svasdssvasds
เนชั่นทีวี

สังคม

"อาจารย์เจษฎ์" เปิดสาเหตุ 5 ชีวิต สังเวยบ่อทราย เป็นการพลาดจมน้ำ ไม่ใช่ทรายดูด

"อาจารย์เจษฎ์" เปิดสาเหตุ 5 ชีวิต สังเวยบ่อทรายแม่น้ำมูล เชื่อเป็นการพลาดจมน้ำ ไม่ใช่ทรายดูด สอดคล้องข้อมูลกู้ภัยฯ พบผู้สูญหายอยู่บนผิวทราย ลักษณะจมลงปกติ

13 ธันวาคม 2566 จากกรณีสื่อมวลชนนำเสนอข่าวเหตุสลด 5 ชีวิต ถูกทรายแม่น้ำมูลดูดร่างจมดับ บริเวณ ต.ท่าม่วง อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ เขตติดต่อ อ.ชุมพลบุรี จ.สุรินทร์ เมื่อวันที่ 11 ธันวาคม ที่ผ่านมานั้น

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ล่าสุด ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์ประจำภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก "Jessada Denduangboripant" ระบุว่า "กรณี 5 ศพเสียชีวิตที่แม่น้ำมูล น่าจะเป็นการพลาดจมน้ำ มากกว่าจะถูกทรายดูดครับ"

วันนี้ มีรายงานข่าวน่าสลดถึงกรณีที่มีผู้เสียชีวิตถึง 5 ราย ที่บริเวณแม่น้ำมูล  โดยมีชายผู้เป็นพ่อ ขับรถอีแต๋นพาลูกสาวพร้อมหลานๆ มาเอาทรายในแม่น้ำมูลไปปรับปรุงบ้าน ตั้งแต่เช้า แล้วหายตัวไป ญาติตามหา โดยพบรถอีแต๊ก (รถไถนาเดินตาม) กับตัวพ่วง จอดอยู่ในแม่น้ำมูลเขต ต.ท่าม่วง อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ เขตติดต่อ อ.ชุมพลบุรี จ.สุรินทร์

ต่อมาเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการใต้น้ำ หน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างจรรยาธรรมสถาน บุรีรัมย์ ได้เดินทางไปช่วยค้นหา ใช้เวลาเกือบ 1 ชม.  พบร่างอยู่ในบ่อทรายทีละคน ทั้งหมดเสียชีวิต และ คาดว่าการเสียชีวิตนั้นเกิดจากการถูก "ทราย(แม่น้ำมูล)ดูด" ร่าง ขณะขนทรายขึ้นรถ

อาจารย์ เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์

และในรายงานข่าวที่ละเอียดขึ้น ได้ระบุว่า เมื่อหน่วยกู้ภัยวังกรูดนำชุดประดาน้ำมาช่วยค้นหา แต่เป็นไปด้วยความลำบาก เพราะบริเวณที่มีน้ำขังไม่พบร่างคน ผ่านไปกว่า 3 ชม. เจ้าหน้าที่พบร่างนายวิริยา อยู่ใต้น้ำเป็นรายแรก ก่อนจะพบรายที่ 2 รายที่ 3 รายที่ 4 และรายที่ 5 ซึ่งติดกับบ่อทราย

สำหรับสาเหตุการเสียชีวิตเจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถสรุปได้ เบื้องต้นคาดว่าอาจมีเด็กคนใดคนหนึ่งไปเล่นน้ำแล้วจมน้ำ จากนั้นแต่ละคนจะเข้าไปช่วยเหลือแล้วจมน้ำไปด้วยกัน หรืออาจมีคนใดคนหนึ่งถูกทรายดูด เมื่อแต่ละคนจะเข้าไปช่วยจึงโดนดูดเข้าไปด้วยกันจนเสียชีวิตดังกล่าว

ซึ่งประเด็นเรื่องที่มีการพูดถึง "ทรายดูด" นั้น มาจากการให้สัมภาษณ์ของชาวบ้านในบริเวณดังกล่าวที่เล่าว่า "บริเวณดังกล่าวเป็นเหมือนทรายหลวม บางจุดเวลาเหยียบลงไปจะหลวมเหมือนดูด แต่จะเปลี่ยนจุดไปเรื่อยๆ แล้วแต่ทิศทางของน้ำว่าจะหมุนไปทางไหน ส่วนตัวเชื่อว่าอาจมีใครคนใดคนหนึ่งโดนทรายดูด แล้วแต่ละคนเข้าไปช่วยแล้วถูกดูดไปทั้งหมด" และ "ส่วนตัวเชื่อว่าน่าจะเป็นกุดน้ำอาถรรพ์

เพราะทุกครั้งจะตายหมู่ทั้งหมด และเพิ่มจำนวนขึ้นเรื่อยๆ ทั้งๆ ที่ช่วงนี้น้ำไม่ลึก โดยเฉพาะทรายมีลักษณะดูดคน เคยมีคนเอาช้างมาเลี้ยงจุดนี้ คนเลี้ยงช้างบอกว่าช้างเกือบเอาตัวไม่รอดเพราะทรายดูด"

