
ช่วง 1 ปี ที่ผ่านมา ข่าวลูกช้างป่ากำพร้า พลัดหลงจากโขลง มีให้เห็นอยู่บ่อยครั้ง เริ่มตั้งแต่ "น้องตุลา" ลูกช้างป่าพลัดหลงเพศผู้ ถูกแม่ช้างทิ้ง เนื่องจากมีอาการป่วยเป็นไวรัสเฮอร์ปีส์ โดยทหารพรานนาวิกโยธิน ไปพบที่บริเวณฐานฯ ทุ่งกร่าง ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาสอยดาว เมื่อวันที่ 9 ตุลาคม 2565 และนำมาอนุบาลดูแล ที่ ศูนย์อนุรักษ์สัตว์ป่า สัตวแพทย์ประจำศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ป่าที่ 2 (กระบกคู่) จ.ฉะเชิงเทรา กระทั่งเสียชีวิตลงเมื่อวันที่ 13 สิงหาคม 2566 จากภาวะบาดเจ็บรุนแรงของกระดูกต้นขาหน้าทั้ง 2 ขา หัก ทำให้เกิดการช็อกตามมา
"น้องมีนา" ลูกช้างป่าพลัดหลงเพศเมีย ซึ่งตกลงไปในบ่อน้ำของชาวบ้าน บริเวณทิศตะวันตกหน่วยพิทักษ์ป่าซับหวาย ต.หูทำนบ อ.ปะคำ จ.บุรีรัมย์ นอกพื้นที่นอกพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าดงใหญ่ เมื่อวันที่ 23 มีนาคม 2566 ปัจจุบัน "น้องมีนา" อยู่ในความดูแลของศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ป่าที่ 2 (กระบกคู่) จ.ฉะเชิงเทรา โดยก่อนหน้านี้ลูกช้างถูกตรวจสอบว่า ติดเชื้อไวรัสเฮอร์ปีส์ แต่ผลตรวจเมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 2566 พบว่า "ผลเป็นลบ" และมีสุขภาพแข็งแรง
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่มีการหา "ช้างแม่รับ" ในป่า 2 แห่ง คือ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าซับลังกา และเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าดอยผาเมือง เพื่อสอนการดำรงชีวิตในป่าธรรมชาติ ซึ่งหากเป็นไปตามแผนกระบวนการหาแม่รับช่วงเดือน กันยายน-ตุลาคม 2566 ก็จะมีการปล่อย "น้องมีนา" คืนสู่ธรรมชาติ ช่วงเดือนกันยายน 2567 ต่อไป
"น้องกันยา" ลูกช้างป่าพลัดหลงเพศเมีย ชาวบ้านไปเจอเดินอ่อนแรง อยู่บริเวณริมป่านาตู้ดำ ท้องที่บ้านเทพมีชัย ม.7 ต.หนองเดิ่น อ.บุ่งคล้า จ.บึงกาฬ เมื่อช่วงเช้าวันที่ 12 กันยายน 2566 ถูกนำตัวไปดูแลภายในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูวัว นานกว่า 2 เดือน โดยล่าสุดได้ย้ายไปอยู่กับ "ช้างแม่รับ" ที่ ฟาร์มช้าง Patara Elephant Conservation จ.เชียงใหม่ เมื่อวันที่ 10 พศจิกายน ที่ผ่านมา
ล่าสุด "พลายเดือน" ลูกช้างป่าพลัดหลงเพศผู้ มีชาวบ้านไปพบเดินวนเวียนอยู่แนวชายป่าติดกับไร่มันสำปะหลังของชาวบ้าน ในท้องที่บ้านตลิ่งชัน ต.จระเข้หิน อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา รอยต่อจังหวัดบุรีรัมย์ ใกล้เขตอุทยานแห่งชาติทับลาน เบื้องต้นพบว่า ลูกช้างมีอาการเจ็บขาหลังขวา ผลการเอกซเรย์ (X-ray) อย่างละเอียดพบว่า หัวกระดูกต้นขาส่วนปลายหักผิดรูป โดยจะส่งผลต่อตัวของลูกช้างป่าในระยะยาว ซึ่งนายสัตวแพทย์ประจำสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 7 (นครราชสีมา) ได้ลงความเห็นว่า ควรส่งตัวไปผ่าตัดในโรงพยาบาลสัตว์ที่มีความพร้อมโดยเร็วที่สุด
จากกรณีการเจอลูกช้างพลัดหลงบ่อยครั้ง ทำให้เกิดคำถามว่า อะไรเป็นปัจจัยที่ทำให้แม่ช้าง ทิ้งลูกช้างไว้เพียงลำพัง??
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า "คู่มือการควบคุมและแก้ไขปัญหาช้างป่าในพื้นที่ชุมชน" สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 2 (ศรีราชา) กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ได้อธิบาย "การช่วยเหลือลูกช้างป่าพลัดหลงหรือถูกแม่ทิ้ง" ไว้ว่า
ตามปกติแม่ช้างป่าจะเลี้ยงดูลูกช้างป่า โดยมีช้างป่าเพศเมียในฝูงช่วยกันดูแล และจะมีช้างป่าเพศเมียที่อยู่ในช่วงวัยรุ่นและใกล้เต็มวัยทำหน้าที่เป็นช้างพี่เลี้ยง ดังนั้น หากไม่มีเหตุที่สุดวิสัยจริงๆ ช้างป่าจะไม่ยอมทิ้งลูกเป็นอันขาด ส่วนกรณีที่แม่ช้างป่าทิ้งลูก มีสาเหตุหลักอยู่ด้วยกัน 2 ประการ คือ
1. สาเหตจากการที่แม่ช้างป่าและฝูงเกิดภาวะตกใจจนควบคุม สติไม่ได้ (ลูกช้างป่าพลัดหลง)
ทั้งนี้ อาจเกิดจากการที่ฝูงช้างป่าถูกไล่ตามคุกคาม หรือเกิดจาก การที่ตกใจ กลิ่น เสียงหรือแสงที่ผิดปกติ เช่น เสียงระเบิด เสียงอาวุธปืน ฯลฯ
2. สาเหตุจากการที่ลูกช้างป่วย
เกิดได้ทั้งการเจ็บป่วยเป็นไข้ หรือเกิดบาดแผลภายนอกและเป็นพิษ ดังนั้น ขณะที่จะให้การช่วยเหลือเบื้องต้น ควรพิจารณาและหาสาเหตุให้ชัดเสียก่อน หากสังเกตพบว่าลูกช้างตัวนั้นป่วย ทั้งอาจเป็นไข้ มีแผลติดเชื้อ หรือได้รับบาดเจ็บ จนทำให้ไม่มีแรง และไม่สามารถเดินตามฝูงได้ทัน แม่ช้างและฝูงจำเป็นต้องทิ้งลูกช้างป่าตัวนั้นไว้ หากจะนำลูกช้างป่าไปปล่อยใกล้ฝูงขณะที่ลูกช้างป่ายังไม่แข็งแรง ก็จะไม่มีช้างตัวใดรับไปดูแลเช่นเดียวกัน และตัวลูกช้างป่าเองก็ไม่สามารถเดินตามฝูงได้ทัน ลูกช้างป่าประเภทนี้จึงต้องนำไปรักษาบาดแผล หรืออาการเจ็บป่วยเสียก่อน
ขอบคุณข้อมูล : สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 2 (ศรีราชา), กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช