จากกรณี นายผล ดำธรรม ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าตรวจสอบโรงงาน ในพื้นที่ตำบลบางน้ำจืด อำเภอเมืองฯ จังหวัดสมุทรสาคร ซุก "กากแคดเมียม" 1.5 หมื่นตัน ซึ่งขนย้ายมาจากบ่อฝังกลบ จ.ตาก จึงอายัดแคดเมียมทั้งหมดไว้ และสั่งส่งย้อนกลับโรงงานต้นทาง นอกจากนี้ยังมีการอ้างอิงคำสัมภาษณ์ของผู้ว่าฯ จะออกคำสั่งประกาศเป็นเขตภัยพิบัติโดยห้ามบุคคลหรือสิ่งอื่นใด เข้าไปภายตัวอาคาร รวมถึงห้ามมีการหล่อหลอมแคดเมียมโดยเด็ดขาด ตามที่มีการนำเสนอข่าวไปแล้วนั้น
5 เมษายน 2567 กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสมุทรสาคร ได้ชี้แจงว่ากรณีดังกล่าว เป็นประกาศ ห้ามมิให้ผู้ใดๆ เข้าไปอยู่อาศัย หรือดำเนินกิจการใด ในพื้นที่ โรงงานบริษัท เจ แอนด์ บี เมททอล จำกัด ตั้งอยู่เลขที่ 132 และ 136/2 หมู่ที่ 2 ซ.กองพนันพล ถ.เอกชัย ต.บางน้ำจืด อ.เมืองสมุทรสาคร จ.สมุทรสาคร เป็นระยะเวลา 90 วัน นับแต่วันประกาศนี้เป็นต้นไป พร้อมย้ำว่า ไม่ได้มีการประกาศภัยพิบัติฉุกเฉิน หรือประกาศพื้นที่ประสบสาธารณภัย แต่อย่างใด
ด้าน สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสมุทรสาคร ได้เผยแพร่คำสั่ง ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร ในฐานะผู้อำนวยการจังหวัด ลงนามในประกาศกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสมุทรสาคร เรื่อง ห้ามมิให้บุคคลใดๆ เข้าไปอยู่อาศัยหรือดำเนินกิจการใดในพื้นที่ใกล้จะเกิดสาธารณภัย มีใจความว่า ด้วยปรากฏข้อเท็จจริงจากการรายงานของสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดสมุทรสาคร
และจากการตรวจสอบของเจ้าพนักงานตาม พ.ร.บ.ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พ.ศ. 2550 พบว่ามีกากแคดเมียม และกากสังกะสี จำนวนมากอยู่ในพื้นที่โรงงาน บริษัท เจ แอนด์ บี เมททอล จำกัด ตั้งอยู่เลขที่ 132 หมู่ที่ 2 ซอยกองพนันพล ถ.เอกชัย ต.บางน้ำจืด อ.เมือง จ.สมุทรสาคร จังหวัดสมุทรสาคร และโรงงานตั้งอยู่เลขที่ 136/2 หมู่ที่ 2 ซอยกองพนันพล ถ.เอกชัย ต.บางน้ำจืด อ.เมือง จ.สมุทรสาคร
โดยที่กากแคดเมียมซึ่งเป็นกากแร่อุตสาหกรรมอันตรายในปริมาณมากดังกล่าวมีลักษณะที่ใกล้จะเกิดสาธารณภัยอันเนื่องมาจากสารเคมีและวัตถุอันตรายขึ้นในพื้นที่ดังกล่าว และการอยู่อาศัยหรือดำเนินกิจการใดๆ ในพื้นที่นั้นจะเป็นอันตรายอย่างร้ายแรงต่อชีวิตและร่างกายของประชาชน
เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้เกิดอันตรายต่อชีวิตและร่างกายของประชาชน ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร ในฐานะผู้อำนวยการจังหวัดตาม พ.ร.บ.ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พ.ศ. 2550 อาศัยอำนาจตามมาตรา 29 ของ พ.ร.บ.เดียวกันนี้ ประกาศห้ามมิให้บุคคลใดๆ เข้าไปอยู่อาศัยหรือดำเนินกิจการใดๆ ในพื้นที่โรงงานดังกล่าวเป็นระยะเวลาเก้าสิบวัน นับแต่วันประกาศนี้เป็นต้นไป
