svasdssvasds
เนชั่นทีวี

สังคม

ตร.เรียกสอบ เสี่ยบิ๊ก เจ้าของสิบล้อ จงใจบรรทุกน้ำหนักเกิน ทำถนนทรุดหรือไม่

ตร.เรียกสอบ "เสี่ยบิ๊ก" เจ้าของสิบล้อ จงใจบรรทุกน้ำหนักเกิน ทำถนนทรุดหรือไม่ ด้าน ผบช.น. สั่งสอบทุกมิติ หากพบเอี่ยวสติกเกอร์ส่วยฟันไม่เลี้ยง ขอคนเเฉให้นำหลักฐานมาเเสดงด้วย

10 พฤศจิกายน 2566 ความคืบหน้าคดี รถบรรทุกสิบล้อ ตกบ่อพักร้อยสายไฟ ที่บริเวณปากซอยสุขุมวิท 64/1 เมื่อวันที่ 8 พ.ย. ที่ผ่านมา และต่อมาพบว่า รถคันดังกล่าว บรรทุกน้ำหนักเกิน ขณะเดียวกัน สังคมยังตั้งข้อสงสัย เกี่ยวกับ "สติกเกอร์บี" หน้ารถว่า เกี่ยวข้องกับ "ส่วยสติกเกอร์" หรือไม่นั้น 
ตร.เรียกสอบ เสี่ยบิ๊ก เจ้าของสิบล้อ จงใจบรรทุกน้ำหนักเกิน ทำถนนทรุดหรือไม่

ล่าสุด ช่วงเช้าวันนี้ พล.ต.ต.พัลลภ แอร่มหล้า (อะ-เเหล่ม) รักษาราชการแทนรองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล และ พ.ต.อ.วิทวัฒน์ ชินคำ รักษาราชการแทนผู้บังคับการตำรวจนครบาล 5 , พ.ต.อ.ภพธร จิตต์หมั่น รอง ผบก.น.5 ในฐานะประธานกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง เข้าประชุมร่วมกับ พ.ต.อ.โอภาส หาญณรงค์ ผู้กำกับการ สน.พระโขนง และคณะทำงาน ที่ สน.พระโขนง 

โดย พ.ต.อ.โอภาส ให้ข้อมูลว่า หลังจากชั่งน้ำหนักรถพบว่า บรรทุกน้ำหนักเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด ได้แจ้งข้อหา กับคนขับรถเรียบร้อยแล้วรวม 2 ข้อหา คือ ขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ทรัพย์สินเสียหาย และทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ

ส่วนตัวเจ้าของรถหรือ เสี่ยบิ๊ก นั้น ตำรวจสามารถติดต่อได้ตั้งแต่แรก แต่เจ้าตัวบอกว่า ยังอยู่ในความตกใจ และยังไม่พร้อมมาให้ปากคำ ยืนยัน ไม่ได้หลบหนี ซึ่งตำรวจประสานเชิญตัวมาสอบปากคำวันนี้  
ตร.เรียกสอบ เสี่ยบิ๊ก เจ้าของสิบล้อ จงใจบรรทุกน้ำหนักเกิน ทำถนนทรุดหรือไม่
 

ส่วนกรณีที่มีการเผยคลิปวิดีโอว่า ในช่วงกลางดึกของคืนวันเกิดเหตุ (8 พ.ย.) มีคนงานนำถังแกลลอนมาถ่ายน้ำมัน ออกจากรถบรรทุกคันเกิดเหตุ ที่จอดไว้ตรงข้าม สน.พระโขนง ฝ่ายสืบสวนได้ติดตามตัวบุคคลในคลิปมาสอบปากคำแล้ว ได้ให้การว่า ได้รับคำสั่งมาให้ถ่ายน้ำมันออกจากถัง เนื่องจากตัวถังได้รับความเสียหายจากอุบัติเหตุ จึงเกรงว่าน้ำมันอาจรั่วจนเกิดอันตราย ซึ่งบุคคลดังกล่าวก็ได้นำน้ำมันของกลาง มาส่งคืนให้กับพนักงานสอบสวนแล้ว  ยืนยันว่าไม่มีเจตนาจะอำพราง ทำให้น้ำหนักรถลดลง ตำรวจจึงยังไม่มีการแจ้งข้อหา
คน  

น.1 ขอหลักฐาน คนเเฉ สติกเกอร์ส่วย ดาวบี  

ขณะที่ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยผ่านทางโทรศัพท์ ระบุว่า ได้สั่งการให้ตรวจสอบเรื่องนี้ในทุกมิติ หากพบสิ่งที่ผิดกฎหมาย ก็ให้ดำเนินการแจ้งข้อกล่าวหาทั้งหมด ไม่ละเว้น แต่ต้องใช้เวลาในการทำงาน 

ส่วนกรณีที่สังคมให้ความสนใจเรื่องส่วยสติกเกอร์ ผบ.ตร. ได้มีคำสั่งให้จเรตำรวจแห่งชาติ รับผิดชอบสืบสวนในเรื่องนี้ โดยทางตำรวจนครบาล จะทำงานร่วมกับจเรตำรวจแห่งชาติ ในการช่วยหาพยานหลักฐาน ซึ่งได้เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่หลังเกิดเหตุ 

