1. "กุน ขแมร์" ศิลปะการต่อสู้ของกัมพูชา กลายเป็นประเด็นที่คนไทยให้ความสนใจ หลังจากที่ คณะกรรมการจัดการแข่งขัน "ซีเกมส์ 2023" ที่กัมพูชาเป็นเจ้าภาพ ประกาศว่าจะมีการจัดแข่ง กุน ขแมร์ ในซีเกมส์ครั้งนี้ แต่ไม่ยอมใช้ชื่อชนิดกีฬาว่า "มวย" เหมือนที่เคยเป็นมาในการแข่งขันครั้งก่อนๆ โดยอ้างว่าเป็นศิลปะการป้องกันตัวของชาติเจ้าภาพ ทั้งๆที่ใช้กฎกติกาเหมือนกับ มวยไทย แทบจะทุกประการ
2. จากการประกาศดังกล่าวทำให้ สหพันธ์มวยไทยนานาชาติ (IFMA) ตอบโต้ทันที โดยประกาศว่า กีฬามวยไทยและคิกบ็อกซิ่งในซีเกมส์จะต้องใช้ชื่อ “มวย” เท่านั้น เพราะแม้จะเปลี่ยนชื่อไปแต่กติกาของกีฬาชนิดนี้ทุกอย่างยังคงเหมือนมวยไทย พร้อมประกาศด้วยว่า หากชาติใดส่งนักกีฬาเข้าแข่งขันรายการดังกล่าว ก็จะถูกแบนจากแมตช์ที่ อีฟม่า รับรองอย่างแน่นอน เช่นเดียวกับ สมาคมกีฬามวยไทยสมัครเล่นแห่งประเทศไทย ที่ยืนยันว่าจะไม่ส่งนักกีฬาเข้าร่วมการแข่งขันครั้งนี้ โดยแจ้งให้คณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทยรับทราบเรียบร้อยแล้ว
3. ด้วยการตอบโต้จากฝั่งไทย ทำให้ชาวกัมพูชาเริ่มแสดงความไม่พอใจเนื่องจากเชื่อมั่นว่า "กุน ขแมร์" คือต้นตำรับของ มวยไทย จริงๆ และประเด็นนี้ก็ได้ทำให้เกิดการปลุกความเป็นชาตินิยมของชาวกัมพูชามากขึ้นเรื่อยๆ นำไปสู่การเรียกร้องความเป็นต้นตำรับด้านต่างๆ ทั้งมวยไทย ศิลปวัฒนธรรม ฯลฯ ลามไปถึงการเชื่อมั่นว่าคนดังของไทยบางคนนั้นมีเชื้อสายเขมร หนึ่งในนั้นก็คือ "บัวขาว บัญชาเมฆ" ยอดนักมวยชาวไทย
โดยในเพจเฟซบุ๊ก Banchamek Gym (Buakaw Banchamek, บัวขาว บัญชาเมฆ) ได้มีชาวกัมพูชาบางรายมาคอมเม้นต์ในทำนองว่า "บัวขาว" เป็นคนเขมรหรือมีเชื้อสายเขมร ร้อนถึงเจ้าตัวต้องรีบออกมาโพสต์ชี้แจง โดยยืนยันว่าเป็น "คนไทยเชื้อสายกูย" ไม่ใช่คนเขมรอย่างที่เชื่อกัน
4. ต่อมา "บัวขาว" Banchamek Gym (Buakaw Banchamek, บัวขาว บัญชาเมฆ) ก็ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นอีกครั้งในระหว่างไปร่วมเปิดตัวภาพยนตร์ Marvel Studios’ Ant-Man and The Wasp: Quantumania โดยบอกว่าไม่ได้ซีเรียสอะไรหากทางกัมพูชาจะเปลี่ยนชื่อมวยไทยเป็น กุน ขแมร์ ใครอยากจะทำอะไรก็ทำไป อย่างไรมวยไทยก็ถือเป็น "ออริจินัล" อยู่แล้ว
5. จากคำให้สัมภาษณ์ของ บัวขาว กลายเป็นการเติมเชื้อไฟให้กับฝ่ายกัมพูชา โดย สเรย จันทร รองประธานกิตติมศักดิ์สหพันธ์มวยกัมพูชา ได้ประกาศว่า พร้อมจะแจกทั้งบ้านพัก รถ และเงินเดือน 10 ปี ให้กับนักมวยเขมรคนใดก็ตามที่ล้ม บัวขาว ได้ ตามมาด้วยเน็ตไอดอลกัมพูชาที่ใช้ชื่อเฟซบุ๊กว่า "Yada Yada" ก็ประกาศด้วยว่า จะแต่งงานกับคนที่สามารถเอาชนะบัวขาวได้แบบที่ไม่ต้องมีสินสอดใดๆมาให้ จากนั้น "แก้ว รัมย์จง" นักสู้ กุน ขแมร์ วัย 35 ปี ก็โพสต์ท้า บัวขาว ให้มาสู้กับตนเองด้วย
6. ระหว่างที่ทางฝั่งกัมพูชากำลังท้าทายบัวขาวอยู่นั้น ยอดกำปั้นชาวไทยก็โพสต์อีกครั้งโดยยืนยันว่า ไม่ได้มีปัญหาใดๆกับชาวกัมพูชาทั้งสิ้น แต่ขอทวงเงินค่าตัว 2.2 ล้านที่ไปขึ้นชกในรายการ Worldfight tournament ที่ยังได้ไม่ครบจนถึงตอนนี้
ต่อด้วย ร.ท.ธีรวัฒน์ ยิ้วยิ้ม ผู้จัดการของ บัวขาว บัญชาเมฆ ที่แจ้งว่าทางกัมพูชาไม่ได้เพียงแค่ค้างเงินบัวขาวเท่านั้น แต่ยังค้างเงินนักมวยชาวไทยคนอื่นๆ ทีมงาน และฝ่ายที่เกี่ยวข้องต่างๆ ที่ต้องสำรองค่าใช้จ่ายไปก่อน รวมแล้วเป็นเงินถึง 2,724,609 บาท
7. จากเรื่องความขัดแย้งที่ไม่มีทีท่าว่าจะจบลงง่ายๆจนอาจลุกลามกลายเป็นประเด็นระหว่างประเทศ ทำให้ สเรย จันทร รองประธานกิตติมศักดิ์สหพันธ์มวยกัมพูชา พยายามจบดราม่าด้วยตัวเอง โดยบอกว่า ฝากถึงแฟนมวยชาวไทยอย่าเข้าใจในตัวเขาผิด พร้อมทั้งวอนให้แฟนมวยของพวกเขาหยุดโจมตีประเทศไทย
"ถึงแฟนชาวไทย อย่าเอาการใช้อารมณ์ของฉันไปมองในทางที่ไม่ดี ขอให้ชาวเขมรทุกคนไม่โพสต์ข้อความโจมตี ประเทศไทย ที่เป็นเพื่อนบ้านของเรา กีฬานำมาซึ่งสุขภาพ, สันติภาพ และความสามัคคี"
"ขอให้ทุกคนยังคงเคารพ ไทย และกัมพูชา ในฐานะพี่น้องกัน หวังว่าชาวเขมรทุกคนที่มีความสามารถ มีเงินทุน จะช่วยส่งเสริมในด้านศิลปะการป้องกันตัวของเขมรให้ดียิ่งขึ้นบนเวทีในระดับนานาชาติในอนาคต"