svasdssvasds
เนชั่นทีวี

สังคม

ทหารหัวร้อนยิงคนกลางชุมชน เกิดเหตุอะไรขึ้นบ้าง ถึงเวลาคุมปืนหรือยัง

17 มีนาคม 2567
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

เมื่อ "ทหารหัวร้อน" ใช้ปืนยิงประชาชนกลางชุมชน เหตุการณ์นี้เกิดอะไรขึ้นบ้าง แล้วกรณีก่อนหน้า ที่ทหารชักปืนขู่นักรบด่านเถื่อนบนทางด่วน ไปถึงไหนแล้ว Nation STORY รวบรวมความคืบหน้ามาให้อัปเดต พร้อมคำถามของสังคม จะควบคุมการใช้ปืนเจ้าหน้าที่รัฐกี่โมง

ในระยะนี้เกิดเหตุ "ทหารใช้อาวุธปืนในที่ชุมชนหรือที่สาธารณะ" เป็นข่าวบ่อยครั้ง ต่อเนื่อง โดยมีต้นเหตุมาจากการควบคุมอารณ์ กรณีล่าสุดคือเมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมา (17 มี.ค.) ที่เกิดเหตุทหารอากาศ ชักปืนยิงใส่วงเหล้ากลางชุมชน ในพื้นที่บางเสาธง จนมีผู้บาดเจ็บ 1 คน มีสาเหตุจากความไม่พอใจ ที่กลุ่มวัยรุ่นเปิดเพลงส่งเสียงดัง 

หลังก่อเหตุ ทหารนายดังกล่าวพร้อมปืนที่ก่อเหตุ ได้เดินเข้าบ้าน เปิดธรรมะฟังในห้องนอน ตำรวจต้องเข้าปิดล้อม ใช้เวลาเกลี่ยกล่อมหลายชั่วโมง ทหารที่ก่อเหตุจึงยอมมอบตัวในชุดเครื่องแบบเต็มยศ 

เหตุการณ์ครั้งนี้เกิดอะไรขึ้นบ้าง มีความคืบหน้าอย่างไร รวมถึงกรณีก่อนหน้า ที่มีทหารชักปืนขู่นักรบด่านเถื่อนบนทางด่วน เรื่องราวไปถึงไหนแล้ว Nation STORY ได้รวบรวมเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ความคืบหน้า และคำถามที่สังคมสงสัย มาให้ได้อัปเดตกัน....
ทหารหัวร้อนยิงคนกลางชุมชน เกิดเหตุอะไรขึ้นบ้าง ถึงเวลาคุมปืนหรือยัง
 

เหตุการณ์ระทึกขวัญครั้งนี้ เกิดขึ้นเมื่อเวลา 21.10 น. วันที่ 16 มี.ค. ที่ผ่านมา เมื่อ พ.ต.อ.โสภณ มงคลโสภณรัตน์ ผกก.สภ.บางเสาธง จ.สมุทรปราการ ได้นำกำลังตำรวจสายตรวจ และฝ่ายสืบสวน กว่า 30 นาย พร้อมด้วยอาวุธครบมือ และโร่กำบัง เสื้อเกราะ เข้าทำการปิดล้อมพื้นที่กลางชุมชนในซอย ฝ.5 ชุมชนการเคหะเมืองใหม่ ม.16 บางพลี ต.บางเสาธง อ.บางเสาธง จ.สมุทรปราการ 

หลังได้รับแจ้ง มีผู้ถูกยิงด้วยอาวุธปืนบาดเจ็บ ชาวบ้านช่วยเหลือนำส่งโรงพยาบาลจุฬารัตน์ 5 ทราบชื่อคือ นายศุภชัย ยั่งยืน อายุ 26 ปี ส่วนผู้ก่อเหตุเป็นทหารอากาศ ที่มีความเชี่ยวชาญเรื่องอาวุธปืน ทราบชื่อคือ เรืออากาศเอก ธนิตศักดิ์ พรหิรัญฐานนท์ อายุ 60 ปี หลังก่อเหตุได้เข้าไปในบ้านพักกึ่งห้องเช่า สูง 3 ชั้น ซึ่งอยู่ตรงจุดเกิดเหตุ พร้อมกับปืนที่ใช้ในการก่อเหตุ

