svasdssvasds
เนชั่นทีวี

กีฬา

โชคชะตาพลิกผัน: มาร์คัส แรชฟอร์ด จาก "ส่วนเกินผีแดง" สู่แนวรุกคนใหม่ของ "เจ้าบุญทุ่ม"

บทความวิเคราะห์การย้ายทีมของ มาร์คัส แรชฟอร์ด จากส่วนเกินของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สู่แนวรุกคนใหม่ของบาร์เซโลนา และเหตุผลที่แชมป์สเปนเชื่อมั่นในศักยภาพของเขา

เส้นทางอาชีพของ มาร์คัส แรชฟอร์ด กองหน้าทีมชาติอังกฤษ กำลังเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ จากผู้เล่นที่ถูกมองว่า “หมดอนาคต” กับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทีมอันดับ 15 ในพรีเมียร์ลีกเมื่อฤดูกาลที่แล้ว เขากำลังจะได้เริ่มต้นบทบาทใหม่ในฐานะแนวรุกคนสำคัญของบาร์เซโลนา แชมป์ลาลีก้าสเปน หลังจากย้ายไปร่วมทีมด้วยสัญญายืมตัวพร้อมพ่วงออปชั่นซื้อขาด

การย้ายทีมครั้งนี้ไม่ใช่เรื่องน่าประหลาดใจสำหรับหลายฝ่าย เนื่องจากมีรายงานว่าแรชฟอร์ดใฝ่ฝันที่จะย้ายไปเล่นกับยักษ์ใหญ่แห่งแคว้นคาตาลันมานานแล้ว และเมื่อเดือนที่ผ่านมา เขาก็เพิ่งแสดงความปรารถนาที่จะลงเล่นเคียงข้างกับดาวรุ่งพุ่งแรงอย่าง ลามีน ยามาล เช่นกัน ขณะที่ฝั่งบาร์เซโลนาก็ไม่เคยปิดบังความสนใจในตัวกองหน้าวัย 27 ปีรายนี้ โดย เดโก้ ผู้อำนวยการกีฬาของทีม ยอมรับเมื่อเดือนพฤษภาคมว่าพวกเขา "ชอบ" แรชฟอร์ด และเชื่อว่าเขาอาจ "ช่วยให้ทีมดีขึ้นได้"

---

คำถามจากแฟนบอล: ทำไมบาร์ซ่าถึงต้องการ?

สิ่งที่หลายคนตั้งคำถามคือ หากแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ซึ่งจบเพียงอันดับที่ 15 ในพรีเมียร์ลีกเมื่อฤดูกาลที่แล้ว ยังมองว่า "ไม่ต้องการแรชฟอร์ด" แล้วทำไมบาร์เซโลนา แชมป์ลาลีก้าถึงต้องการตัวเขา?

เพราะบาร์เซโลนาไม่ได้มีปัญหาเรื่องการทำประตูในฤดูกาลที่ผ่านมา โดยยิงไปถึง 102 ประตูในเส้นทางสู่แชมป์ลีก และยังทำได้ 43 ประตูในการเข้าถึงรอบรองชนะเลิศแชมเปี้ยนส์ลีก ฤดูกาล 2024-25 หากจะมีจุดอ่อน ทีมดูจะมีปัญหาในแนวรับมากกว่าแนวรุก

อย่างไรก็ตาม แอนดี้ เวสต์ ผู้สื่อข่าวสายฟุตบอลสเปน ชี้ว่า "การเสริมแนวรุกด้านซ้ายเป็นสิ่งสำคัญอันดับแรกของบาร์เซโลนาตลอดช่วงซัมเมอร์นี้" แต่ด้วยความล้มเหลวในการคว้าตัว นิโก้ วิลเลียมส์ และ หลุยส์ ดิอาซ ทำให้บาร์ซ่าหันมาสนใจแรชฟอร์ด ซึ่งข้อตกลงในรูปแบบการยืมตัวพร้อมออปชั่นซื้อขาดนี้ ถือเป็นข้อได้เปรียบของบาร์ซ่าที่ยังคงมีปัญหาด้านการเงินอยู่ เนื่องจากหากเป็นการยืมตัว โอกาสขาดทุนของสโมสรแทบจะไม่มีเลย

โชคชะตาพลิกผัน: มาร์คัส แรชฟอร์ด จาก "ส่วนเกินผีแดง" สู่แนวรุกคนใหม่ของ "เจ้าบุญทุ่ม"

ความหลากหลาย: จุดเด่นที่บาร์ซ่ามองหา

แม้ตำแหน่งที่ดีที่สุดของแรชฟอร์ดจะยังคงเป็นที่ถกเถียงกันในวงกว้าง ว่าตอนนี้เขาเป็นปีกซ้ายหรือกองหน้าตัวเป้ากันแน่ แต่ความสามารถในการเล่นได้ทั้งสองตำแหน่งนี้เป็นปัจจัยสำคัญที่ดึงดูดบาร์เซโลนา โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ กองหน้าตัวเก๋าซึ่งจะอายุครบ 37 ปีในเดือนหน้า คงไม่สามารถลงสนามเป็นตัวจริงได้ทุกเกม ดังนั้นความสามารถของแรชฟอร์ดในการเล่นเป็นกองหน้าตัวเป้าหรือกองหน้าตัวหลอก (false 9) จึงเพิ่มความน่าสนใจอย่างยิ่ง

คาดการณ์ว่าโอกาสหลักของแรชฟอร์ดจะมาจากบทบาทปีกซ้าย ซึ่งเป็นตำแหน่งที่บาร์ซ่าประสบปัญหามาอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่ เนย์มาร์ ย้ายไปปารีส แซงต์-แชร์กแมง เมื่อ 8 ปีที่แล้ว โดยอาจขยับ ราฟินญ่า เข้ามาเล่นเกมรุกตรงกลางมากขึ้น แทนที่จะเล่นริมเส้นเหมือนซีซั่นก่อน

แรชฟอร์ดมีประสบการณ์มากมายในระดับสูงสุด และด้วยวัย 27 ปี เขายังมีช่วงเวลาที่ดีที่สุดในอาชีพการงานอีกหลายปีข้างหน้า

อย่างไรก็ตาม คำว่า "ศักยภาพ" และ "ทัศนคติ" มักถูกใช้ควบคู่ไปกับชื่อของแรชฟอร์ดอยู่เสมอ เพราะนับตั้งแต่ฤดูกาล 2022-23 เป็นต้นมา เขาก็ยังไม่สามารถทำประตูถึง 20 ลูกในหนึ่งฤดูกาลได้เลยด้วยฟอร์มที่ไม่สม่ำเสมอของเขาเอง

...

บาร์เซโลนารู้ดีว่าการเซ็นสัญญาครั้งนี้มีความเสี่ยงอยู่บ้าง แต่พวกเขาก็เชื่อมั่นว่า หากแรชฟอร์ดสามารถกลับมาทำผลงานได้ใกล้เคียงกับฟอร์มที่ดีที่สุดของเขา กองหน้าวัย 27 ปี (ซึ่งตามทฤษฎีกำลังเข้าสู่ช่วงพีคของอาชีพ) อาจกลายเป็นกำลังสำคัญอย่างแท้จริงทั้งในลาลีกาและเวทีแชมเปี้ยนส์ลีกก็เป็นได้