"เนชั่นออนไลน์" รวบรวมข้อมูลเปรียบเทียบความแตกต่าง ระหว่างโครงการเดิม "30 บาทรักษาทุกโรค" กับ โครงการใหม่ที่ถูกยกระดับเป็น "30 บาทรักษาทุกที่" หรือเรียกสั้นๆว่า "30 บาทพลัส" ทั้ง 2 โครงการนี้ได้รับสิทธิเหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไรบ้าง โดยมีรายละเอียดดังนี้
โครงการ(เดิม) 30 บาทรักษาทุกโรค
โครงการ 30 บาทรักษาทุกที่
รมว.สธ. ยันสถานพยาบาลรัฐ-เอกชน พร้อมให้บริการ
เมื่อวันที่ 4 ม.ค. 2567 นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รมว.สาธารณสุข (สธ.) ให้สัมภาษณ์ว่า สถานพยาบาลทั้งภาครัฐและเอกชน รวมถึงคลินิก ร้านขายยา ห้องปฏิบัติการทางการแพทย์ ขณะนี้มีความพร้อมและจะเริ่มคิกออฟนำร่องวันที่ 7 ม.ค.นี้ โดยมีนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดโครงการที่ จ.ร้อยเอ็ด ซึ่งในวันดังกล่าวจะคิกออฟพร้อมกันอีก 3 จังหวัด คือ จ.แพร่, เพชรบุรี และนราธิวาส เพื่อรองรับการให้บริการประชาชน
ขยายพื้นที่บริการเพิ่มอีก 8 จังหวัด มี.ค.นี้
จากนั้นในเดือน มี.ค.จะขยายนโยบายให้ครอบคลุมในเขตสุขภาพที่เหลืออีก 8 เขตสุขภาพ คือ เขตสุขภาพที่ 2 จ.เพชรบูรณ์, เขตสุขภาพที่ 3 จ.นครสวรรค์, เขตสุขภาพที่ 4 จ.สิงห์บุรี, เขตสุขภาพที่ 6 จ.สระแก้ว, เขตสุขภาพที่ 8 จ.หนองบัวลำภู, เขตสุขภาพที่ 9 จ.นครราชสีมา, เขตสุขภาพที่ 10 จ.อำนาจเจริญ และเขตสุขภาพที่ 11 จ.พังงา
ไม่กังวลเรื่องความแออัดในโรงพยาบาลหลัก
กรณีข้อกังวลเรื่องการกระจุกตัวของผู้ป่วยที่อาจจะเลือกใช้บริการเฉพาะสถานพยาบาลหลัก ประเด็นนี้ นพ.ชลน่าน ระบุว่า ระบบที่ สธ.ได้วางไว้มีประสิทธิภาพเพียงพอ ทุกสถานพยาบาลมีการเชื่อมโยงข้อมูล ประวัติของผู้ป่วย และมีระบบการนัดหมายที่เชื่อมโยงด้วย เชื่อว่าจะไม่เกิดปัญหาการเจาะจงเลือกสถานพยาบาลอย่างแน่นอน
"ผู้ป่วยไปรับบริการยังสถานพยาบาลจุดใด ก็เหมือนการได้รักษาอยู่ที่โรงพยาบาลหลักที่มีรายละเอียดครบถ้วน"