พรีวิวพรีเมียร์ลีก: นิวคาสเซิล vs ลิเวอร์พูล ศึกดวลแข้งที่เต็มไปด้วยเรื่องราวเบื้องหลัง
นิวคาสเซิล เตรียมเปิดบ้านรับการมาเยือนของลิเวอร์พูลในศึกพรีเมียร์ลีกคืนวันจันทร์นี้ ซึ่งเป็นเกมที่น่าจับตาเป็นอย่างยิ่ง ท่ามกลางข่าวลือการย้ายทีมของ อเล็กซานเดอร์ อิซัค ที่อาจย้ายไปอยู่กับคู่แข่งในอนาคตอันใกล้นี้
KEY
POINTS
- ประเด็นสำคัญก่อนเกมคือความขัดแย้งเรื่องการย้ายทีมของ อเล็กซานเดอร์ อิซัค กองหน้านิวคาสเซิลที่มีข่าวกับลิเวอร์พูล ทำให้เขาจะไม่ได้ลงสนามในนัดนี้
- นิวคาสเซิลมีสถิติยอดเยี่ยมในบ้านแต่เกมรุกฝืด สวนทางกับลิเวอร์พูลที่เกมรุกอันตรายแต่เกมรับยังมีปัญหา
- ลิเวอร์พูลมีสถิติข่มนิวคาสเซิลในลีกอย่างชัดเจน โดยไม่แพ้มา 17 นัดติดต่อกัน และมีลุ้นทำสถิติยิงประตูต่อเนื่องสูงสุดของสโมสร
ควันหลงจากตลาดซื้อขายนักเตะยังคงคุกรุ่น ก่อนที่การแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีก นัดที่ 2 จะปิดท้ายด้วยคู่บิ๊กแมตช์ระหว่าง นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด และ ลิเวอร์พูล ซึ่งเต็มไปด้วยเรื่องราวที่น่าสนใจ โดยเฉพาะประเด็นของ อเล็กซานเดอร์ อิซัค กองหน้าทีมชาติสวีเดนที่ตกเป็นข่าวอย่างหนักกับลิเวอร์พูล
อิซัคได้ออกมากล่าวหาต้นสังกัดปัจจุบันอย่างนิวคาสเซิลว่าไม่รักษาคำพูดในข้อตกลงที่อนุญาตให้เขาย้ายทีมได้ในช่วงซัมเมอร์นี้ ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองฝ่ายเริ่มตึงเครียดมากขึ้น ในขณะที่ทางนิวคาสเซิลยืนยันว่าไม่มีการทำข้อตกลงดังกล่าวเกิดขึ้นแต่อย่างใด
ฟอร์มล่าสุดของทั้งสองทีม
นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด ภายใต้การคุมทีมของ เอ็ดดี้ ฮาว ยังคงมีปัญหาในเกมรุก โดยทำประตูไม่ได้ในเกมนัดแรกที่เสมอกับแอสตัน วิลล่า 0-0 ซึ่งรวมถึงช่วงท้ายฤดูกาลที่ผ่านมาแล้ว พวกเขายิงประตูไม่ได้มาแล้ว 3 นัดติดต่อกัน อย่างไรก็ตาม นิวคาสเซิลมีสถิติที่ยอดเยี่ยมในการเล่นในบ้าน โดยคว้าชัยชนะได้ถึง 6 จาก 7 เกมหลังสุดที่เซนต์เจมส์พาร์ค
ด้าน ลิเวอร์พูล ประเดิมฤดูกาลใหม่ด้วยชัยชนะสุดระทึกเหนือ บอร์นมัธ 4-2 แม้จะยังคงมีจุดอ่อนในเกมรับที่เห็นได้ชัด แต่เกมรุกของทีมภายใต้การนำของ อาร์เน่อ ชล็อต ก็ยังคงเฉียบคม โดยเฉพาะการทำประตูของ เฟเดริโก เคียซ่า และ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ที่ทำให้ทีมคว้าชัยชนะได้สำเร็จ
หากลิเวอร์พูลสามารถทำประตูได้ในเกมนี้ พวกเขาจะทำสถิติยิงประตูในพรีเมียร์ลีกได้อย่างต่อเนื่องเป็นนัดที่ 36 ซึ่งเป็นสถิติสูงสุดตลอดกาลของสโมสรที่เคยทำไว้ระหว่างปี 2019-2020
อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่านิวคาสเซิลจะเป็นฝ่ายเอาชนะลิเวอร์พูลในรอบชิงชนะเลิศ คาราบาว คัพ เมื่อฤดูกาลที่แล้ว แต่ในพรีเมียร์ลีกลิเวอร์พูลมีสถิติที่ดีกว่า โดยไม่แพ้นิวคาสเซิลเลยตลอด 17 นัดหลังสุด
ความพร้อมของนักเตะ
นิวคาสเซิลยังคงไม่มี อเล็กซานเดอร์ อิซัค ที่ไม่ถูกส่งชื่อลงสนามจากปัญหาเรื่องการย้ายทีม แต่พวกเขาอาจจะได้ โจ วิลล็อค กองกลางที่ได้รับบาดเจ็บกลับมาลงสนามในเกมนี้ ขณะที่ จาค็อบ แรมซีย์ นักเตะคนใหม่จากแอสตัน วิลล่า ก็อาจได้ประเดิมสนามเช่นกัน
ด้านลิเวอร์พูลมีปัญหาในแนวรับ เนื่องจากขาด เจเรมี่ ฟริมปง ที่มีอาการบาดเจ็บกล้ามเนื้อต้นขา โดย อาร์เน่อ ชล็อต อาจต้องส่ง โดมินิค โซโบซไล ลงเล่นในตำแหน่งแบ็คขวาแทน และจะได้ ไรอัน กราเฟนแบร์ค กองกลางชาวเนเธอร์แลนด์ที่พ้นโทษแบนกลับมาลงสนามในเกมนี้
สำหรับ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ มีสถิติที่ยอดเยี่ยมในการลงเล่นเจอนิวคาสเซิล โดยทำไปแล้ว 10 ประตูกับอีก 8 แอสซิสต์ในพรีเมียร์ลีก
คาดการณ์ผู้เล่นตัวจริง
- นิวคาสเซิ่ล (4-3-3) : นิค โป๊ป - คีแรน ทริปเปียร์, ฟาเบียน แชร์, แดน เบิร์น, ติโน่ ลิฟราเมนโต้ - บรูโน่ กิมาไรส์, ซานโดร โตนาลี่, โชลินตอน - แอนโธนี่ เอลังก้า, แอนโธนี่ กอร์ดอน, ฮาร์วี่ย์ บาร์นส์
- ลิเวอร์พูล (4-2-3-1) : อลีสซง เบ็คเกอร์ - โดมินิค โซโบซไล, อิบราฮิมา โกนาเต้, เฟอร์จิล ฟาน ไดค์, มิลอช เคอร์เคซ - ไรอัน กราเฟนแบร์ค, อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ - โมฮาเหม็ด ซาลาห์, โฟลเรียน เวียร์ตซ์, โคดี้ กัคโป - อูโก้ เอกิติเก้