svasdssvasds
เนชั่นทีวี

อาชญากรรม

ไฟไหม้มาราธอน 6 ชั่วโมง โกดังจัดเก็บกากสารเคมี จ.ระยอง เร่งอพยพชาวบ้านออกจากพื้นที่

22 เมษายน 2567
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

เช็กรัศมีเตือนภัยพื้นที่ได้รับผลกระทบ เหตุไฟไหม้โกดังจัดเก็บกากสารเคมี จ.ระยอง ผ่านไป 6 ชั่วโมงยังควบคุมไม่ได้ เจ้าหน้าที่ฯ เร่งอพยพประชาชนออกจากพื้นที่

22 เมษายน 2567 เมื่อเวลาประมาณ 09.00 น. เกิดเหตุเพลิงไหม้ภายในโกดังจัดเก็บกากสารเคมี ของ บริษัท วิน โพรเสส จำกัด (ประกอบกิจการขยะรีไซเคิล) ตั้งอยู่เลขที่ 84/1 หมู่ที่ 4 ตำบลบางบุตร อำเภอบ้านค่าย จังหวัดระยอง สำหรับสาเหตุการเกิดเพลิงไหม้อยู่ระหว่างการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บ้านค่าย และจากเหตุการณ์ดังกล่าวไม่มีผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิตแต่อย่างใด

สำนักงาน ปภ. จังหวัดระยอง รายงานว่า เวลาประมาณ 12.45 น. เพลิงยังคงลุกไหม้ แต่ได้ควบคุมให้อยู่ในวงจำกัดแล้ว โดยมีหน่วยงานปกครองส่วนท้องถิ่น เจ้าหน้าที่กู้ภัยฯ ได้นำรถดับเพลิงโฟม จำนวน 8 คัน รถบรรทุกน้ำ 8 คัน และรถกู้ชีพ กู้ภัย จำนวน 5 คัน รวมจำนวน 21 คัน เจ้าหน้าที่รวมจำนวน 50 คน เข้าทำการระงับเหตุดังกล่าว

ไฟไหม้มาราธอน 6 ชั่วโมง โกดังจัดเก็บกากสารเคมี จ.ระยอง เร่งอพยพชาวบ้านออกจากพื้นที่

ทั้งนี้ ศูนย์ควบคุมมลพิษจังหวัดระยอง ได้ติดตามตรวจสอบคุณภาพอากาศโดยรอบบริเวณพื้นที่โรงงาน โดยมีรายละเอียดดังนี้

1. ชุมชนโดยรอบโดยเฉพาะบริเวณทางด้านท้ายลม ทางด้านทิศตะวันออกเฉียงเหนือและทิศเหนือของพื้นที่โรงงาน ปรากฎว่า ผลการตรวจสอบคุณภาพอากาศเบื้องต้นคุณภาพอากาศอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานยังไม่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อสุขภาพ มีการตรวจสอบพบไอระเหยสารเคมีเล็กน้อย บริเวณห่างจากโรงงานไปทางด้านทิศเหนือประมาณ 4 กิโลเมตร

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่จะได้มีการติดตามตรวจสอบและเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง จนกว่าเหตุการณ์จะยุติ และได้มีการแจ้งผลการตรวจสอบให้หน่วยงานท้องถิ่น ได้แก่ อบต.บางบุตร และพื้นที่ข้างเคียงได้รับทราบเพื่อประสานและแจ้งให้ประชาชนในพื้นที่ เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์จนกว่าเหตุการณ์จะยุติ

2. ดำเนินการตามบทบาทหน้าที่ในการจัดการเหตุฉุกเฉินด้านสารเคมีดังกล่าว โดยมีการให้การสนับสนุนเข้าร่วมตรวจสอบและแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น ตรวจสอบการตกค้างของสารเคมีในสิ่งแวดล้อมและประมวลผลเทียบกับมาตรฐานคุณภาพสิ่งแวดล้อม แจ้งผลการตรวจสอบให้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมทั้ง ช่วยเหลือและให้คำปรึกษาแนะนำในการจัดการมลพิษอันเกิดจากเหตุฉุกเฉินสารเคมีและวัตถุอันตราย 

ไฟไหม้มาราธอน 6 ชั่วโมง โกดังจัดเก็บกากสารเคมี จ.ระยอง เร่งอพยพชาวบ้านออกจากพื้นที่