"อาจารย์เจษฎ์" เปิดสาเหตุ 5 ชีวิต สังเวยบ่อทราย เป็นการพลาดจมน้ำ ไม่ใช่ทรายดูด

ซึ่งตรงนี้เป็นประเด็นที่อาจจะทำให้หลายคนเข้าใจเรื่อง "ทรายดูด" ผิดไป เพราะจริงๆ แล้ว การเกิดทรายดูดนั้น แม้จะเกิดขึ้นได้ในหลายๆ ที่ เช่น ริมตลิ่ง ชายหาด ริมทะเลสาบ หนองบึง และที่เฉอะแฉะ แต่ก็เป็นไปได้ยากมากที่คนจะเสียชีวิตเพราะทรายดูด เนื่องจากส่วนมาก มักจะจมลงไปแค่ครึ่งตัว แล้วติดแน่นขยับไม่ได้ ขึ้นจากทรายหรือโคลนที่จมลงไปนั้นได้ยากมาก เพียงแค่นั้น ไม่ใช่จมหายไปทั้งตัวแบบที่เข้าใจกันจากในหนังฮอลลีวูด ในกรณีที่เกิดขึ้นที่แม่น้ำมูลนี้ จึงน่าจะเป็นเรื่องของการจมน้ำพร้อมๆ กันหลายคน และอาจจะมีการที่พื้นทรายไม่ค่อยแข็งตัว ทำให้ไถลลื่นไปตามกระแสน้ำได้ง่าย

ทรายดูด (หรือ quicksand) เป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่ค่อนข้างแปลกและมีอันตรายได้ โดยปรกติแล้ว พื้นทรายนั้นจะมีสภาพเป็นเม็ดละเอียด มีความแข็ง เคลื่อนตัวได้ยาก แต่ถ้าทรายมีน้ำเข้ามาผสม จะทำให้พื้นทรายอ่อนตัวลง ทรายสามารถไหลได้ ซึ่งในบริเวณที่เกิดเป็นทรายดูดนั้น จะเกิดขึ้นได้ต่อเมื่อมีชั้นของน้ำใต้ดินแทรกอยู่ และน้ำซึมขึ้นมาถึงทรายด้านบน จนเกิดความยืดหยุ่น และไหลเป็นของเหลว น้ำที่แทรกเข้ามาในทรายจะต้องมีปริมาณที่มาก พอที่จะทำให้ทรายถึงจุดอิ่มตัวในการรับน้ำ คือ จะมีน้ำผสมไปมากกว่านี้ไม่ได้แล้ว เมื่อทรายผสมกับน้ำในปริมาณมาก น้ำจะทำให้เม็ดทรายแยกจากกัน และเกาะกันอย่างหลวมๆ จนเหมือนกับของเหลว และยังทำให้แรงเสียดทานลดลงด้วย

ตรงนี้เองที่ถ้าหากคนเราเผลอไปเดินเหยียบเข้า ทรายจะเกิดการยุบตัวลงไป เพราะรับน้ำหนักไม่ไหว ต่างจากพื้นทรายแห้งๆ ที่เม็ดทรายไหลได้ยาก เราก็เลยยืนบนทรายได้ แต่โดยมากแล้ว คนเราจะจมลงไปในทรายดูดนี้อย่างช้าๆ และลงไปแค่ประมาณครึ่งหนึ่งของลำตัว ตามการลอยตัวของร่างกายเราเมื่ออยู่ในน้ำ

ซึ่งถ้าตกลงในทรายดูดจริงๆ สิ่งที่ควรทำคือ ไม่ต้องดิ้นแรง เพราะยิ่งดิ้นแรงเท่าไหร่ ก็ยิ่งทำให้ทรายเคลื่อนที่และตัวเราจะจมลงไปง่ายขึ้น ลึกขึ้นกว่าเดิม แต่ควรอยู่เฉยๆ และรีบตะโกนขอความช่วยเหลือจากผู้อื่น เพราะความพยายามที่จะเอาตัวเองขึ้นจากทรายดูดนั้น ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ดังเช่นในคลิปนี้ของช่อง National Geographic ที่ทำการทดลองลงไปในบ่อทรายดูดริมทะเล และพบว่าแม้จะจมแค่ครึ่งตัว แต่ก็เอาตัวเองไม่ขึ้น ทรายดูดติดแน่นยังกับหล่อปูนไว้ ต้องมีคนอื่นมาช่วยอีกหลายคนถึงจะขึ้นมาได้



สำหรับกรณีที่มีทรายดูดจนทำให้คนเสียชีวิตได้นั้น เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่บ่อยครั้งนัก และมักเกิดจากสาเหตุอื่นประกอบด้วย ดังเช่น กรณีที่พบผู้เสียชีวิตจากทรายดูด ที่แม่น้ำแซนแอนโทนิโอ (San Antonio River) รัฐเท็กซัส ประเทศสหรัฐอเมริกา ในปี ค.ศ. 2015 ที่พบว่านาย Jose Rey Escobedo ซึ่งหายสาบสูญไปหลายวันนั้น ร่างของเขาถูกฝังติดอยู่กับทรายดูด ตั้งแต่เท้าจนมาถึงก้น

