
KEY
POINTS
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทำลายอาถรรพ์ที่สนามแอนฟิลด์ลงได้สำเร็จ หลังบุกไปเอาชนะคู่ปรับตลอดกาลและแชมป์เก่าอย่าง ลิเวอร์พูล ด้วยสกอร์ 2-1 ในศึก "แดงเดือด" เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (ตามเวลาท้องถิ่น) ถือเป็นชัยชนะครั้งแรกของ "ปีศาจแดง" ที่แอนฟิลด์ในรอบ 9 ปี หรือนับตั้งแต่ปี 2016
ประตูชัยของ แมนยูฯ มาจากลูกโหม่งของ แฮร์รี แม็กไกวร์ ในนาทีที่ 84 ซึ่งเป็นประตูที่ส่งผลให้ ลิเวอร์พูล พ่ายแพ้ 4 นัดติดต่อกันในทุกรายการ ซึ่งนับเป็นสถิติการแพ้ติดต่อกันที่ย่ำแย่ที่สุดของสโมสรนับตั้งแต่ปี 2014
เกมนี้ ไบรอัน เอ็มเบอโม่ ยิงให้ แมนยูฯ ขึ้นนำเร็วตั้งแต่นาทีที่ 2 ก่อนที่ โคดี้ กัคโป จะมายิงตีเสมอในนาทีที่ 78 แต่ แม็กไกวร์ ก็มาทำประตูชัยในช่วงท้ายเกม ทำให้ชัยชนะครั้งนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อ รูเบน อโมริม กุนซือชาวโปรตุเกส ที่คุมทีมเก็บชัยชนะในลีกได้ 2 นัดติดต่อกันเป็นครั้งแรก
นี่มีความหมายทุกอย่าง พวกเขาเหนือกว่าเรามาหลายปี ชัยชนะนี้มีความหมายมากกว่าแค่ 3 คะแนนสำหรับสโมสรและแฟนบอล" แม็กไกวร์ กล่าวหลังจบเกม
ความพ่ายแพ้ครั้งนี้ของ ลิเวอร์พูล ยังคงตอกย้ำเทรนด์น่าปวดหัวของทีม โดยนี่เป็นเกมลีกนัดที่สามติดต่อกันแล้วที่พวกเขาแพ้ด้วยประตูที่เกิดขึ้นในช่วง 10 นาทีสุดท้ายหรือช่วงทดเวลาบาดเจ็บ ซึ่งทำให้ช่องว่างระหว่างพวกเขากับจ่าฝูง อาร์เซนอล ห่างออกไปเป็น 4 คะแนน
อาร์เน่อ ชล็อต กุนซือลิเวอร์พูล ออกมายอมรับว่าทีมของเขาสร้างโอกาสทำประตูได้มากแต่เปลี่ยนเป็นสกอร์ไม่ได้เอง พร้อมตำหนิลูกทีมที่ไม่สามารถรับมือกับสถานการณ์ที่ อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ ล้มลงจากการบาดเจ็บที่ศีรษะได้ดีพอ (ในช่วงที่เสียประตูแรก) โดย กัคโป มีโอกาสตีเสมอถึง 3 ครั้ง แต่ยิงชนเสาไปทั้งหมด
อีกหนึ่งคู่บิ๊กแมตช์ที่น่าสนใจ แอสตัน วิลล่า ยังคงโชว์ฟอร์มแกร่งหลังออกสตาร์ทฤดูกาลได้ย่ำแย่ โดยพลิกกลับมาเอาชนะ ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ 2-1 ถึงถิ่น ด้วยประตูชัยจากลูกยิงสุดสวยของ เอมิเลียโน่ บวนเดีย ในนาทีที่ 77
ชัยชนะดังกล่าวถือเป็นชัยชนะนัดที่ 5 ติดต่อกันของ แอสตัน วิลล่า ในทุกรายการ และเป็นการหยุดสถิติไม่แพ้ใคร 7 นัดติดต่อกันของ สเปอร์ส
ตารางคะแนนพรีเมียร์ลีกหลังผ่านไป 8 นัดปรากฏว่า อาร์เซนอล ยังคงนำเป็นจ่าฝูงด้วย 19 คะแนน ตามมาด้วย แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่มี 16 คะแนน และ บอร์นมัธ ที่มี 15 คะแนน (ประตูได้เสียดีกว่าลิเวอร์พูล) ส่วนแชมป์เก่า ลิเวอร์พูล ร่วงลงมาอยู่อันดับ 4 มี 15 คะแนนเท่ากัน
ด้านทีมที่ทำผลงานน่าผิดหวังยังคงเป็นกลุ่มท้ายตาราง โดย วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส จมบ๊วยมีเพียง 2 คะแนน ขณะที่ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด และ น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ (ที่เพิ่งปลดกุนซือ) อยู่ในโซนตกชั้น มี 4 และ 5 คะแนนตามลำดับ