svasdssvasds
เนชั่นทีวี

เจาะประเด็นร้อน

"ทัพเรือ" ชี้เจอทุ่นระเบิดรถถังดัดแปลง 16 ลูก วางเป็นกับดัก หวังสังหารทหารไทย แถมเจอสมุดบันทึกภาษากัมพูชา

"ทัพเรือ" ชี้เจอทุ่นระเบิดรถถังดัดแปลง 16 ลูก วางเป็นกับดัก หวังสังหารทหารไทย แถมเจอสมุดบันทึกจดการใช้ทุ่นระเบิดภาษากัมพูชา หลังยึดพื้นที่บ้านสามหลัง ตราด

19 ธันวาคม 2569 พลเรือตรี ปารัช รัตนไชยพันธ์ โฆษกกองทัพเรือ ชี้แจงว่า ภายหลัง กองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด (กปช.จต.) ได้เข้าควบคุมและยึดคืนพื้นที่บริเวณ บ้านหนองรี ซึ่งเดิมถูกใช้เป็นฐานที่มั่นทางทหารของฝ่ายกัมพูชา

 

ภายหลังการเข้าเคลียร์พื้นที่ได้ตรวจพบคลังเก็บทุ่นระเบิดสังหารบุคคลที่ถูกดัดแปลงจากทุ่นระเบิดดักรถถัง 16 ลูก ที่พร้อมใช้งาน ซึ่งถือว่าการกระทำที่มีลักษณะจงใจสร้างอันตรายโดยไม่เลือกเป้าหมาย และเป็นภัยคุกคามร้ายแรงต่อทั้งกำลังพลและพลเรือน 

 

"ทัพเรือ" ชี้เจอทุ่นระเบิดรถถังดัดแปลง 16 ลูก วางเป็นกับดัก หวังสังหารทหารไทย แถมเจอสมุดบันทึกภาษากัมพูชา

 

"ทัพเรือ" ชี้เจอทุ่นระเบิดรถถังดัดแปลง 16 ลูก วางเป็นกับดัก หวังสังหารทหารไทย แถมเจอสมุดบันทึกภาษากัมพูชา

 

"ทัพเรือ" ชี้เจอทุ่นระเบิดรถถังดัดแปลง 16 ลูก วางเป็นกับดัก หวังสังหารทหารไทย แถมเจอสมุดบันทึกภาษากัมพูชา

 

"ทัพเรือ" ชี้เจอทุ่นระเบิดรถถังดัดแปลง 16 ลูก วางเป็นกับดัก หวังสังหารทหารไทย แถมเจอสมุดบันทึกภาษากัมพูชา

 

 

 

 

 

 

นอกจากนี้ จากการตรวจยึดและตรวจสอบพื้นที่ฐานพลุ๊กดรัมเรย (บ้านสามหลัง)

เจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยยังได้ตรวจพบเอกสารทางทหารของฝ่ายกัมพูชา เป็นเอกสารการจดบันทึกของผู้เข้ารับการฝึกใช้งานทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ชนิด PMN-2 โดยมีเนื้อหาครอบคลุมถึงลักษณะทั่วไปของทุ่นระเบิด การวาง และการเก็บกู้ ซึ่งมีการระบุวันที่จัดการสอน เมื่อ 7 ตุลาคม 2567 อีกด้วย 

 

 

"ทัพเรือ" ชี้เจอทุ่นระเบิดรถถังดัดแปลง 16 ลูก วางเป็นกับดัก หวังสังหารทหารไทย แถมเจอสมุดบันทึกภาษากัมพูชา

 

"ทัพเรือ" ชี้เจอทุ่นระเบิดรถถังดัดแปลง 16 ลูก วางเป็นกับดัก หวังสังหารทหารไทย แถมเจอสมุดบันทึกภาษากัมพูชา

 

 

 

เอกสารดังกล่าวถือเป็นพยานหลักฐานที่ชัดเจน แสดงให้เห็นว่าฝ่ายกัมพูชามีการอบรม ให้ทหารกัมพูชาใช้งานทุ่นระเบิดสังหารบุคคลชนิด PMN-2 อย่างเป็นระบบและต่อเนื่อง มิใช่การกระทำโดยบังเอิญหรือเฉพาะหน้า

และสะท้อนถึงเจตนาในการใช้  “สงครามทุ่นระเบิดสังหารบุคคล” ต่อฝ่ายไทย ซึ่งยิ่งตอกย้ำถึงการละเมิดกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศอย่างชัดเจน

 

 

กองทัพเรือ ขอเน้นย้ำว่า การกระทำดังกล่าวของฝ่ายกัมพูชา เป็นการละเมิดกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศอย่างร้ายแรง โดยขัดต่อพันธกรณีระหว่างประเทศหลายประการ อาทิ

• อนุสัญญาออตตาวา ค.ศ.1997 ซึ่งกำหนดห้ามการใช้ ผลิต หรือครอบครองทุ่นระเบิดสังหารบุคคล
• พิธีสารเพิ่มเติม ฉบับที่ 1 แห่งอนุสัญญาเจนีวา ที่บัญญัติหลักการแยกแยะระหว่างเป้าหมายทางทหารกับพลเรือน และห้ามใช้อาวุธหรือวิธีการรบที่มีลักษณะไม่สามารถจำกัดผลกระทบต่อเป้าหมายทางทหารได้

โฆษกกองทัพเรือ กล่าวเพิ่มเติมว่า การใช้ ครอบครอง รวมถึงดัดแปลงทุ่นระเบิดสังหารบุคคลดังกล่าว และเจตนาในการใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคลชนิด PMN-2 ไม่เพียงเป็นการฝ่าฝืนพันธกรณีตามกฎหมายสากลเท่านั้น หากแต่ยังสะท้อนถึงการไม่เคารพหลักมนุษยธรรมขั้นพื้นฐาน

กองทัพเรือ ขอประณามการกระทำของฝ่ายกัมพูชาอย่างถึงที่สุด และขอเรียกร้องให้ฝ่ายกัมพูชายุติการกระทำที่ละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศโดยทันที พร้อมทั้งแสดงความรับผิดชอบต่อผลกระทบที่เกิดขึ้นต่อความปลอดภัยของประชาชนและเสถียรภาพในพื้นที่ชายแดน

ทั้งนี้ ฝ่ายไทยขอยืนยันว่าจะดำเนินการปกป้องอธิปไตย ความมั่นคงของรัฐ และความปลอดภัยของประชาชน ภายใต้กรอบกฎหมายระหว่างประเทศและหลักมนุษยธรรมอย่างเคร่งครัด