วิกฤต "ลุงพล - ยูทูบเบอร์" ช่องทางทำกินลำบากเสียแล้ว มาดูกันเกิดอะไรขึ้น

เรื่องของ "ลุงพล ไชย์พล วิภา" ยังคงเป็นประเด็นร้อน ๆ ให้ สังคมได้วิพากษ์วิจารณ์กันในหลายแง่มุม โดยก่อนหน้านี้ ก็มีเรื่องที่ศาลชั้นต้น เพิ่งมีคำพิพากษาจำคุก 20 ปี "ลุงพล" ในคดี "น้องชมพู่" ซึ่งคำตัดสินดังกล่าว นอกจากจะทำให้ "ลุงพล" ต้องเดินหน้าต่อสู้คดีแล้ว ยังส่งผลกระทบต่อเนื่องกับ "ลุงพล และป้าแต๋น" ด้านอื่น ๆ อีกด้วย 
 

โดยเฉพาะเรื่องของช่องยูทูบของ "ลุงพลและป้าแต๋น" ที่เป็นช่องทางสร้างรายได้หลักขณะนี้ ที่มีชื่อช่องว่า ลุงพลป้าแต๋น แฟมิลี่ ที่เปิดเมื่อวันที่ 14 สิงหาคม 2563 ซึ่งมีผู้ติดตามเกือบ 5 แสนคน ยอดวิวรวมเกือบ 200 ล้านวิว ได้ถูกปิดไป เหลือเพียงเพจเฟซบุ๊ก ลุงพลป้าแต๋น แฟมิลี่ เท่านั้น


ซึ่งเรื่อง "ป้าแต๋น" ได้ออกมาแจ้งข่าว ผ่านช่องยูทูบแห่งหนึ่งว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการยื่นอุทธรณ์ จึงขอฝากช่องยูทูบใหม่ ชื่อ ลุงพลป้าแต๋น channel.
 
 

ล่าสุด เพจ Drama-Addict ได้มีการรายงานเกี่ยวกับช่องยูทูบของลุงพล ป้าแต๋น ที่ก่อนหน้านี้ถูกปิดไป และได้มีการเปิดช่องใหม่ซึ่งเริ่มมีผู้ติดตามเพิ่มมากขึ้น ระบุว่า 

อัปเดตล่าสุด หลังจากแชนเนลลุงพลป้าแต๋น 
ที่มีคนติดตามเกือบห้าแสน คนดูมากกว่า 200,000,000 วิว ถูกปิดตัวไป
แล้วป้าแต๋นไปเปิดชาเนลใหม่  ล่าสุด ชาเนล ใหม่ก็โดนปิดอีกแล้ว
และช่องแฟนคลับรายใหญ่ที่มีคนติดตามเกิน 100,000 คน
ก็ถูกปิดไปพร้อมกันด้วย หมาด ๆ เลยชั่วโมงที่แล้วนี่เอง


 

และจากปัญหาที่ช่องยูทูบของ ลุงพลและป้าแต๋น ถูกปิดนั้น ยังทำให้ ลุงพลและป้าแต๋น เริ่มมีปัญหากับ บรรดาเหล่ายูทูบเบอร์ ที่ผ่านมาได้คอยติดตาม อัปเดตชีวิตความเป็นอยู่ของ ลุงพล ถึงขนาดมีการขอแบ่งรายได้จากบรรดาเหล่า ยูทูบเบอร์ 

โดยระบุว่า ช่องของตนโดนปิด รายได้หาย เพราะฉะนั้น เหล่ายูทูบเบอร์ที่มารายล้อม ทำคอนเทนต์ได้เงินเป็นแสน ๆ ควรเอาเงินมาแบ่งให้ด้วย ซึ่งคำพูดดังกล่าว เหล่ายูทูบเบอร์ก็ไม่ได้ตอบโต้ ทำเอาลุงพลถึงกับบอกว่า ต่อไปนี้ไม่ต้องมาถ่าย ไม่ต้องมาทำคอนเทนต์เกี่ยวกับลุงอีก คนที่อยากให้แบ่งกลับทำเฉย ต่อไปตัวใครตัวมัน ใครจะทำคอนเทนต์อะไรก็ทำไป ดูสิว่าจะมีอะไรกินกัน ต่อไปตนจะไม่ยอมเป็นเบี้ยล่างใครแล้ว

 

ซึ่งกรณีดังกล่าว เพจ Drama-addict ได้มีการรายงานถึงการถอนตัวของบรรดา ยูทูบเบอร์ ที่ติดตามลุงพล โดยระบุว่า 

"ไทยรัฐรายงานข่าว ยูทูปเบอร์ fc ลุงพล ถอนตัวแล้วประมาณครึ่งนึง"

 

ปัญหาของบรรดายูทูบเบอร์ ที่ติดตาม "ลุงพล" ยังไม่หมดแค่นั้น เนื่องจากยังพบว่า หลังมีคำพิพากษา "ลุงพล" ออกมา ได้มีผู้ออกมาแสดงความคิดเห็น ในคดีของ "ลุงพล" จำนวนมาก หนึ่งในนั้นคือ “พล.ต.ท.เรวัช กลิ่นเกสร” อดีตผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด และ “พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ” อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ที่ไปให้ความเห็นในรายการโหนกระแส