มีข้อแนะนำประชาชนเมื่อเกิดกรณีเพลิงไหม้สารเคมีอันตรายที่มีส่วนผสมและองค์ประกอบที่หลากหลายให้ดำเนินการดังนี้

1. เจ้าหน้าที่ท้องถิ่น ได้ประเมินเบื้องต้นและพิจารณาอพยพประชาชนในพื้นด้านท้ายลมไปยังพื้นทีประชาชนในพื้นที่ท้ายลม หรือ พื้นที่อ่อนไหว เช่น ศูนย์เด็กเล็ก โรงเรียน วัด

2. ประชาชนให้สังเกตุและหลีกเลี่ยงกลุ่มควันไม่สัมผัสและสูดดมโดยตรงกรณีอพยพไม่ทันให้อยู่ในพื้นที่อาคารมิชิดและแจ้งเจ้าหน้าที่เพื่อขอความช่วยเหลือ

3. เจ้าหน้าที่ดับเพลิงและเจ้าหน้าที่ตอบโต้เหตุฉุกเฉิน สวมใส่ชุดป้องกันอันตรายตามความเหมาะสม

ไฟไหม้มาราธอน 6 ชั่วโมง โกดังจัดเก็บกากสารเคมี จ.ระยอง เร่งอพยพชาวบ้านออกจากพื้นที่
 

เจ้าหน้าที่ดับเพลิงถอนกำลัง วางแผนใหม่

เวลา 14.00 น. สถานการณ์ยังไม่คลี่คลาย เจ้าหน้าที่ดับเพลิง รถดับเพลิง 15 คัน ได้ถอนกำลังออกจุดเกิดเหตุแล้ว หลังไม่สามารถดับเพลิงที่ลุกไหม้โหมอย่างรุนแรงได้ โดยได้มาร่วมประชุมประเมินสถานการณ์ใหม่ที่บริเวณวัดหนองพวา ห่างจุดเกิดเหตุประมาณ 1 กม. เศษ มีนายจาตุรนต์ วงค์สุวรรณ นายก อบต.บางบุตร เจ้าหน้าที่ดับเพลิง เจ้าหน้าที่ตำรวจ และเจ้าหน้าที่สาธารณสุขจังหวัด และอำเภอ เพื่อวางแผนเข้าระงับเหตุใหม่ และการให้ความช่วยเหลืออพยพประชาขน หลังมีการระดมฉีดน้ำ 3 จุด ไม่ได้ผล เพลิงยังคงลุกไหม้ลามไป 4 อาคารแล้ว

นายจาตุรนต์ วงค์สุวรรณ นายก อบต.บางบุตร กล่าวว่า เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ดับเพลิงได้ถอนกำลังออกมาหมดแล้ว หลังสู้ไฟไม่ได้ เชื้อเพลิงส่วนใหญ่เป็นสารไวไฟ ซึ่งกว่าจะฉีดน้ำสกัดเพลิงก็เกือบเที่ยงวัน เนื่องจากไม่สามารถประเมินความอันตรายของสารเคมีภายในโกดังได้ ประกอบกับรถดับเพลิงด้วยโฟมมีอยู่ 3 คัน จากเทศบาลนครระยอง เทศบาลเมืองมาบตาพุด และบริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) โฟมประมาณ 3,000 ลิตร จึงไม่กล้าฉีด

ไฟไหม้มาราธอน 6 ชั่วโมง โกดังจัดเก็บกากสารเคมี จ.ระยอง เร่งอพยพชาวบ้านออกจากพื้นที่

เบื้องต้นได้ขอรถดับเพลิงสนับสนุนเพิ่มมาอีก 2 คัน จึงได้มีการมาวางแผน และประเมินสถานการณ์ใหม่ เพื่อเข้าระงับเหตุเพลิงไหม้ดังกล่าว โดยเตรียมให้ผู้เชี่ยวชาญด้านดับเพลิง เข้าไปประเมินสถานการณ์ เพื่อจะใช้โฟมฉีดดับ รวมทั้งแผนอพยพประชาชนในพื้นที่โดยเฉพาะ ม.4 และ ม.8 ที่อยู่ใกล้โรงงานฯ เบื้องต้นได้มีการประกาศให้พื้นที่ ต.บางบุตร เตรียมอพยพประชาชน

