svasdssvasds
เนชั่นทีวี

กีฬา

เก็บตก 5 ประเด็นหลังเกม "ลิเวอร์พูล-สปาร์ตา ปราก" ชัยชนะที่มาพร้อมความเสี่ยง

08 มีนาคม 2567
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

เก็บตก 5 ประเด็นที่น่าสนใจจากเกม ยูโรปา ลีก ที่ "ลิเวอร์พูล" ระเบิดฟอร์มบุกไปถล่ม "สปาร์ตา ปราก" ขาดลอย 5-1 โอกาสเข้ารอบสดใส

ฟุตบอล ยูฟ่า ยูโรปา ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย นัดแรก เมื่อคืนวันพฤหัสบดีที่ 7 มี.ค. 67 ที่ผ่านมา คู่เอก "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล เต็ง 1 ของถ้วยนี้ มีคิวบุกไปเยือน สปาร์ตา ปราก จ่าฝูงของลีกเช็ก

ซึ่งผลปรากฏว่าเป็นทางฝั่ง "หงส์แดง" ที่เก็บชัยชนะไปแบบขาดลอยถึง 5-1 โดยนำก่อน 3-0 ในครึ่งแรก จาก อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ (จุดโทษ) นาทีที่ 6, ดาร์วิน นูนเญซ ยิง 2 ประตูในนาทีที่ 25 และ 45+3 

ครึ่งหลัง แม้เจ้าถิ่นจะตีไข่แตกได้ตั้งแต่นาทีที่ 46 จากการทำเข้าประตูตัวเองของ คอเนอร์ แบรดลี่ย์ แต่ ลิเวอร์พูล ก็มาบวกเพิ่มอีก 2 ประตู จาก หลุยส์ ดิอาซ นาทีที่ 53 และ โดมินิค โซโบซไล นาทีที่ 90+4 ส่งผลให้โอกาสผ่านเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายสดใสอย่างยิ่ง

และนี่คือ 5 ประเด็นที่น่าสนใจจากเกมนี้

เก็บตก 5 ประเด็นหลังเกม \"ลิเวอร์พูล-สปาร์ตา ปราก\" ชัยชนะที่มาพร้อมความเสี่ยง

1. คล็อปป์ จัดทัพแบบน่าเซอร์ไพรส์
ก่อนเกมหลายฝ่ายคาดกันว่า เจอร์เก้น คล็อปป์ กุนซือลิเวอร์พูล น่าจะพักตัวหลักไว้บางส่วนเพื่อเก็บความสดไว้เจอกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในศึกพรีเมียร์ลีกวันอาทิตย์นี้ เนื่องจากเกมดังกล่าวมีความหมายต่อการลุ้นแชมป์ลีกอย่างยิ่ง

แต่ปรากฏว่า คล็อปป์ จัดผู้เล่นตัวหลักลงสนามเกือบทุกตำแหน่ง โดยมีเพียงกัปตันทีม เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ ที่ได้พักแค่คนเดียวเท่านั้น

ซึ่งสาเหตุที่จัดตัวผู้เล่นแบบนี้ก็สะท้อนออกมาตลอด 90 นาที ว่าเจ้าถิ่น สปาร์ตา ปราก มีความอันตรายอย่างยิ่งโดยเฉพาะเกมโต้กลับ ซึ่งก็ไม่แน่ว่าหาก คล็อป์ ตัดสินใจพักตัวหลักแล้วส่งตัวสำรองหรือดาวรุ่งลงสนาม ผลการแข่งขันอาจไม่ออกมาเป็นแบบนี้ก็ได้

และจากชัยชนะ 5-1 นี้ ก็ทำให้เกมนัดที่ 2 ที่แอนฟิลด์ในสัปดาห์หน้า คล็อปป์ จะสามารถพักผู้เล่นตัวหลักได้เต็มที่ เนื่องจากคงไม่พลาดท่าพ่าย สปาร์ตา ปราก คาบ้านด้วยผลต่างถึง 5 ลูกอย่างแน่นอน

เก็บตก 5 ประเด็นหลังเกม \"ลิเวอร์พูล-สปาร์ตา ปราก\" ชัยชนะที่มาพร้อมความเสี่ยง

2. ฮาร์วี่ย์ เอลเลียตต์ คีย์แมนฝ่าวิกฤต
มันคงเป็นไปไม่ได้ที่ลิเวอร์พูลจะคว้าชัยชนะได้อย่างต่อเนื่องใน 5 นัดหลังสุดท่ามกลางวิกฤตนักเตะบาดเจ็บนับสิบรายแบบนี้ หากไม่มี ฮาร์วี่ย์ เอลเลียตต์

ดาวเตะวัยรุ่นผู้นี้เป็นนักเตะจอมขยันที่ช่วยทีมทั้งรับและรุก วิ่งไล่เพรสซิ่งคู่แข่งแบบไม่มีหมด แถมยังมีทักษะทั้งยิงและจ่ายที่ยอดเยี่ยม

จึงเป็นเรื่องน่ายินดีอย่างยิ่งที่ได้เห็นเขาได้รับรางวัลตอบแทนด้วยการมีชื่อเป็นคนทำ 3 แอสซิสต์จากเกมนี้

