
KEY
POINTS
การแข่งขันฟุตบอล ฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือก โซนยุโรป กลับมาฟาดแข้งกันอีกครั้งเมื่อคืนวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา โดยมีผลการแข่งขันที่ออกมาอย่างถล่มทลายหลายคู่ และสถานการณ์ลุ้นเข้ารอบที่เข้มข้น
ออสเตรีย โชว์ฟอร์มสุดโหดด้วยการเปิดบ้านถล่ม ซาน มาริโน ทีมที่มีอันดับโลกต่ำที่สุดใน ฟีฟ่า ไปด้วยสกอร์ 10-0 คว้าชัยชนะ 5 นัดติดต่อกันในรอบคัดเลือก โดยไฮไลท์อยู่ที่ มาร์โก อาร์เนาโตวิช กองหน้าวัย 36 ปี ที่ซัดไปถึง 4 ประตู ทำให้เขากลายเป็น ดาวยิงสูงสุดตลอดกาลของทีมชาติออสเตรีย ด้วยสถิติ 45 ประตู
จากผลดังกล่าว ทำให้ ออสเตรีย เปิดช่องว่างนำจ่าฝูงกลุ่ม H ห่างจาก บอสเนีย-เฮอร์เซโกวีนา อยู่ 2 คะแนน และมีเกมในมือมากกว่า 1 นัด
โครเอเชีย รองแชมป์โลก 2018 ทำได้เพียงบุกไปเสมอกับคู่แข่งสำคัญอย่าง สาธารณรัฐเช็ก 0-0 ทำให้ โครเอเชีย ยังคงนำเป็นจ่าฝูงในกลุ่ม แม้จะมีคะแนนเท่ากัน แต่มีผลต่างประตูได้เสียที่ดีกว่าและมีเกมในมือเหลืออยู่
โครเอเชียต้องการชัยชนะใน 3 นัดที่เหลือ (พบ ยิบรอลตาร์, หมู่เกาะแฟโร และ มอนเตเนโกร) เพื่อการันตีตั๋วไป ฟุตบอลโลก รอบสุดท้าย
ในเกมอุ่นเครื่อง อังกฤษ เอาชนะ เวลส์ ไปได้ 3-0 จากประตูใน 20 นาทีแรกของ มอร์แกน โรเจอร์ส, โอลลี่ วัตกิ้นส์ และ บูคาโย ซาก้า โดยเกมนี้ โค้ช โธมัส ทูเคิล เลือกที่จะไม่เรียกตัวกัปตันทีม แฮร์รี เคน ที่บาดเจ็บ และสตาร์ดังอย่าง จู๊ด เบลลิงแฮม แม้จะกลับมาฟิตแล้วก็ตาม
อย่างไรก็ตาม ทูเคิล ได้แสดงความไม่พอใจอย่างเปิดเผยต่อบรรยากาศในสนามเวมบลีย์
"เรายิงประตูที่สี่หรือที่ห้าไม่ได้ — สนามมันเงียบสนิท" กุนซือชาวเยอรมันกล่าว "เราไม่ได้รับพลังงานกลับมาจากแฟนบอลเลย และผมคิดว่าผู้เล่นทำผลงานได้ดีพอที่จะได้รับสิ่งนั้นจากอัฒจันทร์มากกว่านี้"
ทั้งนี้ อังกฤษจะกลับมาลงเล่นในรอบคัดเลือกสัปดาห์หน้า ซึ่งมีโอกาสสูงที่จะคว้าตั๋วไปฟุตบอลโลก 2026 ได้ทันที หากเอาชนะ ลัตเวียได้