
ทีมชาติอาร์เจนตินา บุกชนะ ชิลี 1-0 ที่สนามเอสตาดิโอ นาซิอองนาล ในซานติอาโก โดยได้ประตูชัยจาก ฮูเลียน อัลวาเรซ ในนาทีที่ 16 จากการจ่ายของ ติอาโก อัลมาดา
แม้จะไม่มี ลิโอเนล เมสซี ใน 11 ตัวจริง แต่ "ฟ้าขาว" คุมเกมได้เหนือกว่า โดย เมสซี ถูกส่งลงสนามในนาทีที่ 57 และเกือบทำประตูจากลูกฟรีคิกช่วงท้ายเกม
ชัยชนะนัดนี้ทำให้อาร์เจนตินาเก็บเพิ่มเป็น 34 แต้ม ซิวแชมป์โซนอเมริกาใต้และการันตีตั๋วไปฟุตบอลโลก 2026 แน่นอนแล้ว ขณะที่ชิลีมีเพียง 10 แต้ม รั้งอันดับสุดท้ายร่วมกับเปรู และมีโอกาสสูงที่จะพลาดไปบอลโลกเป็นครั้งที่ 3 ติดต่อกัน
คาร์โล อันเชล็อตติ ประเดิมคุมทีมชาติบราซิลนัดแรกด้วยผลเสมอ 0-0 กับเอกวาดอร์ ที่สนามเอสตาดิโอ บังโก ปิชินชา ในกวายากิล
บราซิลครองบอลได้มากกว่า แต่เจาะแนวรับเจ้าถิ่นไม่เข้า โดยมีโอกาสจาก วินิซิอุส จูเนียร์ และ กาเซมิโร แต่ไม่สามารถเปลี่ยนเป็นประตูได้ ขณะที่เอกวาดอร์มีจังหวะสวนกลับที่อันตราย แต่ก็ไม่เฉียบคมพอ
ผลเสมอทำให้เอกวาดอร์มี 24 แต้ม รั้งอันดับ 2 ส่วนบราซิลมี 22 แต้ม อยู่อันดับ 4 โดยทั้งสองทีมยังอยู่ในโซนลุ้นเข้ารอบสุดท้ายฟุตบอลโลก 2026
ปารากวัย เปิดบ้านเอาชนะ อุรุกวัย 2-0 ที่สนามเดเฟนซอเรส เดล ชาโก ในอาซุนซิออง โดยได้ประตูจาก อดัม บาเรโร และ มิเกล อัลมิรอน
ชัยชนะนัดนี้ทำให้ปารากวัยเก็บเพิ่มเป็น 24 แต้ม ขยับขึ้นมาอยู่อันดับ 3 ของตาราง ขณะที่อุรุกวัยมี 21 แต้ม หล่นไปอยู่อันดับ 5 ต้องลุ้นหนักในนัดที่เหลือเพื่อคว้าตั๋วไปฟุตบอลโลก 2026
1. อาร์เจนตินา – 34 แต้ม (ผ่านเข้ารอบแล้ว)
2. เอกวาดอร์ – 24 แต้ม
3. ปารากวัย – 24 แต้ม
4. บราซิล – 22 แต้ม
5. อุรุกวัย – 21 แต้ม
6. โคลอมเบีย – 20 แต้ม
7. เวเนซุเอลา – 15 แต้ม
8. โบลิเวีย – 14 แต้ม
9. เปรู – 10 แต้ม
10. ชิลี – 10 แต้ม
การแข่งขันยังเหลืออีก 3 นัดสุดท้าย โดย 6 อันดับแรกจะได้สิทธิ์ไปฟุตบอลโลก 2026 อัตโนมัติ ส่วนอันดับ 7 จะได้สิทธิ์เพลย์ออฟ