เก็บตก 5 ประเด็นหลังเกม \"ลิเวอร์พูล-สปาร์ตา ปราก\" ชัยชนะที่มาพร้อมความเสี่ยง

3. ดาร์วิน นูนเญซ กับความมั่นใจที่เพิ่มพูน
2 ประตูในนัดนี้ของ ดาร์วิน นูนเญซ กองหน้าทีมชาติอุรุกวัย ทำให้เขาทำสถิติแซงหน้าฤดูกาลที่แล้วไปเรียบร้อย โดยซีซั่นที่ผ่านมาทำได้ 15 ประตูจาก 42 เกม แต่ซีซั่นนี้ยิงไปแล้ว 16 ลูกจาก 39 เกม และยังมีโอกาสเพิ่มสกอร์ได้อีกมากเพราะนี่เพิ่งจะสัปดาห์แรกของเดือน มี.ค. เท่านั้น

ที่ผ่านมา ดาร์วิน นูนเญซ ยังมีปัญหาฟอร์มตก ยิงไม่ได้ถึง 12 เกมจนเสียความมั่นใจ หลายคนวิจารณ์ว่าเจ้าตัวมักตัดสินใจผิดพลาดในจังหวะสุดท้าย อีกทั้งยังเจอปัญหาอาการบาดเจ็บจนถูกตั้งคำถามถึงความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับค่าตัวมหาศาลถึง 85 ล้านยูโร

แต่จากประตูสำคัญในเกมเจอ น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ รวมถึงสองประตูในนัดนี้ ทำให้เชื่อว่า นูนเญซ เรียกความมั่นใจกลับมาได้แล้ว และถือเป็นข่าวดีอย่างยิ่งสำหรับ ลิเวอร์พูล ที่มีภารกิจต้องไล่ล่าอีก 3 แชมป์ในช่วงท้ายซีซั่น

เก็บตก 5 ประเด็นหลังเกม \"ลิเวอร์พูล-สปาร์ตา ปราก\" ชัยชนะที่มาพร้อมความเสี่ยง

4. ชัยชนะที่แลกมาด้วยความเสี่ยง
แม้ชัยชนะ 5-1 จะเป็นผลลัพธ์ที่แสดงให้เห็นว่า คล็อปป์ เลือกถูกแล้วกับการจัดตัวผู้เล่นแบบนี้ แต่มันก็ตามมาด้วยความเสี่ยง เพราะเกมเมื่อคืนที่ผ่านมาต้องเสียแนวรับคนสำคัญอย่าง อิบราฮิม่า โกนาเต้ ที่บาดเจ็บกล้ามเนื้อจนต้องถูกเปลี่ยนตัวออก และยังไม่รู้ว่าจะลงเล่นในนัดเจอ แมนฯซิตี้ ไหวหรือเปล่า

"อิบู พูดกับผมว่า 'ถ้าผมได้ลองวิ่งสปรินต์อีกครั้ง มันอาจจะเจ็บหนักได้' เขาดูเหมือนสบายดี แต่เราไม่รู้"  คล็อปป์ กล่าวถึงอาการของลูกทีม

เก็บตก 5 ประเด็นหลังเกม \"ลิเวอร์พูล-สปาร์ตา ปราก\" ชัยชนะที่มาพร้อมความเสี่ยง 5. โจ โกเมซ-แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน ใครควรเป็นแบ็กซ้ายในนัดหน้า
เกมนี้ โจ โกเมซ ถูกเปลี่ยนตัวออกตั้งแต่จบ 45 นาทีแรก ขณะที่ แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน ได้ลงสนามครบ 90 นาที นั่นทำให้หลายฝ่ายมองว่า อาจมีความเป็นไปได้ที่ เจอร์เก้น คล็อปป์ จะเลือกใช้งาน โจ โกเมซ ในตำแหน่งแบ็กซ้าย สำหรับเกมที่จะเจอ แมนฯซิตี้ วันอาทิตย์นี้ เพื่อคอยหยุดยั้งเกมบุกของตัวทีเด็ดอย่าง ฟิล โฟเด้น และ แบร์นาโด้ ซิลวา โดยเฉพาะ

แน่นอนว่าทั้งคู่ต่างทำผลงานได้ดีในช่วงหลัง แต่จากฟอร์มอันร้อนแรงของ โฟเด้น ทำให้ คล็อปป์ อาจซื้อเกมรับของโกเมซ มากกว่าเกมรุกของโรเบิร์ตสันก็เป็นได้

อย่างไรก็ตาม อาการบาดเจ็บของ โกนาเต้ ก็เป็นตัวแปรเช่นกัน เพราะหากแนวรับชาวฝรั่งเศสลงไม่ไหว กุนซืออาจเลือก โจ โกเมซ ลงเล่นแทนในตำแหน่งเซ็นเตอร์ โดยมี โรเบิร์ตสัน เป็นแบ็กซ้าย ก็เป็นได้

และผลการแข่งขันในเกมเจอ แมนฯซิตี้ วันอาทิตย์นี้ คงเป็นสิ่งเดียวที่จะตัดสินได้ว่า การตัดสินใจของ คล็อปป์ ถูกหรือไม่

logoline