สำรวจความคิดเห็นครูไทย คิดอย่างไรกันบ้าง หลัง ครม. มีมติยกเลิก "ครูเวร"

เรื่องราว "ครูเวร" ยังเป็นปมร้อน ๆ ที่สังคมให้ความสนใจ กับการให้ครูต้องเข้าเวร ที่โรงเรียน ทั้งกลางวันและกลางคืน เพื่อดูแลป้องกันความเสียหาย อันจะบังเกิดแก่สถานที่ราชการ หรือหน่วยงาน จากกรณีต่าง ๆ ตามมติ ครม. เมื่อวันที่ 6 ก.ค. 2542 

แต่เมื่อบริบททางสังคมเปลี่ยนไป ทำให้การเข้าเวรของครูในปัจจุบัน กลายเป็นเรื่องที่เสี่ยง โดยเฉพาะด้านความปลอดภัย ของครูที่ปฏิบัติหน้าที่นี้ เช่นเหตุการณ์ที่ ครูสาวโรงเรียนแห่งหนึ่งใน จ.เชียงราย ถูกชายที่มีประวัติยาเสพติด บุกเข้ามาทำร้าย จนได้รับบาดเจ็บสาหัส ขณะปฏิบัติหน้าที่ "ครูเวร" ที่โรงเรียน จนนำมาสู่กระแสเรียกร้องให้ยกเลิก "ครูเวร" ที่ทำให้ แฮชแท็ก #ยกเลิกครูเวรกี่โมง ขึ้นเทรนด์ X (ทวิตเตอร์) 

 

หลังมีกระแสดังกล่าว หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อย่าง สพฐ. กระทรวงศึกษาธิการ ได้ชี้แจงว่า มีความเข้าอกเข้าใจ หัวอกพ่อพิมพ์แม่พิมพ์ของชาติ ผ่านมาตรการต่าง ๆ โดยเฉพาะ "นโยบายลดภาระครู" ที่อยู่ระหว่างการผลักดัน อาทิ ให้เสนอขอ ครม. อนุมัติคืนอัตรานักการภารโรงกว่า 14,000 ตำแหน่ง เพื่อให้ทุกโรงเรียนมีนักการภารโรงประจำ

โดยระหว่างนี้ ให้ประสานความร่วมมือ กับหน่วยงานปกครองในพื้นที่ หรือผู้นำชุมชน ช่วยจัดเวรยาม ดูแลความปลอดภัยในโรงเรียน และช่วยเฝ้าระวังกรณีชุมชน มีบุคคลผู้เสี่ยงมีพฤติกรรมรุนแรง ไปพลาง ๆ เท่านั้น แต่ไม่ได้มีการพูดถึง การยกเลิกมติ ครม. ในเรื่องของครูเวร 
 

เรื่องการยกเลิก "ครูเวร" เลขาธิการ กพฐ. ยอมรับว่า ต้องใช้เวลา เนื่องจากเป็นระเบียบรักษาความปลอดภัยแห่งชาติ และระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี รวมถึงมติ ครม. ครอบคลุมหลายหน่วยราชการ ที่ต้องจัดเวรยามรักษาความปลอดภัย สถานที่ราชการ เพื่อดูแลทรัพย์สินป้องกันภัยต่าง ๆ

แต่ก็มีชี้ช่อง การที่ไม่ต้องมีครูเวร ด้วยการอธิบายว่า มติ ครม. มาช่วยขยายความให้ กรณีที่ส่วนราชการใด มีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยแล้ว ไม่ต้องจัดคนอยู่เวรยาม ซึ่งโรงเรียน สพฐ. มีกว่า 3 หมื่นโรงเรียน ที่ไม่มีเจ้าหน้าที่ รปภ. จึงต้องเป็นไปตามระเบียบมีครูมาอยู่เวร   

แนวทางนี้ มีตัวอย่างที่ ครูในสังกัด กทม. ไม่ต้องเข้าเวร เพราะได้มีการออก ระเบียบกรุงเทพมหานครว่าด้วยการรักษาความปลอดภัยเกี่ยวกับสถานที่ราชการของกรุงเทพมหานคร พ.ศ 2566 โดยสาระสำคัญคือ ไม่จำเป็นต้องเข้าเวร ถ้าได้จ้างเอกชน เช่น รปภ. มาอยู่แล้ว ทั้งนี้หากโรงเรียนใด ยังไม่มีการดำเนินการจ้าง รปภ. ก็ให้ทางสำนักงานเขต ดำเนินการจ้าง รปภ. มาเข้าเวร เพื่อให้ครูไม่ต้องมาเข้าเวร นับเป็นของขวัญอีกชิ้นแด่บรรดาคุณครู


