จากกรณีประเด็นร้อนในโลกโซเชียล เมื่อเพจเฟซบุ๊ก ทีมพีอาร์การรถไฟแห่งประเทศไทย ได้มีการโพสต์เกี่ยวกับ หลักเกณฑ์การจองตั๋วล่วงหน้า ผู้โดยสารต้องคำนวณระยะทางก่อนจองตั๋ว เพื่อให้ทราบว่าตนเองเข้าเกณฑ์การจองล่วงหน้าได้ 1 วัน, ภายใน 30 วัน หรือ ภายใน 90 วัน
ทั้งนี้ ทีมพีอาร์การรถไฟฯ ได้ทำอินโฟกราฟิกส์ และยกตัวอย่างวิธีการคำนวณระยะทาง ดังนี้
จากโพสต์ดังกล่าวสร้างความสับสนให้กับผู้โดยสาร ขณะที่ชาวเน็ตต่างพากันแชร์ข้อมูลหลักเกณฑ์การจองตั๋วไปวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง จนล่าสุดเพจเฟซบุ๊ก ทีมพีอาร์การรถไฟแห่งประเทศไทย ได้ลบภาพดังกล่าวออกไปแล้ว
ด้าน นายเอกรัช ศรีอาระยันพงษ์ หัวหน้าสำนักงานผู้ว่าการ การรถไฟแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า การรถไฟฯ ขออภัยที่โพสต์ข้อความอินโฟกราฟิกส์ที่เผยแพร่เกี่ยวกับหลักเกณฑ์การจองตั๋วโดยสารล่วงหน้าสูงสุด 90 วัน ที่อาจสร้างความสับสนแก่พี่น้องประชาชน โดยการโพสต์เกณฑ์การจองตั๋วล่วงหน้าดังกล่าวมีเป้าหมายแค่แจ้งระเบียบข้อบังคับของการรถไฟฯ เท่านั้น
ขณะที่วัตถุประสงค์หลักของการขยายเวลาเปิดจองตั๋วโดยสารล่วงหน้าสูงสุด 90 วัน มีเป้าหมายสำคัญเพื่อต้องการอำนวยความสะดวกให้กับผู้โดยสารในการเดินทาง ช่วยให้สามารถวางแผนการจองตั๋วโดยสารล่วงหน้าได้มากขึ้น โดยเฉพาะในเส้นทางระยะไกลจะสามารถจองล่วงหน้าได้สูงสุด 90 วัน ส่วนผู้โดยสารที่ต้องการจองตั๋วโดยสารระยะสั้น ก็สามารถจองตั๋วล่วงหน้าได้ 30 วัน เพราะยังมีขบวนรถ สายอื่นอีกหลายขบวนเป็นทางเลือกในการเดินทางได้
การรถไฟฯ ขอยืนยันว่าในขั้นตอนการจองตั๋วจริง ผู้โดยสารจะไม่มีความยุ่งยากซับซ้อนเพียงให้ผู้โดยสารแจ้งสถานีต้นทาง และสถานีปลายทางที่ต้องการเดินทาง ก็จะสามารถจองตั๋วล่วงหน้าได้ทันที ซึ่งหากเป็นการจองผ่านระบบออนไลน์ D-Ticket ระบบจะคำนวณรายละเอียดการจองให้รับทราบทันทีว่า สามารถจองได้ล่วงหน้าสูงสุดได้กี่วัน
หรือหากเลือกจองตั๋วผ่านเคาน์เตอร์สถานีรถไฟทั่วประเทศ เพียงแจ้งสถานีต้นทาง-ปลายทาง เจ้าหน้าที่จำหน่ายตั๋ว ก็จะแจ้งรายละเอียดให้ผู้เดินทางรับทราบเช่นกัน โดยไม่สร้างความลำบากแก่ผู้ใช้บริการแต่อย่างใด หรือหากผู้โดยสาร ต้องการสอบถามข้อมูลล่วงหน้าเพิ่มเติมติดต่อได้ที่ ศูนย์บริการลูกค้าสัมพันธ์ หมายเลขโทรศัพท์ 1690 ตลอด 24 ชั่วโมง หรือเฟซบุ๊ก แฟนเพจทีมพีอาร์การรถไฟแห่งประเทศไทย
ท้ายนี้ การรถไฟฯ ต้องขออภัยมา ณ โอกาสนี้ และขอขอบคุณทุกความคิดเห็นของประชาชน โดยพร้อมน้อมรับทุกคำติชม เพื่อนำมาใช้ปรับปรุงแก้ไขและพัฒนาการบริการให้ดียิ่งขึ้น เพื่อให้เกิดประโยชน์ สร้างความพึงพอใจต่อประชาชนผู้ใช้บริการสูงสุดต่อไป