23 เมษายน 2567 "พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ" รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เปิดเผยว่า เหตุการณ์ไฟไหม้โรงงานเก็บสารเคมีที่ จ.ระยอง จนทำให้มีกลิ่นกลิ่นฟุ้งกระจายนั้น โดยเบื้องต้นให้กรมควบคุมมลพิษ ไปตรวจสอบสภาพอากาศในพื้นที่ตั้งแต่ 300 เมตรถึง 10 กิโลเมตร พบว่าไม่มีสารเคมีหรือสภาพอากาศที่เป็นอันตราย ต่อประชาชน
ส่วนจะต้องมีการสอบสาเหตุหรือไม่ เพราะหลายคนตั้งข้อสังเกตว่าผิดปกติ พล.ต.อ.พัชรวาท กล่าวว่า ได้ให้กรมควบคุมมลพิษไปตรวจสอบแล้ว และขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงานว่ามีความผิดสังเกตอะไร
สำหรับกรณีสารในแอมโมเนียรั่วที่ จ.ชลบุรี ยังไม่ได้รับรายงานว่ามีสารอะไรที่เป็นอันตรายเช่นเดียวกัน
เมื่อถามว่า กังวลหรือไม่ที่ขณะนี้มีเรื่องสารเคมีรั่วไหลในหลายพื้นที่ โดย รมว.ทรัพย์ฯ กล่าวย้ำว่าให้ กรมควบคุมมลพิษดูแลอยู่ แต่ปัจจุบันมีโรงงานเยอะ แต่ได้มีการสั่งการไปแล้ว
สำหรับการให้ความมั่นใจกับประชาชนที่มีข้อกังวลนั้น เชื่อว่าหากมีกรณีเช่นนี้เกิดขึ้น ประชาชนในพื้นพื้นที่ก็ต้องระวังตัวอยู่แล้ว และคงมีมาตรการให้ประชาชนระมัดระวังตัวมากขึ้น
ด้าน "นายชุติพงศ์ พิภพภิญโญ" สส.ระยอง เขต 4 พรรคก้าวไกล แถลงว่า แม้ล่าสุดเจ้าหน้าที่สามารถควบคุมเพลิงได้แล้ว เหลือเพียงกองไฟเล็กๆเท่านั้น ซึ่งเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ว่าจะใช้เวลาถึง 3 วัน แต่ชาวบ้านยังคงเป็นกังวลในเรื่องของผลกระทบที่จะเกิดขึ้นจากการเผาไหม้สารเคมี ทั้งสารกรด สารด่าง กากอุตสาหกรรม ภายในโรงงานดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม ซึ่งตอนนี้ยังไม่ทราบว่ามีสารเคมีอะไรบ้าง แต่ควันจากการเผาไหม้ กลับมีการกระจายไปรอบโรงงานและข้ามอำเภอไปยังพื้นที่อื่น ทำให้ชาวบ้านเป็นกังวลอย่างมาก แม้ว่าการวัดค่าคุณภาพอากาศพบว่า ไม่มีสารพิษอันตรายอยู่ในอากาศ แต่ชาวบ้านยังเป็นกังวล จึงขอให้รัฐบาลตรวจสอบสารเคมีให้ชัดเจน และดำเนินการเยียวยาให้กับชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบ ทั้งระยะสั้น ระยะยาว
"โรงงานวินโพรเสส ถูกฟ้องและถูกยึดที่ดินเรียบร้อยแล้ว ในส่วนของสารเคมีภายในโรงงาน อยู่ในระหว่างการขนย้าย โดยได้จ้างบริษัทเอกชนเป็นผู้มาดำเนินการ แต่เป็นไปอย่างล่าช้า และยังไม่รู้ถึงขั้นตอนการบำบัดน้ำเสียและการกำจัดกากอุตสาหกรรมเหล่านั้น ว่าจะดำเนินการอย่างไรหรือจะต้องตั้งกองไว้เป็นอนุสรณ์สถานต่อไป" นายชุติพงศ์ กล่าว
ทั้งนี้ ขอตั้งข้อสังเกตว่า อุตสาหกรรมจังหวัดระยอง ได้มีคำสั่งให้โรงงาน ดำเนินการขนย้ายสารเคมีและกากอุตสาหกรรมอันตราย ออกไปกำจัด ในวันที่ 19 เม.ย. ก่อนจะเกิดเหตุไฟไหม้ในวันที่ 22 เม.ย. ที่ผ่านมา ซึ่งเหตุเพลิงไหม้เกิดตั้งแต่เวลา 08:00 น. ซึ่งเป็นช่วงเวลาเริ่มงาน
ขณะเดียวกัน ยังมีข้อมูลว่าโรงงานแห่งนี้ถูกตัดไฟไปแล้ว จึงไม่น่าจะเกิดจากสาเหตุไฟฟ้าลัดวงจร ดังนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงต้องไปดูกล้องวงจรปิดทั้งภายในและโดยรอบโรงงาน เนื่องจากมีความพยายามเชื่อมโยง ว่าโรงงานแห่งนี้มีเจ้าของเดียวกันกับโรงงานที่เคยเกิดเหตุไฟไหม้ที่ จ.อยุธยา
"ผมขอบคุณเจ้าหน้าที่เผชิญเหตุทุกคน ที่ได้ทำงานอย่างเต็มที่ แต่ขอให้วางมาตรการรับมือสถานการณ์ที่รวดเร็วกว่านี้ เพราะกว่าจะใช้งบประมาณเผชิญเหตุได้ จะต้องประกาศเป็นพื้นที่ภัยพิบัติ ซึ่งเป็นอำนาจของผู้ว่าราชการจังหวัด หากไม่อนุมัติ ก็จะไม่สามารถใช้โฟม หรืออุปกรณ์ในการดับไฟ ก็ใช้ได้ยาก จึงจำเป็นจะต้องลดขั้นตอน เพื่อให้สามารถรับมือกับสถานการณ์ได้เร็วกว่านี้" นายชุติพงศ์ ระบุ