22 ธันวาคม 2566 "คดีน้องชมพู่" ปิดฉากในศาลชั้นต้นแล้ว เมื่อ "ลุงพล" แห่งบ้านกกกอก ถูกศาลจังหวัดมุกดาหาร พิพากษา สั่งจำคุก 20 ปี พร้อมให้ชดใช้สินไหมกับครอบครัวน้องชมพู่ 1.1 ล้านบาท โดยยกประโยชน์เหตุอันควรสงสัย ยกฟ้อง"ป้าแต๋น"
ภายหลังจากการตัดสิน "ลุงพล" ยังยืนความบริสุทธิ์ ยืนกรานปฏิเสธเช่นเดิม พร้อมกับประกาศขอสู้ต่อเพื่อพิสูจน์ความจริงจนถึงศาลฎีกา ตามข่าวที่เสนอไปก่อนหน้านี้
ล่าสุด ทนายเกิดผล แก้วเกิด เคลื่อนไหววิเคราะห์แนวทางการต่อสู้คดีของ "ลุงพล" ผ่านโพสต์เฟซบุ๊ก "ทนายเกิดผล แก้วเกิด" มีรายละเอียดดังนี้..
ถ้าทีมทนายลุงพลต่อสู้ว่า #น้องชมพู่ เดินตามหมาขึ้นเขาไปเอง
มันคือปัญหาใหญ่จริงๆในสายตามผมนะ
เพราะว่า ลุงพล อ้างฐานที่อยู่ ว่า ณ เวลาเกิดเหตุ กำลังไปรับพระ
แสดงว่า ลุงปฎิเสธว่าไม่รู้ไม่เห็นเหตุการณ์ใดๆเกี่ยวกับน้องชมพู่ขณะที่หายตัว
แล้วทำไมลุงถึงไปต่อสู้ทำนองว่า เชื่อว่า น้องชมพู่เดิมตามเจ้าปลาส้ม (หมาน้องชมพู่) ขึ้นไปบนภูเหล็กไฟ
หรือว่า ลุงมีวิชาเชื่อมจิตกับปลาส้ม หรือครับ
ที่มา >>
ทนายเกิดผล เชื่อ "ลุงพล" ยังมีทางรอด
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ ทนายเกิดผล โพสต์เฟซบุ๊ก คดีลุงพล ว่ายังมีลุ้นในชั้นอุทธรณ์ ด้วยเหตุผล 3 ข้อ ดังนี้..
แสดงว่ายังมีผู้พิพากษาระดับหัวหน้าศาล และอธิบดีผู้พิพากษาภาค 4 เห็นแย้งในปัญหาข้อเท็จจริง และพยานหลักฐาน แตกต่างจากองค์คณะศาลชั้นต้น ว่า คดีนี้ควรยกฟ้อง
ดังนั้น ลุงพลยังพอมีลุ้นต่อในศาลอุทธรณ์ ส่วนอัยการ ผมเชื่อว่าน่าจะอุทธรณ์ในประเด็นเจตนาฆ่า เพราะว่าการทอดทิ้งเด็กไว้ลำพัง โดยไม่มีอาหารและน้ำ ปราศจากผู้ดูแล #ย่อมเล็งเห็นได้ว่าเด็กอาจเสียชีวิตเพราะขาดอาหาร หรือ สัตว์ทำร้าย จนถึงแก่ความตายได้ต้องติดตามในชั้นอุทธรณ์ต่อไป