 

ทั้งนี้ มีข้อมูลเกี่ยวกับความจริงของ "ครูเวร" ที่ปัจจุบัน ยังมีการทำหน้าที่ดังกล่าว โดย "ครูผู้หญิง" เข้าเวรกลางวัน เวลา 08.00 - 16.00 น. กะละ 2 คน แต่สมัยก่อนโหดกว่านี้ คือเข้าเวรตั้งแต่ 06.00 - 18.00 น. ส่วน "ครูผู้ชาย" ต้องผลัดกันนอนที่โรงเรียนทุกคืน วันละ 1 คน ถ้าไม่ทำก็ถือว่าขัดคำสั่งผู้บังคับบัญชา 

ล่าสุดได้มีข่าวดี จากการประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจร (ครม.สัญจร) ที่จ.ระนอง ที่มีมติให้ ยกเว้นมติ ครม. เมื่อวันที่ 6 ก.ค. 42 ซึ่งเวลาผ่านมากว่า 20 ปีที่แล้ว ปัจจุบันมีการพัฒนาทางด้านเทคโนโลยี และสภาพแวดล้อมได้เปลี่ยนไป จึงให้ยกเลิก ยกเว้น โดยให้มีมาตรการรักษาความปลอดภัยให้ดียิ่งขึ้น ซึ่งหน่วยงานต่าง ๆ จะรับไปพิจารณาต่อไปและสั่งการให้กระทรวงมหาดไทย กระทรวงแรงงาน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) ดูแลความปลอดภัยต่อไป โดยมีผลตั้งแต่ 23 ม.ค. 67 เป็นต้นไป
 

ภายหลังจากมีมติ ครม.ดังกล่าว ก็มีเสียงสะท้อนจากครูทั่วประเทศทันที่ โดย Nation Story ได้มีการสอบถามความเห็นของบรรดาคุณครู ในเรื่องนี้ จะมีความคิดเห็นอย่างไรบ้างลองไปดูกัน 

"เห็นด้วยค่ะ โรงเรียนควรจ้างยาม หรือบุคลากรที่มีความรู้ และทักษะด้านการรักษาความปลอดภัย เพื่อความปลอดภัยทั้งทรัพย์สิน และชีวิตทุกคนในโรงเรียน" ครูสิริกร

"เห็นสมควรยกเลิกการอยู่เวรเวรรักษาการณ์ เพราะว่าจะได้ลดปัญหา การเกิดอันตรายกับครูในรูปแบบต่างๆ และยังสามารถนำเวลาไปดูแลครอบครัว ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญ" ครูจุมพล

"เห็นด้วย เพราะการดูแลรักษาความปลอดภัย ควรให้คนมีทักษะเฉพาะดูแล"
ครูบูรนาถ

"เห็นด้วยกับการยกเลิกการอยู่เวรของครู เพราะวิธีการปกป้องดูแลทรัพย์สินทางราชการ (ของโรงเรียน) มีอีกหลายวิธี ที่ไม่จำเป็นต้องเอาชีวิตครูมาเสี่ยง" ครูชนัญชิดา

"เห็นด้วย เพราะครูจะได้ไม่ต้องไปเสี่ยงอันตราย กับเหตุการณ์ที่ไม่ดี ขณะอยู่เวรค่ะ"
ครูศิริวรรณ

"เห็นด้วยค่ะ  มีวิธีการอื่น ๆ อีกมากมาย ในการรักษาสมบัติของทางราชการ โดยที่ไม่ต้องให้ครูมาเสี่ยงกับการอยู่เวรยาม  เช่น  การติดตู้แดง การติดกล้องวงจรปิดเชื่อมโยงไปยัง  สภ.ที่ใกล้เคียงกับ รร." ครูอัจฉรา

"เห็นด้วย มีความอันตรายในการอยู่เวรใน รร. ช่วงไม่มีนักเรียน" ครูขนิษฐา