน Role หรือหน้าที่ของตัวเองแล้วล่ะก็คุณก็จะรู้ตัวเองได้อย่างชัดเจนว่าทำอย่างไรจึงจะสามารถเติมเต็มเงื่อนไขเหล่านั้นได้ และการที่เพื่อนร่วมทีมแต่ละคนมองเห็น-เข้าใจบทบาทของตัวเองในทีม เวลาทีที่เติมเต็มซึ่งกันและกันได้มันเป็นความสุขในอีกรูปแบบหนึ่งที่เกิดขึ้นได้รวดเร็ว และจับต้องได้ แตกต่างจากการทำงานเป็นทีมในบริษัทหรือการเรียนที่มีความเคร่งเครียดและมีผลกระทบสูง ทั้งยังต้องใช้เวลานานกว่าจะผลิดอกออกผล ลองคิดดูสิครับว่าถ้าคุณเป็นคนเขียนบทความแล้วตลอดสองเดือนที่คุณตีพิมพ์บทความห้าหกฉบับแล้วมีคนอ่านครั้งละไม่ต่ำกว่า 10,000 คนต่อบทความ บริษัทจะเพิ่มเงินเดือนให้คุณทันทีไหม? สุดท้ายก็ไปขึ้นเงินปลายปีอยู่ดีและอาจเป็นอัตราแบบถัวเฉลี่ยทั้งปีอีกด้วย

 

          ดังนั้นอย่าได้แปลกใจที่ใคร ๆ ก็ชอบเล่น MOBA เพราะมันเป็นการทำงานเป็นทีมที่เห็นผลลัพธ์ได้เร็ว สร้างความภูมิใจและความรู้สึกของความสำเร็จที่อยู่เหนือคนอื่นได้ง่าย เกมที่นานอย่างมากส่วนใหญ่ก็จะไม่เกิน 1 ชั่วโมง และเกมที่มีระบบยอมแพ้ก็จะจบได้ไวมาก ๆ เช่นกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการแข่งแบบจัดอันดับที่จะมีรางวัลพิเศษให้สามารถโชว์ให้คนอื่นเห็นได้ว่าตัวเองนั้นมีความเก่งในระดับใด

          นอกเหนือจากระบบการเล่นที่สร้างความสนุกแล้ว MOBA ส่วนใหญ่ยังเพิ่มสีสันให้กับเกมด้วยการ ‘ขาย’ ชุดหรือ Skin ไปจนถึงอุปกรณ์เสริมเพื่อการแต่งตัวต่าง ๆ มีทั้งรุ่น Limited สำหรับเทศกาลและรุ่นสำหรับผู้ชนะในการแข่งขันจัดอันดับแต่ละฤดูกาลด้วย โดยเกมส่วนใหญ่จะเน้นไปที่รูปร่างที่แตกต่างจากโมเดลมาตรฐาน รวมถึงความสวยงามของท่าที่ใช้ แต่ส่วนใหญ่สิ่งเหล่านี้จะไม่มีผลต่อค่าสถานะในเกม หรืออาจจะบอกว่ามีไว้อวดรวยทางหนึ่งก็ได้

 

          แต่การหารายได้ของเหล่าผู้พัฒนา MOBA นั้นไม่ได้มาจากการขายดิจิทัลคอนเทนต์หรืออุปกรณ์เสริมเพียงอย่างเดียว ยังเปิดขาย Merchandise ต่าง ๆ สำหรับแฟน ๆ ที่ชื่นชอบในตัวเกม รวมถึงการจัดอีเวนท์แบบ Onsite Event เช่น งานแข่งขัน งานเปิดตัวต่าง ๆ ซึ่งอาจมีแจกรางวัล Limited ให้กับผู้เข้าร่วมงาน ทำให้ผู้เข้าร่วมงานมีจำนวนมากและอาจขายสปอนเซอร์หรือ Merchandise เพื่อหาเงินเข้าบริษัทได้ด้วย ทำให้การเล่นเกม MOBA ที่ต้องมีการพัฒนาและอัพเดทข้อมูลตลอดเวลา จนถึงต้นทุนการดูแลเซิร์ฟเวอร์จำนวนมากสามารถเปิดบริการให้ผู้เล่นสามารถสนุกสนานได้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย เรียกได้ว่าเก็บค่าใช้จ่ายจากความพึงพอใจของผู้เล่นมากกว่าการบังคับจ่ายแรกเข้าเพื่อร่วมสนุก

          อย่าแปลกใจที่เวลาเห็นคนเล่น MOBA แล้วเกิดอาการหมั่นไส้ หงุดหงิด หรือบางคนออกอาการสะใจออกนอกหน้า อากานเหล่านี้เกิดขึ้นได้ทั่วไปในการเล่นรวมกันกับคนหมู่มาก ถ้าใครยังไม่รู้ว่าความรู้สึกนั้นเป็นอย่างไรลองหา MOBA มาเล่นได้ครับ ส่วนใหญ่เป็นเกม Free to Play ที่แค่ลงทะเบียนก็เล่นได้ไม่มีค่าแรกเข้าหรือค่าซื้อซอฟต์แวร์ แต่จะไปหนักกับค่าตกแต่งตัวละครหรือของเสริมแทน ซึ่งสิ่งนี้ทุกคนเลือกเองได้ว่าจะจ่ายหรือไม่ ในขณะที่บางเกมอาจมีลักษณะของ Pay to Win อยู่บ้างแต่อาจจะไม่เข้มข้นนักก็ขอให้ดูลักษณะของแต่ละเกมเอาไว้

 

          ถ้าใครมี PC ก็ขอแนะนำเกมอย่าง DOTA 2, League of Legends และ Heroes of the Storm มาลองเล่นกันดู ถ้าใครสายสมาร์ทโฟน สาย Mobile ไม่ว่า Android หรือ iOS ก็ขอแนะนำ ROV กับ Pokemon Unite ที่เพิ่งเปิดตัวกันไปไม่กี่วันมานี้ดูครับ และไม่ต้องกังวลนะครับว่าจะเล่นไม่เป็น ไม่เข้าใจ เกมส่วนใหญ่นั้นมีระบบ Tutorial หรือระบบฝึกสอนสำหรับการเล่นครั้งแรกอยู่ครับ ในกรณีที่ใครกลัวว่าเพิ่งเล่นเกมจะไปเจอขาใหญ่กลั่นแกล้งจนเล่นไม่สนุก ก็ขอให้รู้ไว้ว่าระบบจับคู่หรือ Match Making ของแต่ละค่ายนั้นจะมีระบบจับคู่เฉพาะตัวครับโดยหลายค่ายมักจะจับให้คนที่มีสถิติการเล่นใกล้เคียงกันได้เล่นด้วยกัน หรืออย่างน้อยก็ถัวเฉลี่ยผู้เล่นที่มีประสบการณ์ให้กับทั้ง 2 ฝ่าย ก็ขอให้สบายใจและลองสนุกไปกับ MOBA ได้ครับ

 

ทศธิป สูนย์สาทร

ผู้หลงใหลในเสียงดนตรี ความงาม และเทคโนโลยี 

--------------------

Ref:

• https://www.hp.com/us-en/shop/tech-takes/moba-vs-battle-royale-games
• https://dotesports.com/news/what-is-a-moba
• https://plarium.com/en/blog/moba-games-guide/
• https://venturebeat.com/2014/09/01/the-history-of-mobas-from-mod-to-sensation/
• https://www.eurogamer.net/articles/2011-08-16-the-story-of-dota-article