โดยตำรวจได้ทำการปิดกั้นพื้นที่ ไม่ให้ผู้ที่เกี่ยวข้องเข้าใกล้เพื่อความปลอดภัย พร้อมเจรจาให้ผู้ก่อเหตุมอบตัวอยู่นานแต่ไม่เป็นผล ผู้ก่อเหตุยังคงเก็บตัวอยู่ภายในบ้านพัก ตำรวจจึงติดต่อญาติคนสนิท ช่วยเข้าเจรจาอีกครั้ง 
ทหารหัวร้อนยิงคนกลางชุมชน เกิดเหตุอะไรขึ้นบ้าง ถึงเวลาคุมปืนหรือยัง
 

กระทั่งเวลาประมาณ 00.00 น. วันที่ 17 มี.ค. 67 หลังญาติคนสนิทเข้าเกลี้ยกล่อม ทหารรายนี้ ได้แต่งกายเครื่องแบบชุดนายทหารเต็มยศ เดินออกมาจากบ้านพัก เพื่อมอบตัวพร้อมกระเป๋าสะพายข้าง ภายในมีอาวุธปืน ขนาด 9 มม. ที่ใช้ก่อเหตุ

โดยนำมามอบให้กับ พ.ต.อ.โสภณ มงคลโสภณรัตน์ ผกก.สภ.บางเสาธง ก่อนจะรีบขึ้นรถสายตรวจไป สภ.บางเสาธง ทันที ซึ่งเบื้องต้นตำรวจยังไม่ได้แจ้งข้อกล่าวหา พร้อมประสานนายทหารพระธรรมนูญ ร่วมตรวจสอบทางคดีความตามกฎหมาย 

ขณะที่เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน ได้เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบปลอกกระสุนจำนวน 1 ปลอก ตกอยู่กลางถนน ที่บริเวณหน้าร้านค้า ซึ่งอยู่ตรงข้ามกับบ้านพักของนายทหารรายนี้ มีโต๊ะเก้าอี้ถูกวางกระจัดกระจาย และที่เคาท์เตอร์ของร้านอาหารตามสั่ง พบรูกระสุนฝังคาอยู่ด้านใน 1 นัด เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
ทหารหัวร้อนยิงคนกลางชุมชน เกิดเหตุอะไรขึ้นบ้าง ถึงเวลาคุมปืนหรือยัง

นายณัฐพล ภูทองใบ อายุ 21 ปี เพื่อนของผู้บาดเจ็บ บอกว่า ตนกับเพื่อน ๆ นั่งย่างเนื้อกันอยู่ที่ร้านตรงข้ามบ้านของผู้ก่อเหตุ จู่ ๆ ผู้ก่อเหตุเดินออกมาถามบอกตนว่า "เก๋าเหรอ" แล้วก็ชักปืนออกมาชี้ที่พวกตน จนเกิดการยื้อแย่งกันขึ้น ก่อนที่ปืนจะลั่นมา 1 นัด ถูกนายศุภชัยได้รับบาดเจ็บ หลังเกิดเหตุเมียของผู้ก่อเหตุ มานำตัวผู้ก่อเหตุเข้าบ้านไป ส่วนผู้บาดเจ็บพวกตนช่วยกันนำส่งโรงพยาบาล

ส่วน นายต้อม อายุ 32 ปี เพื่อนผู้บาดเจ็บอีกคน เล่าว่า ตนกับเพื่อนเปิดเพลงนั่งดื่มสุรากัน 6-7 คน ที่ฝั่งตรงข้ามของบ้านผู้ก่อเกิดเหตุ จู่ ๆ ผู้ก่อเหตุก็ออกจากบ้าน มายิงพวกตนเลย พร้อมบอกว่า "หลายรอบแล้ว" กระสุนเฉี่ยวหัวไป ตนก็งง เพราะปกติก็เคยเจอกับผู้ก่อเหตุอยู่บ่อย ๆ แถมยังเคยเลี้ยงเหล้าพวกตนด้วย ยอมรับว่า พวกตนกินเหล้ากันตรงนี้บ่อยครั้งทุกอาทิตย์ ส่วนที่เกิดเหตุครั้งนี้ น่าจะมาจากที่พวกตนกินเหล้าเสียงดัง เพราะวันนี้ผู้ก่อเหตุได้ออกมาเตือนพวกตน 2 รอบแล้ว ส่วนที่ผ่านมาก็แค่ออกมาบ่น ๆ ตามปกติ
เพื่อนผู้บาดเจ็บ

