
KEY
POINTS
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เตรียมลงสนามในศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ นัดวันจันทร์ ด้วยโอกาสสำคัญในการบุกเก็บชัยชนะเหนือ วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส ทีมอันดับสุดท้ายที่กำลังเผชิญกับฟอร์มที่ย่ำแย่ที่สุดในประวัติศาสตร์สโมสร โดย "ปีศาจแดง" หวังที่จะสานต่อสถิติไม่แพ้ใครนอกบ้านในลีกเป็นนัดที่ 5 ติดต่อกัน
ในฝั่งของเจ้าถิ่น บรรยากาศใน โมลินิวซ์ แทบไม่มีใครคาดหวัง “ปาฏิหาริย์” ซ้ำรอยเมื่อ 14 ปีก่อน เพราะทีมของ ร็อบ เอ็ดเวิร์ดส์ กำลังอยู่ในเส้นทางที่จะถูกจารึกว่าเป็นหนึ่งในทีมที่แย่ที่สุดในยุคพรีเมียร์ลีก
วูล์ฟส์เก็บได้เพียง 2 คะแนนจาก 14 เกม ถ้าทิศทางยังเป็นแบบนี้ พวกเขาจะทำลายสถิติคะแนนน้อยที่สุดของ ดาร์บี้ เคาน์ตี้ (11 คะแนน ฤดูกาล 2007–08) อย่างสบาย
เกมล่าสุดพวกเขาพ่ายคาบ้านต่อ น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ 0-1 จากประตูของ อิกอร์ เชซุส ทำให้ทีมจมอยู่อันดับสุดท้ายห่างโซนปลอดภัยถึง 12 คะแนน แถมแพ้รวด 7 นัดในลีก และยิงประตูไม่ได้มา 5 เกมติด เป็นสถิติย่ำแย่ที่สุดในประวัติศาสตร์สโมสร
สิ่งปลอบใจเพียงเล็กน้อยคือ วูล์ฟส์เคยชนะยูไนเต็ดถึง 2 ครั้งในฤดูกาลก่อน แต่ “ปีศาจแดง” ไม่เคยแพ้เกมลีกเยือนที่โมลินิวซ์ 2 นัดติดมาตั้งแต่ 45 ปีก่อน
แม้ ยูไนเต็ด ยุค รูเบน อโมริม จะมีช่วงเวลาที่ดูเหมือนกำลังฟื้นตัว แต่ผลการแข่งขันกลับเหวี่ยงขึ้นลงอย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่ความพ่ายแพ้ต่อ เอฟเวอร์ตัน ที่เหลือผู้เล่นเพียง 10 คน ไปจนถึงเกมล่าสุดที่ทำได้แค่เสมอ เวสต์แฮม 1-1 จากประตูท้ายเกมของ ซงกูตู มากัสซา ที่ดับความหวังในชัยชนะของลูกยิงสุดสวยจาก ดีโอโก ดาโลต์
ฟอร์มไร้ความกระตือรือร้นของยูไนเต็ดทำให้ รอย คีน ออกมาวิจารณ์อย่างดุเดือด และเมื่อสิ้นสุดเกมสัปดาห์ที่ 14 พวกเขาหยุดอยู่เพียงอันดับ 8 ก่อนจะหล่นไปครึ่งล่างของตารางแล้วในเวลานี้
อย่างไรก็ตาม ฟอร์มเกมเยือนกลับอยู่ในมาตรฐานที่ดีกว่าอย่างเห็นได้ชัด ยูไนเต็ดบุกชนะทั้ง ลิเวอร์พูล และ คริสตัล พาเลซ รวมถึงเสมอ ฟอเรสต์ และ สเปอร์ส ถือเป็นสัญญาณบวกในช่วงหลัง
สถิติเก่ายังชี้ว่า ยูไนเต็ด แพ้ทีมที่อยู่บ๊วยของลีกเพียง 8 ครั้งในประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีก แต่ 2 จากนั้นเกิดขึ้นกับวูล์ฟส์ โดยครั้งล่าสุดต้องย้อนกลับไปปี 2011
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
วูล์ฟแฮมป์ตัน