ด้าน หน่วยปฐมพยาบาลเบื้องต้นของ รพ.บ้านค่าย และมูลนิธิสว่างพรกุศลระยอง ที่ตั้งอยู่บริเวณวัดหนองพวา ลำเลียงประชาชน และคนชรา ที่ได้รับผลกระทบ 5 ราย และมีเจ้าหน้าที่ดับเพลิงได้รับบาดเจ็บ 1 ราย ถูกสารเคมีกระเด็นเข้าตา นำส่งล้างตาที่ รพ.บ้านค่าย

ไฟไหม้มาราธอน 6 ชั่วโมง โกดังจัดเก็บกากสารเคมี จ.ระยอง เร่งอพยพชาวบ้านออกจากพื้นที่

เวลา 15.00 น. เพจ Fire & Rescue Thailand รายงานความคืบหน้า เหตุไฟไหม้โกดังเก็บสารเคมี กากอุตสาหกรรม พื้นที่โรงงานวินโพรเสส บ้านค่าย จ.ระยอง ยังมีการระเบิดอย่างต่อเนื่อง ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างระงับเหตุความคืบหน้าแจ้งให้ทราบ



เช็กรัศมีเตือนภัย พื้นที่ได้รับผลกระทบ

ด้าน สส.ก้าวไกล ระยอง เขต 4 อยู่ในพื้นที่ พบข้อกังวลคือสารเคมีในโรงงานซึ่งมีจำนวนมาก ปนเปื้อนอยู่ในควันไฟ ขณะนี้เจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถควบคุมควันที่ฟุ้งลอยไปไกลได้ ล่าสุดศูนย์ควบคุมมลพิษจังหวัดระยอง ตรวจพบสารเคมีอันตรายบริเวณหมู่ 11 ต.หนองบัว ต้องแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่และบริเวณใกล้เคียงให้เร่งอพยพออกก่อน รวมถึงหากยังควบคุมเพลิงไม่ได้จะต้องเตรียมเรื่องที่พักให้ประชาชนที่อพยพด้วย

ทั้งนี้ พรรคก้าวไกลได้ทำแบบจำลอง (Simulation) รัศมีเตือนภัยพื้นที่ที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบจากเหตุไฟไหม้นี้รัศมี 10 กิโลเมตร และคาดการณ์จากทิศทางลมที่พัดขึ้นเหนือและจากคำบอกเล่าของคนพื้นที่ ระบุตรงกันว่าบริเวณวัดหนองกรับ วัดปิปผลิวนาราม และวัดหินโค้ง (3 หมุดตามภาพ) รู้สึกได้ถึงผลกระทบต่อทางเดินหายใจจากควันไฟที่ลอยมา

ส่วนพื้นที่ที่เริ่มได้รับผลกระทบบ้างแล้วคือ ต.หนองบัว อ.บ้านค่าย, อ.ปลวกแดง และ ต.ชุมแสง อ.วังจันทร์ จ.ระยอง สำหรับก๊าซพิษที่เกิดขึ้นนั้น ยังไม่ทราบแน่ชัดว่าเป็นสารพิษประเภทใดบ้าง แต่เชื่อว่าเป็นสารพิษที่มีอันตรายต่อระบบหายใจ

ไฟไหม้มาราธอน 6 ชั่วโมง โกดังจัดเก็บกากสารเคมี จ.ระยอง เร่งอพยพชาวบ้านออกจากพื้นที่

จึงขอเตือนภัยประชาชนในบริเวณดังกล่าวและใกล้เคียง เร่งอพยพออกจากพื้นที่เพื่อความปลอดภัย โดยขณะนี้มีศูนย์อพยพ 2 จุดที่พร้อมรับ คือ ศูนย์อพยพวัดหนองพะวา และ ศูนย์อพยพ อบต.บางบุตร

ส่วนผู้ที่อยู่นอกพื้นที่เตือนภัย หรืออยู่ภายในพื้นที่แต่ไม่สามารถอพยพได้นั้น สามารถหลีกเลี่ยงการสูดควันพิษได้โดยการอยู่ในบ้านเรือน ปิดประตูหน้าต่างไม่ให้อากาศจากภายนอกเข้าได้ และปิดจมูก ปิดปาก เพื่อป้องกันการสูดควันพิษให้มากที่สุดเท่าที่เป็นไปได้