ส่วนภรรยาของผู้ก่อเหตุ บอกว่า กลุ่มวัยรุ่นเปิดเพลงส่งเสียงดังมาก ที่บ้านได้แจ้งตำรวจไป 2 ครั้งแล้ว แจ้งครั้งแรกตำรวจก็ไม่มา แจ้งครั้งที่สองตำรวจถึงมาตักเตือน แต่หลังจากตำรวจไป กลุ่มวัยรุ่นก็เปิดเพลงส่งเสียงดังอีกเหมือนเดิม สามีตนจึงเดินออกจากบ้าน โดยสวมชุดธรรมดากางเกงขาสั้น สะพายกระเป๋าติดมาด้วย แต่ไม่ได้ถือปืนออกมาโชว์

จากนั้นก็เกิดการทะเลาะกันเสียงดัง ทางฝั่งคนเจ็บก็ไม่พอใจ เรื่องที่สามีตนออกมาตักเตือน มีการยื้อแย่งฉุดกระชากกัน จากนั้นมีเสียงปืนดังขึ้นหนึ่งนัด แล้วสามีก็เดินเข้าห้องนอน เปิดธรรมะฟังเตรียมตัวจะนอน เพราะคิดว่า กระสุนไม่ได้โดนใคร โดยสามีตนนั้น มีโรคประจำตัวภาวะเครียด รักษาตัวมานาน และกินยาอยู่อย่างต่อเนื่อง แต่ส่วนตัวสามีไม่ใช่คนมีอารมณ์รุนแรง 

ภรรยาผู้ก่อเหตุ บอกอีกว่า ในซอยบ้านมีสองหลังที่มาตั้งวงสุรา ส่งเสียงดังอยู่เป็นประจำ แต่กลุ่มนี้จะเสียงดังมาก ไม่ใช่มีแค่บ้านตน แต่ทั้งซอยเค้าก็เดือดร้อนรำคาญเหมือนกัน กินทุกวันเสียงดังทุกวัน วันนี้แจ้งตำรวจให้มาตรวจสอบถึงสองครั้ง สามีตนคงหมดความอดทนจริง ๆ
ทหารหัวร้อนยิงคนกลางชุมชน เกิดเหตุอะไรขึ้นบ้าง ถึงเวลาคุมปืนหรือยัง

ต่อมาช่วงสายวันนี้ (17 มี.ค.) พลอากาศตรี บุญเลิศ อันดารา โฆษกกองทัพอากาศ ได้เปิดเผยว่า ทางผู้บัญชาการทหารอากาศ ได้ทราบเรื่องแล้ว ในเบื้องต้นกำลังพลดังกล่าว จะต้องเข้าสู่กระบวนการตามกฏหมาย ซึ่งทางร้อยเวรได้เชิญตัวสอบปากคำ และประสานทหารพระธรรมนูญ เข้าให้ข้อมูลตามกฎหมาย 

โดยทาง ผู้บัญชาการทหารอากาศ ได้กำชับให้ข้าราชการที่ก่อเหตุ ให้ความร่วมมือกับตำรวจ และให้ผู้บังคับบัญชาในทุกระดับ ช่วยสอดส่องดูแลให้ปฏิบัติตามวินัยอย่างเคร่งครัด ซึ่งเรื่องดังกล่าวให้ปฏิบัติตามกฏหมายบ้านเมือง พร้อมยืนยันให้ความเป็นธรรมทั้ง 2 ฝ่าย 

ขณะที่ช่วงบ่ายวันนี้ (17 มี.ค.) ผู้บังคับบัญชาของนายทหารผู้ก่อเหตุ จะเดินทางไปเยี่ยมผู้ได้รับบาดเจ็บที่โรงพยาบาล มีรายงานข่าวว่า นายทหารผู้ก่อเหตุ อยู่ในช่วงที่ใกล้จะเกษียณอายุราชการ (อายุ 60 ปี) ในเดือนตุลาคมนี้
พลอากาศตรี บุญเลิศ อันดารา โฆษกกองทัพอากาศ

ส่วนกรณีที่เพจ "อิ่มใจที่ได้สู้" โพสต์คลิปวิดีโอความยาว 40 วินาที เป็นเหตุการณ์ชายแต่งกายชุดข้าราชการทหาร ใช้อาวุธปืนข่มขู่คู่กรณีบริเวณทางด่วน โดยคลิปถูกเผยแพร่เมื่อวันที่ 15 มีนาคม ที่ผ่านมา