ก่อนจะถูก ยูทูบเบอร์ซึ่งเป็นเอฟซีของ “ลุงพล" บางส่วน อัดคลิปด่ากราดทั้งคู่ จนทำให้อดีตบิ๊กตำรวจทั้งสองนายเหลืออด ประกาศที่จะดำเนินคดีกับบรรดา เหล่ายูทูบเบอร์เอฟซีของ "ลุงพล" รวมถึงจะประสานให้กรมสรรพากรเข้าตรวจสอบรายได้เหล่ายูทูบเบอร์กลุ่มนี้อีกด้วย 

ทั้งนี้ เพจเฟซบุ๊ก ISAN Insight & Outlook ของคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ได้โพสต์เปิดเผยอาณาจักรธุรกิจ "ลุงพล" ที่ครอบคลุมทั้งการทำธุรกิจสื่อ ผ่านช่องทางออนไลน์ รวมถึงธุรกิจเครื่องสำอาง ที่หลายคนอาจยังไม่รู้ว่า สร้างรายได้ให้กับลุงพลกว่า 10 ล้านบาท โดยระบุว่า  

#ชวนโสเหล่ จากข่าวสังคม คดีดัง สู่ ข่าวธุรกิจ
จาก แฮชแท็ก #Saveลุงพล สู่ #ปฏิรูปสื่อ 

วันนี้ อีสาน อินไซต์ พาเปิดอาณาจักรธุรกิจลุงพล ที่ครอบคลุมทั้งการทำ 📽️ธุรกิจสื่อผ่านช่องทางออนไลน์ รวมถึง💄กิจการค้าเครื่องสำอาง ที่กวาดรายได้ปี 65 กว่า 10 ล้านบาท

"ลุงพลป้าแต๋น แฟมิลี่" เปิดเมื่อวันที่ 14 ส.ค. 2563 โพสต์คลิปทั้งหมด 8,474 รายการ และมี ยอดเข้าชมกว่า 197,205,700 ครั้ง อีกทั้งมียอด ติดตามกว่า 482,000 คน

สำหรับรายได้ช่องยูทูบอ้างอิงจาก เว็บไซต์ NoxInfluencer ซึ่งเป็นระบบการให้บริการข้อมูลและวิเคราะห์เชิงลึกของ #Influencer ได้ รวบรวมฐานและจัดอันดับคนดังในสื่อออนไลน์ พบว่า เมื่อนำลิงก์ช่องของ ลุงพลป้าแต๋น แฟมิลี่ ตรวจสอบ พบว่า

• รายได้รายวันโดยประมาณ 8,663.31 บาท
• รายได้รายเดือนโดยประมาณ 259,899 บาท
• รายได้รายปีโดยประมาณ 3,162,109.32 บาท

ด้วยความสนใจจากสื่อ และผู้ชมจำนวนมาก ได้สร้าง กระแสลุงพล fever ที่ลากยาว สร้างผู้ได้รับผลประโยชน์มากมาย เช่น

ลุงพลและป้าแต๋น ที่ได้รับความสนใจจากสื่อมวลชนและสังคมเป็นอย่างมาก ส่งผลให้พวกเขามีรายได้จากการทำคอนเทนต์ต่าง ๆ เช่น ไลฟ์สด, ขายสินค้า, ออกรายการโทรทัศน์ เป็นต้น

สื่อมวลชนรวมถึง Youtuber จะได้รับความสนใจจากสังคมเป็นอย่างมาก ทำให้สามารถนำเสนอข่าวและโฆษณาได้มากขึ้น ส่งผลให้มีรายได้เพิ่มขึ้น 

ผู้ค้าสินค้าและบริการต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับข่าวลุงพล เช่น เสื้อยืด, หมวก, แก้วน้ำ, ผ้าพันคอ เป็นต้น จะได้รับความสนใจจากผู้บริโภคมากขึ้น ทำให้สามารถขายสินค้าและบริการได้มากขึ้น

การท่องเที่ยวในพื้นที่หมู่บ้านกกกอก จะได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวมากขึ้น ทำให้มีการใช้จ่ายในหมู่บ้านเพิ่มขึ้น

แม้ว่าวันที่ 20 ธันวาคม 2566 ศาลจังหวัดมุกดาหารได้อ่านคำพิพากษา โดยพิพากษาให้ “ลุงพล” นายไชย์พล วิภา จำเลยที่ 1 และ 2 ในคดีการเสียชีวิตของน้องชมพู่ ฐานกระทำโดยประมาท เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และพรากเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี ไปเสียจากบิดามารดาปราศจากเหตุอันควร จำคุกรวม 20 ปี ในขณะที่ “ป้าแต๋น” นางสมพร หลาบโพธิ์ ภรรยาของลุงพล ยกฟ้อง

แต่ทางลุงพลก็ได้มีการยื่นประกันตัว ด้วยหลักทรัพย์กว่า 5 แสนบาท พร้อมกับเตรียมยื่นอุทธรณ์ในชั้นศาลถัดไป


ดังนั้นจึงต้องจับตาต่อไปว่า ทั้งลุงพล และเหล่ายูทูบเบอร์ จะมีความเคลื่อนไหวอย่างไรต่อไป เมื่อถูกบีบกล่องดวงใจ และช่องทางทำกินผ่านแพลตฟอร์มใหญ่อย่างยูทูบ หรือจะเข้าทำนอง  "หมาตายเห็บกระโดดหนี" หรือไม่
 

ขอบคุณข้อมูล
- Drama-Addict  
- รายการโหนกระแส 
- ISAN Insight & Outlook - NoxInfluencer
- กรมพัฒนาธุรกิจการค้า
- เดลี่นิวส์
- ทุบโต๊ะข่าว อมรินทร์ทีวี