กรณีพบผู้ป่วยมีอาการบาดเจ็บฉุกเฉินเป็นอันตรายต่อชีวิต เช่น หมดสติ หยุดหายใจสามารถโทรแจ้งได้ที่ 1669 หรือหากเป็นกลุ่มผู้มีความเสี่ยงสูง เช่น ผู้สูงอายุ เด็ก และผู้ป่วยติดเตียง ต้องการอพยพ สามารถติดต่อกู้ภัยสว่างพร จ.ระยอง ได้ที่ โทร. 038-611-092

โดยประชาชนทุกคนสามารถตรวจสอบแผนที่ทั้งหมดได้ที่ Google Earth ที่จัดทำโดยพรรคก้าวไกล ที่ (คลิก)

สธ. เผย 2 หมู่บ้านกระทบจากเหตุไฟไหม้โรงงานเก็บสารเคมี "ระยอง" พบเจ็บป่วย 2 ราย

นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงกรณีเกิดเหตุไฟไหม้โรงงานเก็บสารเคมีและกากอุตสาหกรรม ในพื้นที่ อ.บ้านค่าย จ.ระยอง ได้รับรายงานจากนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดระยอง ว่า เหตุเกิดวันนี้เวลาประมาณ 09.15 น. เป็นโรงงานที่ประกอบกิจการรีไซเคิลและรับกำจัดกากของเสีย ซึ่งถูกยกเลิกใบอนุญาต อยู่ระหว่างดำเนินคดีและพิทักษ์ทรัพย์

ผลการตรวจสอบเบื้องต้นพบกลุ่มควันสีดำ พัดไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ โดยมีพื้นที่ได้รับผลกระทบ 2 หมู่บ้าน คือ ม.8 ต.บางบุตร และ ม.11 ต.หนองบัว โดยเมื่อช่วงเที่ยงเพลิงยังคงลุกไหม้ แต่สามารถควบคุมให้อยู่ในวงจำกัดได้แล้ว

นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ​​​​​​​

นพ.โอภาส กล่าวต่อว่า สำหรับการดูแลผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุดังกล่าว มีการจัดตั้งศูนย์พักพิงชั่วคราวและจุดปฐมพยาบาล บริเวณวัดหนองพะวา พบผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 ราย เป็นเจ้าหน้าที่กู้ภัย มีอาการแสบตาหลังเข้าไปดับเพลิง และมีผู้ป่วยติดเตียง/ติดบ้าน จำนวน 2 ราย จึงอพยพมายังวัดหนองพะวา

ส่วนจุดอพยพที่ อบต.หนองบัว มีประชาชนใน ม.11 อพยพเข้ามาประมาณ 35 ราย พบมีอาการผื่นคันทั่วตัว 1 ราย นำส่งรักษาโรงพยาบาลบ้านค่าย ขณะนี้อาการดีขึ้นแต่ยังให้พักสังเกตอาการที่โรงพยาบาล และมีผู้ป่วยติดเตียง 4 ราย ได้อพยพไปยัง รพ.สต.หัวชวด 1 ราย รพ.สต.หนองกรับ 1 ราย และ รพ.สต.คลองขนุน 2 ราย

"สำหรับการดูแลด้านสภาพจิตใจ ได้สำรวจผู้ได้รับผลกระทบเชิงรุกผ่านระบบออนไลน์ พบมีอาการวิตกกังวล 3 ราย และอยู่ระหว่างดำเนินการสำรวจเพิ่มเติม ขณะที่การปนเปื้อนในสิ่งแวดล้อมนั้น ทางศูนย์ควบคุมมลพิษ จ.ระยอง ได้ติดตามตรวจสอบคุณภาพอากาศโดยรอบบริเวณพื้นที่โรงงาน พบไอระเหยสารเคมีเล็กน้อยห่างจากโรงงานไปทางด้านทิศเหนือประมาณ 4 กิโลเมตร อย่างไรก็ตาม ผลการตรวจสอบคุณภาพอากาศเบื้องต้นบริเวณชุมชนโดยรอบ โดยเฉพาะด้านท้ายลมทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือและทิศเหนือของพื้นที่โรงงาน พบว่ายังอยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน ไม่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อสุขภาพ" นพ.โอภาสกล่าว

 

logoline