ต่อมา วันที่ 16 มี.ค. 67 พลโท ธีรพงศ์ ปัทมสิงห์ ณ อยุธยา โฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบข้อมูลพบว่า นายทหารคนดังกล่าว เป็นกำลังพลของกองทัพไทย ซึ่งผู้บัญชาการทหารสูงสุด ได้รับรายงานในเรื่องดังกล่าวแล้ว พร้อมสั่งให้หน่วยต้นสังกัดควบคุมตัวไว้ และตั้งคณะกรรมการสอบสวน เพื่อลงโทษทางวินัย พร้อมตรวจสอบการครอบครองอาวุธปืน และการพกพาในที่สาธารณะ และสรุปรายงานผลการสอบสวนให้ผู้บัญชาการทหารสูงสุด รับทราบภายใน 48 ชั่วโมง 

ล่าสุด 17 มี.ค. 67  พลโท ธีรพงศ์ ปัทมสิงห์ ณ อยุธยา โฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย เผิดเผยว่า หลังจากที่ผู้บัญชาการทหารสูงสุด สั่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนโดยด่วน และรายงานผลให้ทราบภายใน 48 ชั่วโมง การสอบสวนข้อเท็จจริงพิจารณาแล้วพบว่า กำลังพลดังกล่าวไม่ปฏิบัติตามแบบธรรมเนียมทหาร ได้กระทำผิดวินัยทหาร ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยวินัยทหาร พ.ศ.2476 ประกอบด้วย

1. ดื้อ ขัดขืน หลีกเลี่ยง หรือละเลยไม่ปฏิบัติตามคำสั่งผู้บังคับบัญชาเหนือตน
2. การไม่รักษามารยาทให้ถูกต้องตามแบบธรรมเนียมของทหาร
3. ใช้กิริยาวาจาไม่สมควร
4. ประพฤติไม่สมควร โดยการพูดจาข่มขู่บุคลภายนอกให้เกิดความหวาดกลัว 
5. ทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียงและภาพลักษณ์ของกองทัพ

คณะกรรมการสอบสวนได้พิจารณาลงทัณฑ์ ดังนี้
1. ขังเป็นระยะเวลา 21 วัน
2. พิจารณางดบำเหน็จประจำปีงบประมาณ 2567
3. ให้ฝึกทบทวนวินัยทหาร เป็นเวลา 15 วัน
4. ให้ผู้บังคับบัญชา ทำหนังสือแจ้งนายทะเบียน เพื่อขอยกเลิกการครอบครองอาวุธ เพราะมีพฤติกรรมไม่เหมาะสม

โดยกำลังพลผู้ก่อเหตุ รู้สึกสำนึกผิดต่อสิ่งที่ได้กระทำลงไปโดยขาดความยับยั้งชั่งใจ และยอมรับความผิดทุกประการ รวมทั้งได้กล่าวคำขอโทษกับผู้ที่ตนเองได้ทำการข่มขู่ด้วย
ทหารหัวร้อนยิงคนกลางชุมชน เกิดเหตุอะไรขึ้นบ้าง ถึงเวลาคุมปืนหรือยัง

ซึ่งจากสองกรณีจะพบว่า หลังการก่อเหตุ เมื่อทางต้นสังกัด หรือผู้บังคับบัญชารับทราบเรื่องราว ก็จะมีการดำเนินลงโทษ ตามขั้นตอนของกฎหมายที่เกี่ยวข้อง 

อย่างไรก็ตาม คำถามตัวโต ๆ ที่สังคมสงสัยคือ การที่เจ้าหน้าที่รัฐ เช่น ทหาร มีการครอบครองอาวุธปืนที่เป็นอาวุธแรง แล้วมีการนำมาก่อเหตุ นอกเวลาปฏิบัติราชการ โดยมีสาเหตุมาจากการควบคุมอารมณ์ จึงถึงเวลาที่สมควรหรือยัง ที่จะมีการควบคุมการครอบครองอาวุธปืน นอกเหนือจากที่กฎหมายอนุญาตเกี่ยวกับการปฏิบัติราชการ หรือมีกฎหมายที่ใช้ลงโทษ อย่างเข้มข้นจริงจัง เช่นเดียวกับการควบคุมอาวุธปืนของพลเรือนเสียที....
 

logoline