ทั้งนี้ หากผู้ใดมีความจำเป็นต้องเข้าไปดำเนินกิจการใดๆ ตามสิทธิหรือตามกฎหมายที่ให้อำนาจ หรือการดำเนินการเพื่อเป็นการบำบัดปัดป้องภัยพิบัติสาธารณะ หรือการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ให้แจ้งต่อนายอำเภอเมืองสมุทรสาครในฐานะผู้อำนวยการอำเภอก่อนเข้าดำเนินการ ให้ผู้อำนวยการอำเภอใช้ดุลพินิจพิจารณาผ่อนปรนให้บุคคลใดเข้าพื้นที่ไปดำเนินการใดๆ ได้ โดยให้พิจารณาจากสิทธิหรืออำนาจหน้าที่ตามกฎหมาย ความจำเป็น มาตรการป้องกันตนเองให้ปลอดภัยจากสารเคมีและวัตถุอันตราย และมาตรการป้องกันไม่ให้กากแคดเมียมส่งผลกระทบต่อประชาชนประกอบกัน
สธ.เร่งตรวจสุขภาพคนงาน 11 ราย ไม่พบอาการผิดปกติ
ด้าน นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ได้รับรายงานจาก นพ.สุรวิทย์ ศักดานุภาพ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสมุทรสาคร ว่า จากการตรวจสอบพบบริษัทดังกล่าวได้รับใบอนุญาตให้ประกอบกิจการโรงงานเกี่ยวกับการหล่อและหลอมโลหะประเภทต่างๆ 3 โรงงาน โรงงานแห่งแรก พบกากแคดเมียมและกากสังกะสีในถุงบิ๊กแบ็กสีขาวในโรงงาน 1,300 ถุง และนอกโรงงานอีก 100 ถุง แห่งที่ 2 ที่อยู่บริเวณเดียวกัน พบกากอลูมิเนียมอยู่ภายในโรงงาน และมีกากแคดเมียมและกากสังกะสีอยู่นอกโรงงาน 9 ถุง
ส่วนแห่งที่ 3 พบกากแคดเมียมและกากสังกะสีอีก 227 ถุง อยู่ภายในโรงงานซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ให้เคลื่อนย้ายกากแคดเมียมและกากสังกะสีที่อยู่ภายนอกไปเก็บไว้ในโรงงานทั้งหมดแล้วโดยกรมควบคุมมลพิษตรวจสอบพบว่ากากแคดเมียมและกากสังกะสีมีการผสมด้วยปอร์ตแลนด์ซีเมนต์ 30% เพื่อทำลายฤทธิ์และอยู่ในสถานะแข็งตัว หากเก็บไว้ในสถานที่มิดชิดและไม่มีการชำระล้าง จะไม่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
นพ.โอภาส กล่าวอีกว่า ในด้านการดูแลผลกระทบทางสุขภาพ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสมุทรสาครได้ร่วมกับโรงพยาบาลสมุทรสาคร ตรวจคัดกรองสุขภาพของพนักงานในโรงงานจำนวน 11 ราย แบ่งเป็น คนไทย 8 ราย และต่างด้าว 3 ราย โดยซักประวัติตามแบบฟอร์มการสัมผัสสารโลหะหนักแคดเมียม ตรวจสัญญาณชีพเบื้องต้นไม่พบความผิดปกติ
แพทย์ได้ตรวจร่างกายและเก็บปัสสาวะส่งตรวจหาสารแคดเมียม ซึ่งจะทราบผลภายใน 1 สัปดาห์ และให้บริษัทนัดหมายพนักงานที่เหลือเข้ารับการตรวจสุขภาพกับโรงพยาบาลสมุทรสาครโดยเร็ว นอกจากนี้จะร่วมกับชุมชนในพื้นที่เร่งค้นหาผู้ที่ได้รับผลกระทบในบริเวณสถานที่ข้างเคียงที่มีอาการที่เกี่ยวข้องกับสารเคมีดังกล่าวต่อไป ขณะที่กรมควบคุมมลพิษได้ทำการเก็บตัวอย่างน้ำในโรงงานและบริเวณโดยรอบส่งตรวจหาสารปนเปื้อนด้วย จะทราบผลใน 2 สัปดาห์
ขณะที่ กองโรคจากการประกอบอาชีพและสิ่งแวดล้อม ได้ประชาสัมพันธ์ อินโฟกราฟิกให้ความรู้ เรื่อง อันตรายจากแคดเมียม
ช่องทางการรับสัมผัส
อาการและความอันตราย
ปวดศีรษะ ปวดเมื่อย อ่อนเพลีย คลื่นใส้ อาเจียน ท้องเสีย ระคายเคืองหลอดลม จมูก และลำคอ เกิดถุงลมโป่งพอง เป็นพิษต่อไต
การปฐมพยาบาล