เป็นประเด็นปัญหาที่สังคมกำลังให้ความสนใจเป็นอย่างมาก กับภาพตลกร้าย เด็กนักเรียนหญิงไทย มือซ้ายถือถุงน้ำอัดลม มือขวาถือปืนปลอมขู่ลิงที่กำลังสบตา ขณะเดินอยู่ริมถนนใน จ.ลพบุรี และโพสต์ภาพลิงถือปืน นั่งอยู่บนรั้วพระปรางค์สามยอด พร้อมติดแฮชแท็ก #อย่าท้าทายอำนาจลิง จนกลายเป็นไวรัลไปทั่วโลก
ภาพที่ปรากฏดังกล่าว เป็นภาพสะท้อนปัญหาลิงล้นเมืองลพบุรี ที่ตอนนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อย่างกรมอุทยานแห่งชาติ และ เทศบาลเมืองลพบุรี กำลังเร่งหาทางแก้ไขปัญหา หลังจากที่ก่อนหน้านี้มีหลายหน่วยงานพยายามแก้ปัญหา โดยเฉพาะการคุมกำเนิดประชากรลิง แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จ จนปริมาณล้นเมืองลพบบุรี จนแทบจะกลายเป็นเมืองร้าง
โดยในประเด็นการควบคุมจำนวนประชากรลิงนั้น รศ.ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์ประจำภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และนักสื่อสารวิทยาศาสตร์ ได้โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว Jessada Denduangboripant ระบุว่า
เหมือนปัญหา "ลิงล้นเมืองลพบุรี" จะเป็นปัญหาที่คาราคาซัง มานานมาก ๆ แล้วนะครับ วิธีการแก้ปัญหา ก็แบบเดิมๆ (เช่น สำรวจประชากร ไล่ทำหมันลิง จับบางตัวไปไว้สวนลิง ฯลฯ) อย่างรายงานข่าวนี้ ตั้งแต่ 7 ก.พ. 2561 ผ่านมา 6 ปี ก็ยังไม่ดีขึ้น แถมจะแย่ลงด้วยซ้ำ.......
นอกจากนี้ ยังโพสต์แนะนำวิธีการทำหมันลิง ที่น่าจะได้ผลมากกว่า โดยระบุว่า
"คุมกำเนิดลิง ด้วยสมุนไพรกวาวเครือขาว"
ลองหาแนวทางในการช่วยแก้ปัญหา เรื่องจำนวนประชากรของ "ลิง" ที่ลพบุรี ล้นเมืองจนเกิดวิกฤตตอนนี้ .. ก็มาเจอผลงานวิจัยของมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง ทำเอาไว้ น่าสนใจมากครับ
คือนำเอาสมุนไพร "กวาวเครือขาว" มาใช้เป็นยาคุมกำเนิด ให้กับสัตว์ต่างๆ โดยเฉพาะลิง กินเป็นอาหาร
ซึ่งจะช่วยลดปัญหาความยากลำบาก ในการไล่จับลิงมาทำหมัน ทีละตัว ๆ ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เลย กว่าจะทำหมดทุกตัว
ลองอ่านวิธีการด้านล่างนี้ครับ หวังว่าผู้ที่รับผิดชอบในพื้นที่จะสนใจเอาไปใช้นะครับ
- นำ "กวาวเครือขาว" ที่ขุดได้มาล้างให้สะอาด ปอกเปลือกออก หั่นเป็นแผ่นบางๆ ตากแดดหรืออบให้แห้ง โม่หรือตำจนเป็นผงละเอียด
- นำผงป่นแห้ง จากหัวกวาวเครือขาว ผสมกับเมล็ดถั่วลิสง หรือข้าวโพด
- แล้วใส่น้ำมันพืช หรือ แป้งผสมน้ำตาล เพื่อให้ผงกวาว จับกับเมล็ดถั่วหรือข้าวโพด
- ให้ลิงกิน ในช่วงที่ลิงหิวจัดๆ
- นอกจากนี้ อาจนำผงกวาวเครือขาวป่นแห้ง ผสม "น้ำ" ในที่ๆ จัดให้ลิงมากินน้ำด้วย จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการคุมกำเนิดลิงให้ดียิ่งขึ้น
ข้อมูล จาก "โครงการถ่ายทอดเทคโนโลยี กวาวเครือขาวสู่ชุมชน" มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง
https://archives.mfu.ac.th/.../707c02305b728873c9fb3249bf...
ภาพประกอบจาก https://www.thairath.co.th/news/local/central/1196973
(เพิ่มเติมข้อมูล) ชื่อเครื่องยา: กวาวเครือขาว
องค์ประกอบทางเคมี: สารที่มีฤทธิ์คล้ายฮอร์โมนเอสโตรเจน คือ สารกลุ่ม chromene ได้แก่ miroestrol deoxymiroestrol สารกลุ่มฟลาโวนอยด์ เช่น peurarin kwakhurin coumestrol mirificoumestan daidzin daidzein mirificin genistein genistin
การศึกษาทางเภสัชวิทยา:
ฤทธิ์ต่อระบบสืบพันธุ์ : กวาวเครือขาวมีผลยับยั้งการเกี้ยวพาราสี การผสมพันธุ์และการเจริญของอัณฑะในนกพิราบเพศผู้ และยับยั้งการออกไข่โดยยับยั้งการเจริญของฟอลลิเคิลในนกพิราบตัวเมีย
ส่วนการทดลองในหนูเพศเมีย ที่กินกวาวเครือขาวพบว่า มีผลยับยั้งการให้นมของหนูที่กำลังให้นม โดยไปยับยั้งการเจริญของต่อมน้ำนม และการสร้างน้ำนม มีผลป้องกันการตั้งครรภ์ เมื่อให้หนูกินในช่วงตั้งท้องวันที่ 1-10 ติดต่อกัน หรือให้กินในช่วงที่มีการเคลื่อนย้ายของตัวอ่อน โดยทำให้เกิดการแท้ง
และเมื่อให้ในหนูที่ตัดรังไข่ออก กินกวาวเครือพบว่าน้ำหนักของมดลูกและปริมาณของเหลวในมดลูกเพิ่มขึ้น เช่นเดียวกับที่พบในหนูที่ได้รับ ethinyl estradiol และมีรายงานว่ากวาวเครือขาว มีฤทธิ์คุมกำเนิดที่ดีในหนูขาวเมื่อให้ในขนาด 1 กรัม/ตัว/สัปดาห์
ส่วนผลของกวาวเครือขาวต่อหนูเพศผู้พบว่า สัตว์มีพฤติกรรมการสืบพันธุ์ลดลง และมีขนาด และน้ำหนักของอัณฑะ epididymis ต่อมลูกหมาก และ seminal vesicles ลดลง รวมทั้งมีจำนวนตัวอสุจิ และเปอร์เซ็นต์การเคลื่อนไหวของตัวอสุจิลดลง
เอกสารอ้างอิง : กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข. 2546. ประมวลผลงานวิจัยด้านพิษวิทยา ของสถาบันวิจัยสมุนไพร เล่ม 2. โรงพิมพ์การศาสนา:กรุงเทพมหานคร.
จาก ฐานข้อมูลเครื่องยาสมุนไพร คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี https://apps.phar.ubu.ac.th/thaicrudedrug/main.php...