กรณีการเสียชีวิตจากทรายดูดของนาย Jose Rey Escobedo นับเป็นเรื่องที่พบได้ยากมากๆๆ คือเป็นแค่รายเดียว จาก 580 รายของผู้เสียชีวิตตามแม่น้ำและทะเลสาบต่างๆ ของรัฐเท็กซัสในรอบ 5 ปี ส่วนสาเหตุการเสียชีวิตของเขานั้น ผลการผ่าชันสูตรระบุว่า เป็นผลมาจากการจมน้ำ เป็นไปได้ว่า เขาอาจจะอยากลงไปว่ายน้ำ แล้วติดอยู่กับทรายดูดที่ริมน้ำ ก่อนที่จะมีฝนตกหนักในวันถัดมา จนทำให้ระดับน้ำสูงขึ้นมาก และทำให้เขาจมน้ำเสียชีวิตในที่สุด

รายงานข่าวได้อ้างอิงถึงสารคดีของ National Geographic ที่พูดถึงงานวิจัยเกี่ยวกับทรายดูดไว้ว่า ร่างกายของคนเราไม่ได้หนาแน่นมากเพียงพอที่จะทำให้ถูกดูดจมลงในทรายดูดทั้งตัวได้ เมื่อเทียบกับความหนาแน่นของทรายดูดซึ่งประกอบไปด้วยเม็ดทราย โคลน และน้ำ

และถึงแม้ว่าคนเราจะถูกดูดติดกับทรายดูดได้อย่างรวดเร็วจริง แต่ก็สามารถที่จะหนีรอดออกมาได้ ด้วยการขยับขาไปรอบๆ อย่างช้าๆ ต่อเนื่อง จะทำให้เกิดช่องว่างระหว่างขากับทรายดูด และทำให้น้ำไหลเข้ามาอยู่ตรงช่องว่างนั้น จนทำให้พื้นทรายหลวมมากขึ้น และพอจะช่วยให้หลุดออกมาจากทรายดูดได้

คำสรุปของเรื่องนี้คือ ทรายดูดหรือโคลนดูดนั้น เป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติที่มีจริง และทำให้เกิดอันตรายได้ แต่ไม่ใช่ว่าถูกดูดจมลงไปทั้งตัวจนเสียชีวิตอย่างที่ภาพยนต์ทำให้เราเข้าใจไปเช่นนั้น ความจริงแล้ว อันตรายจากทรายดูด เกิดจากการที่เราถูกดูดติดอยู่ แล้วระดับน้ำที่สูงเพิ่มขึ้น (ไม่ว่าน้ำจากแม่น้ำ หรือน้ำทะเล) ทำให้เราจมน้ำเสียชีวิตได้ครับ

"อาจารย์เจษฎ์" เปิดสาเหตุ 5 ชีวิต สังเวยบ่อทราย เป็นการพลาดจมน้ำ ไม่ใช่ทรายดูด

อาจารย์เจษฎ์ ยังโพสต์เพิ่มเติมอีกว่า วันนี้ได้รับข้อมูลเพิ่มเติม จากทางเจ้าหน้าที่กู้ภัยที่เข้าไปเก็บกู้ร่างผู้เสียชีวิต ซึ่งยืนยันว่า "พบศพผู้เสียชีวิตที่ผืนทรายในลักษณะจมน้ำตามปกติ" 

ที่เป็นอันตรายของบริเวณท่าทรายริมแม่น้ำมูลแบบนี้ น่าจะเกิดจากการที่ดูดทรายกันไปเยอะ เกิดเป็น "หลุมทราย" ที่ลึกมากหลายเมตร คนที่เดินออกไปในน้ำอาจเหยียบพลาด ตกจมลงไปในหลุมทราย แล้วไม่สามารถสู้กระแสน้ำ จนจมน้ำเสียชีวิตได้ครับ

สำหรับบริเวณที่เราจะเรียกว่าเป็น "ทรายดูด" จริงๆ นั้น ก็ไม่ค่อยจะมีรายงานว่าพบเห็นอยู่เท่าไหร่นะครับ คือมันต้องเป็นลักษณะที่ดูเหมือนกับผืนทรายธรรมดา เหมือนจะเดินได้ทั่วไป แต่ความจริงมีธารน้ำอยู่ด้านล่าง ทำให้มีน้ำเข้าไปผสมกับทรายตรงนั้นค่อนข้างเยอะ ทรายมีความอ่อนนุ่มสูง

และถ้าไปยืนหรือเดินอยู่บนนั้น จะค่อยๆ จมลงไป ประมาณ 10 นาทีก็จะจมไปครึ่งตัวแล้ว (แต่ไม่ได้จะจมไปหมดทั้งตัว เหมือนกับในหนังภาพยนตร์ ทำให้เราเข้าใจผิดนะครับ) ความอันตรายของมัน คือจะทำให้เราขึ้นมาเองไม่ได้ ต้องมีคนมาช่วย และถ้าเกิดระดับสูงน้ำขึ้นบริเวณนั้น (เช่น ที่ริมทะเล ) ก็ทำให้จมน้ำเสียชีวิตได้