อย่างไรก็ตาม รถบรรทุกโดยทั่วไปได้มีการติดสติกเกอร์กันเป็นปกติอยู่แล้ว เพื่อจุดประสงค์ต่าง ๆ ซึ่งก็ต้องพิสูจน์ให้ได้ว่า สติกเกอร์ที่พบนี้ติดเพื่ออะไร หากพบว่าเกี่ยวข้องกับการเรียกรับผลประโยชน์ ก็ต้องดำเนินการตามกฎหมาย และ หากใครที่ออกมาเปิดเผยว่า สติกเกอร์นี้เป็นส่วย ก็ขอให้นำข้อมูลหลักฐาน มาให้กับตำรวจ หากไม่จริง ก็ต้องรับปิดชอบคำพูดตัวเองด้วย 
ตร.เรียกสอบ เสี่ยบิ๊ก เจ้าของสิบล้อ จงใจบรรทุกน้ำหนักเกิน ทำถนนทรุดหรือไม่
 

"เสี่ยบิ๊ก " เจ้าของสิบล้อ เข้าให้ปากคำ 

ขณะที่ล่าสุด นายพชรพล จันทรินทรากร  หรือ เสี่ยบิ๊ก ซึ่งเป็นผู้ครอบครองรถบรรทุกสิบล้อ คันที่เกิดอุบัติเหตุ เดินทางเข้าให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน สภ.พระโขนง เเล้ว ซึ่งทาง ผกก.สภ.พระโขนง เปิดเผยว่า จะใช้เวลาสอบปากคำตลอดทั้งวัน โดยมี จเรตำรวจฯ มาร่วมสอบปากคำ โดยประเด็นที่ต้องสอบ คือ มีส่วนร่วมรู้เห็น ให้คนขับรถบรรทุกสิบล้อ เเบกน้ำหนักบรรทุกดินเหนียวเกินนำหนักที่กฎหมายกำหนดหรือไม่ คือ 25 ตัน  
นายพชรพล จันทรินทรากร  หรือ เสี่ยบิ๊ก เจ้าของรถสิบล้อ  

โดยการเข้าพบตำรวจครั้งนี้ เสี่ยบิ๊ก ไม่ตอบคำถามใดใดกับสื่อมวลชน ทั้งนี้ สำหรับ เสี่ยบิ๊ก ผู้ครอบครองรถ คือผู้ที่ออกมาโวยวาย เเละเป็นผู้จัดการหารถเทรลเลอร์ มาเคลื่อนย้ายรถสิบล้อ ออกจากจุดเกิดเหตุเองทั้งหมด ซึ่งมีภาพปรากฎออกสื่อไปก่อนหน้านี้ สำหรับรถคันนี้ ผู้สื่อข่าวตรวจสอบพบว่า ยังติดไฟเเนนซ์อยู่
ภาพของเสียบิ๊กในวันเกิดเหตุ

นอกจากนี้ คณะพนักงานสอบสวนยังได้เชิญตัว นายศักดิ์มงคล หรือ นายบอย คนขับรถซึ่งถูกแจ้งข้อกล่าวหาไปก่อนหน้านี้ เข้ามาสอบปากคำพร้อมกันด้วย  โดยใช้เวลาเกือบ 6 ชั่วโมง ต้องสอบให้ครบทีเดียวหลายส่วน ทั้งในส่วนของคดี สน.พระโขนง และ จเรตำรวจแห่งชาติ

สำหรับแนวทางการสอบสวนนั้น ตำรวจได้กำหนดกรอบการสอบสวนของคดีนี้ใน 3 ส่วนหลักส่วนแรก คือ การสอบสวนเกี่ยวกับพื้นที่เกิดเหตุ ซึ่งเมื่อวานนี้เวลาประมาณ 22.00 น. ตำรวจได้เข้าตรวจที่เกิดเหตุอีกครั้ง โดยจะนำไปเปรียบเทียบกับจุดบ่อพักจุดอื่น ๆ และ ติดตามการก่อสร้างคานเหล็กเดิม ส่วนนี้จะต้องมีการสอบปากคำ และขอข้อมูลจากวิศวกรรมสถานร่วมด้วย

ส่วนที่ 2 คือ ตรวจสอบกรณีมีคลิปปรากฏการขนถ่ายน้ำมัน ซึ่งได้มีการเรียกสอบบุคคลที่ปรากฏในภาพว่าเป็นผู้ขนถ่ายน้ำมันแล้ว ส่วนถังน้ำมันที่ถ่ายออกมา จะส่งให้ตำรวจพิสูจน์หลักฐานตรวจสอบ

ส่วนที่ 3 คือ การสอบปากคำผู้เกี่ยวข้อง ทั้งผู้ควบคุมงานโครงการก่อสร้างคอนโดมิเนียม ในซอยสุขุมวิท 64/2 , ผู้ควบคุมดูแลบ่อดินจุดเกิดเหตุ , ผู้ดูแลสถานที่เทดินบริเวณรามอินทรา 19 พนักงานตักดินของโครงการก่อสร้างคอนโดมิเนียม , ผู้ที่อยู่บริเวณกองดินจุดเกิดเหตุ , คนขับรถบรรทุกทั้ง 3 คัน ของเสี่ยบิ๊ก ดาวเขียว รวมถึงคันที่เกิดเหตุ ,  ขอข้อมูลจากนายกสมาคมขนส่งในเรื่องของสติกเกอร์ , สอบปากคำพนักงานที่ทำความสะอาดคราบน้ำมันในจุดเกิดเหตุ , สอบปากคำผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในเรื่องของสติกเกอร์ , สอบปากคำรถบรรทุกทุกคัน ที่ขับเข้าออกโครงการก่อสร้างคอนโดมิเนียม และบริษัทที่การไฟฟ้านครหลวง รับจ้างมาดำเนินการขุดบ่อ