ตรงใจมั้ย? ONE ประกาศผล "ไฟต์แห่งปี" มวยไทย & คิกบ็อกซิ่ง

โดยในกติกา มวยไทย ตลอดปี 2566 เราได้เห็นยอดฝีมือในรูปแบบมวยไทยจากทั่วทุกสารทิศที่ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันมาโชว์ฝีมือบนเวทีระดับโลกทั้งในศึก ONE ลุมพินี และในศึก ONE Fight Night ซึ่งนักสู้แต่ละคนก็สร้างความสนุกสุดเร้าใจให้กับผู้ชมทั่วโลกตลอดทุกอีเวนต์ 

แต่ไฟต์ที่อัดแน่นไปด้วยดรามาและความระทึกใจจนทาง ONE ต้องยกให้รั้งอันดับหนึ่งของ “ไฟต์แห่งปี 2566 กติกามวยไทย” คือศึกสายเลือดในฝันที่แฟนมวยชาวไทยรอคอยระหว่าง “รถถัง จิตรเมืองนนท์” แชมป์โลก ONE มวยไทย รุ่นฟลายเวต (125-135 ป.) พบกับ “ซุปเปอร์เล็ก เกียรติหมู่ 9” แชมป์โลก ONE คิกบ็อกซิ่ง รุ่นเดียวกัน ในศึกประวัติศาสตร์แห่งปี ONE ลุมพินี 34 ณ สนามมวยลุมพินี (รามอินทรา) เมื่อวันที่ 22 ก.ย.66  

สำหรับการพบกันของทั้งคู่เดิมทีจะเป็นการป้องกันตำแหน่งแชมป์โลกมวยไทยครั้งที่ 6 ของ “รถถัง” แต่ทว่าฝ่าย “ซุปเปอร์เล็ก” เกิดตกตาชั่งทำให้หมดสิทธิ์ชิงเข็มขัด ก่อนจะตกลงงัดกันนอกรอบในกติกามวยไทย แคตช์เวต ซูเปอร์ไฟต์ 140 ป. แทน 

โดยเปิดฉากยกแรก “รถถัง” ไม่รอช้างัดศอกเข้าเต็มหน้าผาก “ซุปเปอร์เล็ก” เรียกแผลแตกได้อย่างรวดเร็ว จากนั้นเมื่อเข้าสู่ยกสองความเร้าใจยิ่งทวีคูณเมื่อทั้งคู่ปักหลักแลกอาวุธกันอย่างดุเดือด ก่อนที่ “ซุปเปอร์เล็ก” จะได้โอกาสสับศอกส่ง “รถถัง” ล้มลงไปกองคามุมเรียกนับแปดได้สำเร็จ ขณะที่ยกสุดท้ายต่างฝ่ายยังคงเดินหน้าท้าแลกเดือดแบบใครดีใครอยู่จนเรียกเสียงเฮดังกึกก้องไปทั่วทั้งสนาม ครบสามยก “ซุปเปอร์เล็ก” เอาชนะคะแนนเอกฉันท์ไปได้แบบถึงพริกถึงขิง สมเป็นไฟต์ในฝันที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์มวยไทยในรอบ 50 ปี

ส่วนในกติกา คิกบ็อกซิ่ง ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งการแข่งขันที่ได้รับความสนใจจากแฟนกีฬาการต่อสู้ทั่วโลกอย่างมากมาย โดยเฉพาะใน ONE ที่เหล่าบรรดานักสู้ระดับชั้นนำจากทั่วทุกมุมโลกต่างมาประชันฝีมือกันอย่างไม่ขาดสาย ซึ่งก็สร้างความสนุกเร้าใจให้กับผู้ชมทั่วโลกตลอดทั้งปี 2566 ที่ผ่านมา 

แต่ไฟต์ที่ช็อกโลกและกลายเป็นที่จดจำของแฟน ๆ จนทาง ONE ต้องยกให้เป็น “ไฟต์แห่งปี 2566 กติกาคิกบ็อกซิ่ง” คือการเผชิญหน้ากันระหว่าง “ชิงกิซ อัลลาซอฟ” ยอดฝีมือจากเบลารุสที่พกดีกรีแชมป์ ONE คิกบ็อกซิ่ง เวิลด์ กรังด์ปรีซ์ รุ่นเฟเธอร์เวต และผู้ท้าชิงอันดับหนึ่งของแรงกิงรุ่นนี้ ขึ้นท้าชิงบัลลังก์กับ “ซุปเปอร์บอน สิงห์มาวิน”  เจ้าของตำแหน่งแชมป์โลก ONE คิกบ็อกซิ่ง รุ่นเฟเธอร์เวต (145-155 ป.) ณ ขณะนั้น ในศึก ONE Fight Night 6: ซุปเปอร์บอน vs ชิงกิซ เมื่อวันที่ 14 ม.ค.66 ต่อหน้าแฟนกีฬาที่เข้ามาชมเต็มอิมแพ็ค อารีนา เมืองทองธานี

โดยทันทีที่ระฆังยกแรกดังขึ้น “ซุปเปอร์บอน” ในฐานะเจ้าบ้านอาศัยเสียงเชียร์ และศักดิ์ศรีแชมป์โลกที่มีอยู่เต็มเปี่ยมเดินไล่กดดันอย่างหนัก แต่ “ชิงกิซ” ที่ทำการบ้านมาดี ใช้ความรวดเร็วเต้นวนไปรอบ ๆ เวที พร้อมกับดักยิงหมัดขวาตรงสกัดการรุกของราชันชาวไทยได้เป็นระยะ 

ทว่าเกมการแข่งขันมีอันต้องจบเร็วเกินคาด เมื่อช่วงต้นยกสอง “ชิงกิซ” ได้โอกาสเหวี่ยงหมัดขวาเข้าเต็มกราม ส่ง “ซุปเปอร์บอน” ล้มไปกองคาพื้นเวทีถึงสองครั้งซ้อน จากนั้น “ชิงกิซ” ที่เปรียบดั่งฉลามได้กลิ่นคาวเลือดก็ไม่ปล่อยให้วินาทีทองหลุดลอย ตามเข้าไปซ้ำชุดใหญ่ก่อนจะได้จังหวะยิงหมัดขวาตรงเข้าเต็มกระโดงคางจน “ซุปเปอร์บอน” นอนแน่นิ่ง 

ผู้ชี้ขาดบนเวทีจึงสั่งยุติการแข่งขันในนาทีที่ 1:03 ของยกสอง พร้อมชูมือให้กับ “ชิงกิซ” ก้าวขึ้นนั่งบัลลังก์คิกบ็อกซิ่งรุ่นนี้แทนที่ทันที แถมฟอร์มอันดุดันในครั้งนี้ยังเข้าตาบิ๊กบอส “ชาตรี ศิษย์ยอดธง” มอบโบนัส 50,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 1.7 ล้านบาท) ให้ “ชิงกิซ” กลับบ้านไปนอนกอดควบคู่กับเข็มขัดแชมป์โลกที่เจ้าตัวนั้นรอคอยมานาน 

ด้วยความสนุกสุดเร้าใจจนกลายเป็นชัยชนะที่หักปากกาเซียนทุกสำนัก จึงไม่ใช่เรื่องน่าเซอร์ไพรส์ที่ ONE เลือกให้ไฟต์ระหว่าง “ชิงกิซ vs ซุปเปอร์บอน” เป็น “ไฟต์แห่งปี 2566 กติกาคิกบ็อกซิ่ง”